น้องๆ ชาว Dek-D.com เคยเครียด
ปวดหัวตึ้บๆ หรือเปล่าจ๊ะ พี่นัทเชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นอยู่ วันนี้พี่นัทมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะทำให้น้องๆ ชาว Dek-D.com สามารถเปลี่ยนความเครียดให้เป็นประโยชน์ได้จ้า เคยเห็นคนที่ก้าวไป
ไม่ย่อท้อภายใต้ความเครียดไหม เรารู้ดีว่าคนประเภทไหนที่เป็นแบบนี้
เวลาที่คุณคิดว่างานหนักท่วมทับ คนพวกนี้จะเห็นเป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น
เวลาที่เห็นหนทางน่ากลัวในดินแดนที่ไม่เคยไป พวกเขาเห็นเป็นการผจญภัย บางที คนพวกนี้รู้ว่าอย่างน้อยวิธีเอาชนะผลกระทบด้านลบของความเครียดซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้น้ำหนักเพิ่ม เป็นโรคหัวใจ ซึมเศร้าและวิตกกังวล อยู่ที่การรับมือ ไม่เครียดเลยก็น่าเบื่อ ดังนั้น เครียดบ้างก็ดี ดร. โรเบิร์ต มอนเดอร์ นักจิตวิทยาแห่งโรงพยาบาลเมาท์ไซไนในแคนาดา กล่าว แม้ความเครียดที่เข้มข้นเกินไปจะเป็นผลดีได้ยาก แต่มีวิธีเชิงบวกที่จะรับมือกับความเครียดนั้น นี่คือเจ็ดวิธีที่จะช่วยคุณเพิ่มทักษะขจัดความเครียด 1. เปลี่ยนความกังวลเป็นการแก้ปัญหา ความกังวลคือกระบวนการของการจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่เจ็บปวด ทำไมไม่ลองเปลี่ยนความกังวลมาเป็นารแก้ปัญหาไปทีละขั้นล่ะ ลองชั่งน้ำหนักว่าปัญหาไปควรจะแก้ก่อนหรือหลัง อันไหนสำคัญกว่า ก็แก้ก่อน 2. อย่าไปแคร์สื่อ บางทีความเครียดก็ไม่ได้เกิดจากตัวเราเสมอไป คนรอบข้างเป็นเหตุสำคัญที่อาจก่อให้เกิดความเครียด พยายามอย่าเอาตัวเข้าไปครุกอยู่กับปัญหา แต่ให้ก้าวออกมามองปัญหาภาพกว้างบ้่่างอาจเห็นทางออกได้ไม่ยาก 3. ถามตอบตัวเอง ให้เขียนสิ่งที่กังวลลงในกระดาษ จากนั้นถามตัวเองว่าถ้าสิ่งที่อยากให้เกิดไม่เกิด
หรือสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดกลับเกิด ผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดกับฉันคืออะไร
จากนั้นถามตัวเองว่าเรื่องดีๆที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ถ้าสิ่งที่ฉันอยากให้เกิดไม่เกิด
หรือสิ่งที่ฉันไม่อยากให้เกิดกลับเกิด
ค้นหาความคิดหรืออารมณ์เชิงบวกที่จะดึงออกมาได้ขณะนึกหาทางออกอื่น 4. เจาะลึก เรื่องร้ายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป มีข้อดีอะไรบ้างไหมในเรื่องที่ทำให้เครียด แทนที่จะคิดหมกมุ่น ดูสิว่าจะสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างไรการมองหาความหมายและคุณค่าจากประสบการณ์ที่พานพบช่วยทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดพอทนได้มากขึ้น
5. สร้างตัวกระตุ้นภายใน งานวิจัยใหม่ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในเรื่องสมองระบุว่า
ความเครียดเรื้อรังเป็นมูลเหตุให้สมองถูกทำลายเพราะเซลล์สมองหยุดสร้างเซลล์ใหม่
ข่าวดีนะหรือ
สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยฟื้นฟูส่วนที่ถูกทำลายนั้นได้โดยเร่งสร้างเซลล์ใหม่
ลองหันเหไปทำอย่างอื่นบ้าง เช่นคนที่ออกกำลังทุกวัน
แค่ออกกำลังง่ายๆด้วยการเดินก็ได้
มีโอกาสเครียดสูงน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังถึงร้อยละ 41 6. หาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง บางคนพบว่าการอ่านเรื่องราวของคนอื่นช่วยให้รับมือกับความ เครียดได้ดีขึ้น
มอนเดอร์แนะให้มองหาแรงบันดาลใจใกล้ๆตัว การถอยกลับสักก้าวและทบทวนความสำเร็จของตัวเองในอดีตจะช่วยให้รับมือปัญหาได้ดีขึ้นเขากล่าว กรรมวิธีนี้ช่วยตอกย้ำให้ตัวเองว่า ฉันเคย รับมือกับเรื่องราวมากมายในอดีตมาแล้ว เรื่องนี้จะจัด การอย่างไรดี
7. แบ่งเบาภาระออกไป นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแพทย์กราซในออสเตรียศึกษาเมื่อปี 2550 พบว่า การบำบัดพฤติกรรมแบบกลุ่มในระยะสั้นได้ผลลัพธ์ออกมาดี ช่วยลดแรงดันเลือดและความ เครียดโดยรวมของผู้รับการบำบัดที่เครียดเพราะงานหนัก วางแผนกิจกรรมที่จะทำประจำวัน มีครอบครัวและเพื่อนคอยสนับ สนุนให้ลงมือทำกิจกรรมใหม่เหล่านี้ จะมีส่วนช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดด้วยวิธีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซอนเดอร์สกล่าว
แล้วอย่างนี้น้องๆ ชาว Dek-D.com
เลือกที่จะเครียดกับปัญหาต่อไป หรือเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาสที่เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากเราได้ล่ะจ๊ะ ข้อมูลอ้างอิง : readersdigest.com ภาพประกอบ : moph.go.th , gotoknow.org |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
24 ความคิดเห็น
555555555555+
หัวเราะแก้เครียด!!!!!
คน ทั้ทีทำงานด้วย ทั้งคนรอบข้าง
ทุกข้อ เราหมดเลยมั้งเนี่ยยยย
เครียด ๆ ! ! ! ! !
เดี๋ยวเอาไปใช้มั่ง ^_^
แต่มักจะช็อคกับผลของการที่ไม่ค่อยเครียดซะมากกว่า (อาทิเช่น เรียน) = =
มีประโยชน์หลาย ^^
หนูมีวิธีการแก้เครียดนะคะ เวลาที่เราเครียดเนี้ย อย่าไปสนไปอะไรทั้งนั้น
อยากทำอะไรก็ทำไปโล้ด ( ขอให้เป็นสิ่งที่ดีนะคะ )
พอเริ่มรู้สึกว่ามีความสุขแล้วก็ หันกลับมามองตนเองว่า มีงานอะไรที่ต้องทำบ้างหรือเปล่า
คือ มันเป็นการช่วยผ่อนปล่นความเครียดน่ะค่ะ ^^
เครียดเรื่องเรียนอย่างเดียวนี่แล่ะค่ะ
เครียดจนเป็นโรคกระเพาะ
และมายเกรนเลยTT
ใช่ ถูกต้อง เห็นด้วยมากๆๆ
ขอบคุณมากค่ะ