"ปักเป้า" ปลาที่ไม่ควรหม่ำ

          ปลาปักเป้ามีอยู่ทั้งในน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย เป็นปลาที่ไม่มีกระดูก เนื้อสีขาวอมชมพู มีพังผืดหุ้มชินเนื้อ เมื่อปรุงสุกแล้วแล้วเนื้อจะมีสีขาว หนานุ่มคล้ายเนื้อไก่ ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ปลาเนื้อไก่"

พิษของปลาปักเป้า

• ปลาปักเป้าทะเล จะมีพิษที่เรียกว่า "Tetrodotoxin (TTX)” บริเวณที่มีพิษมากที่สุด คือ ไข่ปลา ตับ ลำไส้ หนังปลา และเนื้อปลา

• ปลาปักเป้าน้ำจืด จะมีพิษที่เรียกว่า "Paralytic Shellfish Poisoning (PSP)” บริเวณที่มีพิษมากที่สุด คือ หนังปลา ไข่ปลา เนื้อปลา ตับ และ ลำไส้

           ปริมาณพิษในตัวปลาปักเป้ามีมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับ ที่อยู่อาศัย อาหาร ฤดูวางไข่ ที่จะคอยกระตุ้นให้ปลาสร้างสารพิษเพื่อป้องกันตัวมากขึ้น หรืออาจเกิดจากการแล่ที่ไม่โดน "ถุงน้ำดี" หรือ "เส้นพิษ"

ความร้ายแรงของพิษปลาปักเป้า

          พิษของปลาปักเป้าแค่ 2 มิลลิกรัม ก็สามารถที่ทำให้คนที่รับประทานเสียชีวิตได้ โดยที่พิษของปลาปักเป้าจะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท ทำให้ลิ้นชา อาเจียน กล้ามเนื้อ แขนขาอ่อนแรง ขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจลำบาก อาการเหล่านี้จะแสดงให้เห็นหลังจากที่ทานปลาเข้าไปแล้วตั้งแต่ 5 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณพิษที่รับเข้าไป โดยมีการแบ่งอาการได้ 4 ขั้น คือ

1. ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับส่าย

2. ชามากขึ้น อาเจียนมาก อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้

3. เคลี่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดลำบากจนถึงขั้นพูดไม่ได้ เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต แต่ผุ้ป่วยยังรู้สึกตัว

4. กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วร่างกาย หายใจลำบาก ตัวเขียวคล้ำ หมดสติ รูม่านตาโตเต็มที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง

          ทราบถึงความร้ายแรงของปลาปักเป้ากันไปแล้วนะจ๊ะ คราวนี้น้องๆ ชาวDek-Dที่ยังคิดอยากที่จะไปลองชิมกันดูล่ะก็ พี่ปัดขอบอกว่าอย่าลองเลยดีกว่าจ๊ะ เพราะมันไม่คุ้มที่พวกเราจะเสี่ยง ฝากอีกนิดนะจ๊ะ ถึงแม้เราจะทำให้ปลาปักเป้าสุก แต่ก็ไม่ส่ามารถทำลายพิษได้ เพราะพิษในปลาปักเป้าสามารถทนความร้อนได้นานถึง 170 องศสเซสเซียส

พี่ปัดขอขอบคุณข้อมูลดีๆ แบบนี้จากนิตยสารHeath & Cuisineค่ะ

ภาพประกอบจากwww.arunsawat.com,www.panyathai.or.th,th.wikipedia.orgค่ะ