กำเนิด"สบู่"...เพิ่งรู้นะเนี่ย!

ถู...ถู...ถู...มีใครไม่เคยอาบบน้ำถูสบู่บ้างเปล่าเอ่ย....

วันนี้พี่นัทจะพาไปค้นหากำเนิดสบู่กันเลย

 

          คนสมัยก่อนไม่ได้ใช้สบู่ถูตัวเช่นสมัยนี้ การอาบน้ำในสมัยนั้นยุ่งยากมาก ต้องใช้ขี้เถ้าผสมน้ำแล้วเอามาทาตัว จากนั้นก็ทาทับด้วยน้ำมันหรือไขมัน แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอีกครั้ง เป็นความฉลาดของคนในสมัยนั้นจริงๆเพราะในทางวิทยาศาสตร์ องค์ประกอบเคมีของขี้เถ้ากับไขมัน คล้ายกับองค์ประกอบของสบู่มาก

           สบู่ก้อนแรกของโลกเกิดขึ้นบนแท่นบูชายัญเมื่อ 2500 ปีที่แล้ว ชาวโรมันที่อยู่ในพิธีสังเกตว่าเมื่อสัตว์ถูกเผาบนแท่นไม้จะมีไขมันไหลออกมา และเมื่อฝนตกลงมาถูกไขมันนั้น ก้อนไขมันก็จับตัวแข็งกลายเป็นก้อนไหลลงไปในลำธาร แม่บ้านที่เอาผ้ามาซักที่ลำธารได้เอาก้อนไขมันนี้ถูผ้า ปรากฎว่าผ้าสะอาดมากขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของการเอาไขมันแพะไปต้มกับขี้เถ้าจากการเผาไม้ กลายเป็นสบู่ในยุคเริ่มแรก


           คนกลุ่มแรกที่ประดิษฐ์สบู่ขึ้นมาใช้ถูตัวกันเป็นเรื่องเป็นราวคือชาวสุเมรียน โดยการต้มน้ำในหม้อให้เดือดแล้วเทขี้เถ้าและไขมันลงไป จากนั้นก็คนให้เข้ากันแล้วเติมเกลือ ไขมันก็จะจับตัวกันเป็นก้อนแข็งลอยขึ้นมา ก้อนไขมันนี้ก็คือสบู่นั่นเอง แต่สบู่แบบนี้มีข้อเสียคือจะนิ่มและเละแตกเป็นชิ้นๆ ได้ง่าย ต่อมาเมื่อมีคนใช้สบู่กันเป็นวงกว้าง นักประดิษฐ์ก็หาหนทางทำให้สบู่ใช้ทนทานขึ้นโดยการนำไขที่ได้จากการต้มไปผสมกับสารละลายเกลือแล้วทิ้งไว้ระยะหนึ่ง ก็จะได้สบู่ที่แข็งกว่าเดิม เพราะมีเวลาให้ก้อนไขมันจับตัวกันได้นานขึ้น


สบู่จากธรรมชาติ

         นอกจาก้อนไขมันแล้ว ยังมีวัสดุธรรมชาติอย่างอื่นอีกที่คนสมัยก่อนนิยมเอามาใช้เป็นสบู่ โดยเฉพาะพืช และมีเรื่องประหลาดว่า ที่เกาะไซโมลัส ในทะเลอีเจียน มีก้อนบางอย่างหน้าตาเหมือนสบู่เกิดขึ้นเองทั่วไปทั้งเกาะ ซ้ำเมื่อเอามาถูตัวและซักผ้าก็สะอาดไม่แพ้กันด้วย โดยเฉพาะเวลาฝนตกหนักเจ้าก้อนนี้จะมีฟองออกมาจนทั้งเกาะปกคลุมไปด้วยฟองหนาหลายฟุตเลยทีเดียว



เส้นทางของสบู่สมัยใหม่

         สบู่สมัยใหม่ที่เราเห็นว่าทั้งสวยทั้งหอม เริ่มมีขึ้นในปีค.ศ. 1879 แต่เดิมฝรั่งไม่ค่อยชอบอายน้ำและไม่สนใจเรื่องโรคผิวหนังเท่าไร จนกระทั่งวงการแพทย์มีข้อมูลว่าแบคทีเรียบนผิวหนังและเสื้อผ้าสามารถทำให้เป็นโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาได้ ก็เลยเกิดความตื่นตัวในการใช้สบู่ถูตัวมากขึ้น

         สบู่ก้อนที่มาปฎิวัติวงการเกิดมาจากอุบัติเหตุ เมื่อคนงานคนหนึ่งในโรงงานสบู่ของ "นายฮาร์เลย์ พร็อกเตอร์" เกิดลืมปิดเครื่อง ปล่อยให้ส่วนผสมถูกตีอยู่ในเครื่องนานเกินไป แต่ส่วนผสมที่ได้กลับมีความพิเศษตรงที่เบากว่าเดิมและลอยน้ำได้ "พร็อกเตอร์" ก็เลยจับมือกับนักเคมีชื่อ "เจมส์ แกมเบล" ร่วมกันผลิตสบู่แบบใหม่ที่มีฟองนุ่ม เบา และลอยน้ำได้ เรียกว่า "สบู่ไอวอรี่" ซึ่งก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จากนั้นก็มีการคิดค้นใส่สี กลิ่น และคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ลงในสบู่ จนออกมาเป็นสบู่อย่างที่เราใช้กันทุกวันนี้

 อย่างงี้ก็รู้แล้วนะว่าเจ้าสบู่ที่ใช้กันอยู่ทุกวันมีที่มาที่ไปอย่างนี้เองนะเนี่ย

อิอิ...น้องๆก็อย่าลืมใช้มันทุกวันอาบน้ำกันให้สะอาดๆนะจ๊ะ

เผื่อคนข้างๆจะได้ไม่จามพี่นัทล้อเล่นนะจ๊ะ...แต่คิดจริง..อ้าว!

น้องอยากรู้เรื่องไหนเข้าไปฝากไว้ที่ MY ID พี่นัทได้

หรือส่งเมลล์มาก็ได้นะจ๊ะที่ judne@dek-d.com

 

 

ที่มา : makeupbytin.com

พี่นัท

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

17 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ขนนกแห่งรัตติกาล สาวกบารามอส Member 15 มิ.ย. 51 10:36 น. 12

เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึงนะคะ

หนังสือเล่มนั้นบอกว่าการใช้สบู่เหลวจะทำให้เกิดมะเร็งได้

แถมเรื่องนี้ยังเคยออกโทรทัศน์อีก ใครรู้บ้างคะ ว่าจริงๆ รึเปล่า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด