เปิดแบบเรียนเพศศึกษาของเด็กประถมจีน ที่พ่อแม่หลายคนรับไม่ได้!


 
Spoil
  • วัยรุ่นจีนหลายคนเข้าใจผิดๆ ว่าแค่จูบก็ท้องได้
  • ทดลองปรับแบบเรียน สอนเรื่อง LGBT และเพศศึกษาตอนประถม
  • ผู้ปกครองจีนเชื่อว่า แบบเรียนใหม่จะทำให้ลูกใจแตก!
    ________
     

          อย่างที่เรารู้ๆ กัน เวลาพูดถึงเพศศึกษา หลายๆ คนมักจะมองว่าเรื่องแบบนี้ใครเค้าเอามาพูดกัน โดยเฉพาะในโซนเอเชียที่การพูดเรื่องเซ็กส์ ถุงยางอนามัย กลายเป็นเรื่องน่าอาย ในประเทศจีนเองก็เช่นกันค่ะ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการปรับเปลี่ยนแบบเรียนสุขศึกษาเด็กประถมใหม่ และก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นที่ผู้ปกครองออกมาประท้วง!
 
พ่อแม่จีนนิยมบอกลูกถูกเก็บมาจากถังขยะ!

          ถ้ายังนึกไม่ออกว่าชาวจีนเหนียมอายกับเรื่องเพศศึกษาแค่ไหน ลองให้ลูกๆ หลานๆ ในประเทศจีนถามพ่อแม่ดูสิคะว่าหนูเกิดมาจากไหน ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้ก็คือ เก็บมาจากถังขยะ เพราะไม่อยากจะตอบความจริงหรืออธิบายเรื่องต่างๆ
 
เด็กชายชาวจีนเรียนหนังสือ
ภาพจาก pixabay.com

 
ยิ่งสอนเยอะ ยิ่งชี้นำ มันคือเรื่องต้องห้าม
 
          สำหรับสังคมจีนแล้ว พ่อแม่ยังคงมีความเชื่อว่าการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการชี้โพรงให้กระรอก เหมือนการยั่วยุให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องผิดและเลวมากๆ 
 
          นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักเรียนมัธยมหลายๆ คนมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา จากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าวจีนรายงานว่า สาวๆ หลายคนเชื่อว่าการจูบจะทำให้ท้องได้ และมีผู้หญิงคนหนึ่งคิดว่าตัวเองท้อง เพราะเพื่อนผู้ชายใช้ผ้าขนหนูผืนเดียวกับเธอ
 
          นักเรียนมัธยมยอมรับว่า การเรียนรู้เพศศึกษาของวัยรุ่นจีนส่วนใหญ่มักจะมาจากอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เพราะเข้าถึงได้ง่ายและเป็นส่วนตัวกว่า ไม่ต้องอายใคร แต่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
 
วัยรุ่นนิยมใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้เพศศึกษาเป็นหลัก
ภาพจาก pixabay.com

 
ตำราเรียนยุคใหม่ สอนเรื่องเพศศึกษาตั้งแต่ประถม!

          จากค่านิยมเรื่องเพศที่ชาวจีนมีนั้น ทำให้นักวิชาการหลายๆ คนเป็นห่วง และพยายามลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ในปี 2551 กระทรวงศึกษาธิการของจีนจึงออกแนวทางการเรียนการสอนสุขศึกษาใหม่ โดยเน้นตั้งแต่เด็กประถมที่จะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเรื่องเพศ การเจริญเติบโต นักเรียนมัธยมควรจะต้องรู้จักทักษะการเอาตัวรอดและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสียงที่ทำให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศ
 
          จนกระทั่งมหาวิทยาลัยครูแห่งปักกิ่ง (Beijing Normal University) จัดทำตำราเรียนสุขศึกษาขึ้นมา โดยทำการวิจัยและพัฒนาแบบเรียนนี้มากับโรงเรียนทดลองถึง 9 ปี มีการฝึกอบรมครูผู้สอน และมีการติดตามผลตลอดภาคการศึกษา ซึ่งภายในเล่มประกอบด้วยภาพการ์ตูนน่ารักสีสันสดใส ควบคู่ไปกับเนื้อหาที่เจาะลึกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แน่นอนค่ะ พอมาเปิดเผยแบบนี้ ผู้ปกครองหลายคนรับไม่ได้ คุณแม่ท่านหนึ่งถึงกับถ่ายรูปลง weibo ตำหนิว่านี่หรือคือแบบเรียนเด็ก ป.2 เหมาะสมแล้วจริงๆ เหรอ ฉันอ่านเองยังอายเองเลย กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง 
 
แบบเรียนสุขศึกษา ป.2
แบบเรียนสุขศึกษาแบบใหม่ ป.2 ที่มีวางขายในออนไลน์ เช่น เว็บ amazon ด้วย 

 
หลักสูตรที่เด็กเรียนรู้ แต่ผู้ใหญ่เดือดร้อน
 
          หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเด็กๆ เรียนอะไรกัน ทำไมผู้ปกครองบางคนถึงรับไม่ได้ ลองมาดูตัวอย่างบทเรียนกันค่ะ 

          แบบเรียน ป.2 : เรียนรู้เกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถประกอบอาชีพใดๆ ก็ได้  ผู้หญิงสามารถเป็นตำรวจที่เก่ง หรือแม้แต่นักบินอวกาศสุดเท่ ส่วนผู้ชายก็เป็นพยาบาลและครูอนุบาลได้เช่นกัน
 
          และยังมีบทเรียนเพื่อการตระหนักรู้ว่าการสัมผัสทางกายที่ไม่ยินยอมจากบุคคลต่างๆ ทั้งคนแปลกหน้าและญาติๆ เป็นเรื่องที่ต้องระวังและปฏิเสธได้ทันที ซึ่งมีการจำลองสถานการณ์เป็นรูปภาพให้เห็นชัดด้วย
 
ภาพตัวอย่างจากแบบเรียนสุขศึกษา ป.2
เด็กชายบอกพ่อแม่ว่าคุณลุงพยายามจะจับอวัยวะเพศ แต่เด็กชายปฏิเสธไป
แม่บอกว่าถ้าลุงทำแบบนั้นอีก เราจะแจ้งตำรวจ

ภาพจาก : Liu Wenli บรรณาธิการหนังสือสุขภาพทางเพศระดับประถม, เกรดสอง, 
Beijing Normal University Press, 2014


 
          แบบเรียน ป.4 : เรียนรู้ความต้องการทางเพศ และการยอมรับความแตกต่าง คนเรามีความพึงพอใจในเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกันก็ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด 
 
          แบบเรียน ป.5 : เรียนรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการใช้ถุงยางอนามัยคือวิธีที่ดีที่สุด
 
ภาพตัวอย่างจากแบบเรียนสุขศึกษา ป.5
ภาพจาก www.huffingtonpost.com

 
          งานนี้มีทั้งผู้ปกครองที่ต่อต้าน บอกว่าเนื้อหารุนแรงเกินไป เด็กจะใจแตกและกลายเป็น LGBT กันมากขึ้น ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมาสนับสนุนและชื่นชมว่าเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ดีที่จะมาเปลี่ยนแปลงสังคม และน่าจะช่วยให้เด็กๆ รู้จักดูแลและป้องกันตัวเองได้ดีขึ้นในอนาคต
 
          แล้วน้องๆ ในฐานะวัยเรียนเหมือนกัน เห็นด้วยกับแบบเรียนแนวนี้หรือไม่ แล้วอยากให้ของไทยเป็นแบบไหนบ้างคะ?

 
ข้อมูลจาก
http://shanghaiist.com/
https://www.abc.net.au/
https://zhuanlan.zhihu.com/
https://www.huffingtonpost.com/


 
พี่แก้ว
พี่แก้ว - Columnist คอลัมนิสต์ชีวิต 150 เซนฯ ถือคติอกหักเรื่องเล็ก แต่มีแฟนไม่ตรงสเป็กสิเรื่องใหญ่

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ItsFreakingCool,man! Member 30 มี.ค. 62 11:08 น. 1

เนื้อหาเหมาะสมดีนะ ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งสามารถนำไปแก้ปัญหาในเรื่องพวกนี้ได้

ควรจะนำเสนอความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติทางเพศ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม รู้ก็ดีกว่าไม่รู้นั่นแหละ

พอเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว ก็จะสามารถปลดปล่อยในทางที่เหมาะสม

0
กำลังโหลด
pattamonprepram Member 2 เม.ย. 62 17:39 น. 3

เป็นการเรียนที่ควรนำมาใช้ในไทย(รวมถึงประเทศอื่นๆที่ยังหัวโบราณอยู่)มากเลยค่ะ เนื้อหาก็เหมาะสมดี

0
กำลังโหลด
White-Lie Member 22 เม.ย. 62 18:36 น. 4

บางทีอยู่จีนก็สงสัยคนจีนบางประเภทนะ​ จะว่าไปคนไทยบางประเภทก็ไม่ต่างกัน​ อยากให้ลูกเป็นนั้นเก่งนี้รู้โน่น​ แต่ห้ามให้​เรียนรู้​ เช่นอยากให้โตมาเก่งๆรวยๆแต่ไม่อนุญาต​ให้ไปฝึกงาน​ และอัดเรียนพิเศษ​ อยากให้ลูกระวังภัย​ แต่ไม่ให้ลูกรู้วิธีป้องกัน​ พอลูกทำตามแล้วไม่ได้ดังหวังก็อับอาย​ พอลูกดื้อเรียนรู้ก็ด่าว่า​ แต่พอลูกดันได้กับเชิดหน้าว่าเป็นลูกฉัน​ ไม่เถียงว่พ่อแม่ผู้ปรกครองดีๆมีก็มาก​ แต่พูดเลยแบบนี้ก็ใช่ว่าไม่มี

1
ItsFreakingCool,man! Member 22 เม.ย. 62 19:09 น. 4-1

ไม่ชอบการที่พ่อแม่คาดหวังให้ลูกทำนั่นทำนี้ หรือเลี้ยงลูกให้เด่นเพื่ออวดกันโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูกเลย และความคิดที่ว่าลูกต้องคิดเหมือนพ่อแม่ 

ไม่จริงเลย เพราะลูกไม่ได้อยู่บ้านอย่างเดียว เขาก็มีสังคมของเขา ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากที่นั่น ไลฟ์สไตล์ ค่านิยมของคนแต่ละรุ่นก็ต่างกัน อย่าว่าแต่คนละรุ่นเลย รุ่นเดียวกันที่คิดไม่เหมือนกันก็มี 

เราเห็นด้วยกับคุณที่ว่าต้องลงมือปฏิบัติหรือไปเห็นของจริงถึงจะได้ข้อมูลที่realกว่าในหนังสือที่ถูกคัดกรองเพื่อให้มีเนื้อหาเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับในสังคม 

สิ่งที่สังเกตเห็นจากพ่อแม่คนไทยและคนจีนคือขี้บ่น ถ้าแรงหน่อยคงทำให้ลูกคิดว่าความเป็นจริงก็น่าจะเป็นเหมือนที่พ่อแม่พูด จากนั้นเกิดความกลัว เชื่อตามนั้นโดยที่ไม่พิสูจน์และไม่เปิดรับข้อมูลใหม่ๆที่อาจค้านกับความคิดทียึดถือนี้ 

จนในที่สุดก็กลายเป็นคนที่มีทัศนคติแคบ คิดว่าตัวเองถูกแต่ที่จริงรู้น้อย เวลาเจอปัญหาก็จะกลัวไปก่อนโดยไม่รอดูก่อนหรือคิดตามเหตุการณ์จริงเลย น่าเศร้า...

0
กำลังโหลด
แรคคูนงอนโลกมนุษย์ Member 2 เม.ย. 62 10:16 น. 2

คนเอเชียไม่ว่าประเทศไหนก็อายเรื่องเพศศึกษากันเนอะ วัฒนธรรมของพวกเราหรือยังไงกัน

มีอะไรต้องซ่อนไว้ต้องปกปิดไว้กันหมดทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

1
Sixtyone Member 4 เม.ย. 62 14:38 น. 2-1

-ธรรมเนียมปกปิดน่าจะแพร่จากตะวันตกช่วงยุคล่าอาณานิคมนี่แหละค่ะ เพราะสมัยอยุธยายังไม่ใช่เรื่องน่าอายขนาดนี้เลย จำได้ว่าตอนที่ออเจ้าดัง มีการถกเรื่องสงวนเนื้อสงวนตัวอยู่เลย

0
กำลังโหลด
เอซิน Member 18 พ.ค. 62 15:09 น. 5

ครูโรงเรียนเราสอนเพศศึกษาแบบสุดโต่งมากเลยนะ ตอนม.ต้นสอนเรื่องถุงยาง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สอนทุกอย่าง มีภาพประกอบ สอนให้รู้จักป้องกัน มีได้แต่ต้องเซฟ แต่ถ้าเลี่ยงได้จะดีที่สุด มีจำลองสถานการณ์ว่าถ้าถูกชักชวนจะปฏิเสธยังไงด้วย ครูเข้าใจวัยรุ่นมาก แล้วที่โรงเรียนก็จัดค่ายเพศศึกษา สาธิตวิธีเลือกขนาดและใส่ถุงยาง แถมบอกด้วยว่าเป็นผู้หญิงต้องใส่ให้เป็น(เพราะมันเร้าอารมณ์ชายถ้าใส่ให้5555) สาธิตว่าเขาทำแท้งกันยังไง คือหมดเปลือกเลยอะ แต่เราที่ผ่านการเรียนแบบนั้นมาก็ไม่ได้ใจแตกอะไรนะ ก็ยังเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทครอบครัวยังตั้งใจเรียน ยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ


เราก็รู้ว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ รู้วิธีป้องกันตัว รู้ทุกอย่าง เราคิดว่าการที่เรารู้หมดเปลือกแบบนี้มันปลอดภัยกว่าและรู้เท่าทันอันตรายมากกว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลย ถ้าไม่รู้เรื่องเลยแบบที่ยกตัวอย่างในกระทู้แล้วถูกหลอกไปมีเพศสัมพันธ์ก็ยังไม่รู้ตัวล่ะ พ่อแม่หลายๆท่านควรคิดให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้ จะดีกว่าไหมถ้าโรงเรียนสอนเพศศึกษาแบบถูกต้องถูกวิธีให้ มันดีกว่าที่ลูกคุณไปเรียนรู้เอาเองจากสื่ออินเตอร์เน็ตที่ถูกๆผิดๆ และการปิดกั้นจะทำให้เด็กอยากรู้อยากลองมากกว่าเดิมหรือเปล่า?


และเรื่องLGBT ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเรียนเพศศึกษาแล้วจะเป็น อันนี้มันขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคล ต่อให้ไม่ได้เรียนแต่ใจอยากเป็นมันก็เป็นค่ะ เรื่องแบบนี้ห้ามไม่ได้และไม่ควรห้ามนะคะ


เราอายุ18 กำลังจะขึ้นปี1 เรียนเพศศึกษามาตั้งแต่ประถมปลาย ปัจจุบันยังเรียนดีอยู่ เรียนเพศศึกษาไม่ได้ทำให้ใจแตกค่ะ


พอดีอินกับเรื่องนี้นิดหน่อยค่ะ55555

2
กำลังโหลด

6 ความคิดเห็น

ItsFreakingCool,man! Member 30 มี.ค. 62 11:08 น. 1

เนื้อหาเหมาะสมดีนะ ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งสามารถนำไปแก้ปัญหาในเรื่องพวกนี้ได้

ควรจะนำเสนอความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติทางเพศ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม รู้ก็ดีกว่าไม่รู้นั่นแหละ

พอเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว ก็จะสามารถปลดปล่อยในทางที่เหมาะสม

0
กำลังโหลด
แรคคูนงอนโลกมนุษย์ Member 2 เม.ย. 62 10:16 น. 2

คนเอเชียไม่ว่าประเทศไหนก็อายเรื่องเพศศึกษากันเนอะ วัฒนธรรมของพวกเราหรือยังไงกัน

มีอะไรต้องซ่อนไว้ต้องปกปิดไว้กันหมดทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

1
Sixtyone Member 4 เม.ย. 62 14:38 น. 2-1

-ธรรมเนียมปกปิดน่าจะแพร่จากตะวันตกช่วงยุคล่าอาณานิคมนี่แหละค่ะ เพราะสมัยอยุธยายังไม่ใช่เรื่องน่าอายขนาดนี้เลย จำได้ว่าตอนที่ออเจ้าดัง มีการถกเรื่องสงวนเนื้อสงวนตัวอยู่เลย

0
กำลังโหลด
pattamonprepram Member 2 เม.ย. 62 17:39 น. 3

เป็นการเรียนที่ควรนำมาใช้ในไทย(รวมถึงประเทศอื่นๆที่ยังหัวโบราณอยู่)มากเลยค่ะ เนื้อหาก็เหมาะสมดี

0
กำลังโหลด
White-Lie Member 22 เม.ย. 62 18:36 น. 4

บางทีอยู่จีนก็สงสัยคนจีนบางประเภทนะ​ จะว่าไปคนไทยบางประเภทก็ไม่ต่างกัน​ อยากให้ลูกเป็นนั้นเก่งนี้รู้โน่น​ แต่ห้ามให้​เรียนรู้​ เช่นอยากให้โตมาเก่งๆรวยๆแต่ไม่อนุญาต​ให้ไปฝึกงาน​ และอัดเรียนพิเศษ​ อยากให้ลูกระวังภัย​ แต่ไม่ให้ลูกรู้วิธีป้องกัน​ พอลูกทำตามแล้วไม่ได้ดังหวังก็อับอาย​ พอลูกดื้อเรียนรู้ก็ด่าว่า​ แต่พอลูกดันได้กับเชิดหน้าว่าเป็นลูกฉัน​ ไม่เถียงว่พ่อแม่ผู้ปรกครองดีๆมีก็มาก​ แต่พูดเลยแบบนี้ก็ใช่ว่าไม่มี

1
ItsFreakingCool,man! Member 22 เม.ย. 62 19:09 น. 4-1

ไม่ชอบการที่พ่อแม่คาดหวังให้ลูกทำนั่นทำนี้ หรือเลี้ยงลูกให้เด่นเพื่ออวดกันโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูกเลย และความคิดที่ว่าลูกต้องคิดเหมือนพ่อแม่ 

ไม่จริงเลย เพราะลูกไม่ได้อยู่บ้านอย่างเดียว เขาก็มีสังคมของเขา ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากที่นั่น ไลฟ์สไตล์ ค่านิยมของคนแต่ละรุ่นก็ต่างกัน อย่าว่าแต่คนละรุ่นเลย รุ่นเดียวกันที่คิดไม่เหมือนกันก็มี 

เราเห็นด้วยกับคุณที่ว่าต้องลงมือปฏิบัติหรือไปเห็นของจริงถึงจะได้ข้อมูลที่realกว่าในหนังสือที่ถูกคัดกรองเพื่อให้มีเนื้อหาเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับในสังคม 

สิ่งที่สังเกตเห็นจากพ่อแม่คนไทยและคนจีนคือขี้บ่น ถ้าแรงหน่อยคงทำให้ลูกคิดว่าความเป็นจริงก็น่าจะเป็นเหมือนที่พ่อแม่พูด จากนั้นเกิดความกลัว เชื่อตามนั้นโดยที่ไม่พิสูจน์และไม่เปิดรับข้อมูลใหม่ๆที่อาจค้านกับความคิดทียึดถือนี้ 

จนในที่สุดก็กลายเป็นคนที่มีทัศนคติแคบ คิดว่าตัวเองถูกแต่ที่จริงรู้น้อย เวลาเจอปัญหาก็จะกลัวไปก่อนโดยไม่รอดูก่อนหรือคิดตามเหตุการณ์จริงเลย น่าเศร้า...

0
กำลังโหลด
เอซิน Member 18 พ.ค. 62 15:09 น. 5

ครูโรงเรียนเราสอนเพศศึกษาแบบสุดโต่งมากเลยนะ ตอนม.ต้นสอนเรื่องถุงยาง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สอนทุกอย่าง มีภาพประกอบ สอนให้รู้จักป้องกัน มีได้แต่ต้องเซฟ แต่ถ้าเลี่ยงได้จะดีที่สุด มีจำลองสถานการณ์ว่าถ้าถูกชักชวนจะปฏิเสธยังไงด้วย ครูเข้าใจวัยรุ่นมาก แล้วที่โรงเรียนก็จัดค่ายเพศศึกษา สาธิตวิธีเลือกขนาดและใส่ถุงยาง แถมบอกด้วยว่าเป็นผู้หญิงต้องใส่ให้เป็น(เพราะมันเร้าอารมณ์ชายถ้าใส่ให้5555) สาธิตว่าเขาทำแท้งกันยังไง คือหมดเปลือกเลยอะ แต่เราที่ผ่านการเรียนแบบนั้นมาก็ไม่ได้ใจแตกอะไรนะ ก็ยังเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทครอบครัวยังตั้งใจเรียน ยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ


เราก็รู้ว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ รู้วิธีป้องกันตัว รู้ทุกอย่าง เราคิดว่าการที่เรารู้หมดเปลือกแบบนี้มันปลอดภัยกว่าและรู้เท่าทันอันตรายมากกว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลย ถ้าไม่รู้เรื่องเลยแบบที่ยกตัวอย่างในกระทู้แล้วถูกหลอกไปมีเพศสัมพันธ์ก็ยังไม่รู้ตัวล่ะ พ่อแม่หลายๆท่านควรคิดให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้ จะดีกว่าไหมถ้าโรงเรียนสอนเพศศึกษาแบบถูกต้องถูกวิธีให้ มันดีกว่าที่ลูกคุณไปเรียนรู้เอาเองจากสื่ออินเตอร์เน็ตที่ถูกๆผิดๆ และการปิดกั้นจะทำให้เด็กอยากรู้อยากลองมากกว่าเดิมหรือเปล่า?


และเรื่องLGBT ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเรียนเพศศึกษาแล้วจะเป็น อันนี้มันขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคล ต่อให้ไม่ได้เรียนแต่ใจอยากเป็นมันก็เป็นค่ะ เรื่องแบบนี้ห้ามไม่ได้และไม่ควรห้ามนะคะ


เราอายุ18 กำลังจะขึ้นปี1 เรียนเพศศึกษามาตั้งแต่ประถมปลาย ปัจจุบันยังเรียนดีอยู่ เรียนเพศศึกษาไม่ได้ทำให้ใจแตกค่ะ


พอดีอินกับเรื่องนี้นิดหน่อยค่ะ55555

2
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด