รู้หรือไม่? 16 เรื่องราวสุดน่ารัก ที่ทำให้รู้จัก “แพง พัทธนันท์” สาวเสียงใสจากค่าย GeneLab มากขึ้น!

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ปลายปีที่แล้ว เราได้เห็นศิลปินหญิงเดี่ยวจากค่าย GeneLab คนหนึ่ง เป็นสาวหน้าหวาน เสียงใส ปล่อยซิงเกิลฟังง่ายเนื้อหาดีออกมาอย่างต่อเนื่อง สาวคนนั้นคือ “แพง พัทธนันท์” ที่เราชวนมานั่งคุยกันวันนี้เอง โดยวันนี้นอกจากจะได้รู้จักตัวตนของ “แพง พัทธนันท์” มากขึ้นแล้ว น้องแพงยังมีซิงเกิลล่าสุด “สมมุติว่า (What If…?)” มาฝากกันด้วย ไปทำความรู้จักน้องแพงให้มากขึ้นกันเลยว่าตัวจริงจะน่ารักขนาดไหน 

1. “แพง พัทธนันท์” ศิลปินหญิงเดี่ยวจากค่าย GeneLab ซิงเกิลล่าสุด “สมมุติว่า (What If…?)” เป็นเพลงสนุกชวนโยกตาม ที่พูดถึงการที่เราชอบใครสักคนนึง แต่เขาดันชอบคนอื่นอยู่ เลยจินตนาการสมมุติว่า ถ้าเธอได้เจอฉันก่อน และถ้าไม่นับเรื่องที่เธอกำลังชอบเขาอยู่ เราสองคนก็คงเป็นแฟนกันได้... เธอว่าไหม?

2. ตัวตนแพงเป็นคนชิลๆ ง่ายๆ ชอบความสบาย  แต่ก็มีความจริงจังกับสิ่งที่ตั้งใจ คิดมาก มีความ introvert แรกๆ คนอาจจะมองว่านิ่งๆ เรียบร้อย แต่พอรู้จักจริงๆ แล้วเราก็มีมุมที่เป็นคนเฮฮา อ๊องๆ ลุยๆ

3. แพงชอบชาเย็นมากกกกกก เหมือนเป็นการเติมพลังให้ชีวิต ถ้าได้กินจะมีความสุข ทั้งที่ตอนเรียนร้องเพลงไม่ควรกินของหวานเพราะจะทำให้คอเหนียว แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากกินอยู่ดี อิอิ  

4. แพงชอบความวินเทจ มีดอกไม้ ในหลายๆ MV ที่เห็นก็มาจากสิ่งที่แพงชอบ เพราะเวลาทำเพลงเสร็จแพงจะชอบคิดมู้ดหรือมีเรฟภาพ MV ในหัวก่อนที่จะส่งให้ทีมงานภาพผู้กำกับไปสานต่อ  ที่เห็นใน MV “สมมุติว่า (What If…?)” นั่นแหละคือตัวแพงเลย นอกจากนี้ยังเป็นคนกินเก่งอีกด้วย ถ้าใครอยากเอาใจแพงก็พาไปกินของอร่อยๆ ได้เลย รับรองถูกใจแน่นอน อ้อ! แต่ห้ามเป็นเมนูที่มีถั่วงอกนะ แพงน่ะกินถั่วงอกได้แค่ในผัดไทยเท่านั้น ถ้าอยู่ในเมนูอื่นเมื่อไร แพงขอบายทันทีจ้า!

5. เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ แต่แพงเป็นคนไม่ได้เรียบร้อยมาก คือรู้ว่าเวลาไหนควรยังไง ไม่ได้เกเร แต่ก็มีความดื้อในสิ่งที่ตัวเองเชื่ออยู่นะ เป็นคนลุยๆ ถ้าอันไหนแพงรู้สึกสงสัย ก็จะถาม อย่างสมัยเด็ก คุณแม่อยากจับแต่งตัวหวานๆ กระโปรงฟรุ้งฟริ้งเรียบร้อย แต่แพงจะชอบแต่งตัวกระโปรงยาวเพราะสมัยนั้นชอบพี่ปาล์มมี่

6. แพงบอก “อย่าหาว่าหนูโม้!” สมัยเรียนมัธยมเคยสอบได้ที่ 1 โดยแพงบอกว่า ไม่ใช่คนขยันนะ แต่มุ่งมั่นและเอาตัวรอดเก่ง ถ้ามีอะไรที่อยากทำให้ได้ ก็จะพยายามทำให้ได้ แต่พอทำได้แล้วก็จะเริ่มชิลต่อ ส่วนเรื่องเอาตัวรอดก็อย่างตอนเรียนจะคบเพื่อนอย่างทั่วถึงทุกสาขาวิชา เพื่อจะได้คอยถามเพื่อนได้ หรือแม้แต่ถ้าจะลอกการบ้านเพื่อนก็ต้องลอกแบบเข้าใจด้วย โดยเฉพาะวิชาคณิตฯ วิทย์ ซึ่งถ้าลอกแบบไม่เข้าใจเราก็จะไม่ได้อะไรเลย 

 7. ความที่เป็นเด็กเรียน แพงบอกว่า “หนูเรียนได้ทุกวิชา ไม่มีวิชาที่ชอบหรือไม่ชอบ” แต่แพงจะดูจากบรรยากาศการเรียนมากกว่า ถ้าห้องเรียนสนุกก็จะชอบวิชานั้น แต่ถ้าเลือกได้นะ วิชาที่ไม่อยากเรียนเลยคือ “ลูกเสือ” (ใครเป็นเหมือนแพงบ้าง?)

8. สมัยเรียน ม.1 อาจารย์ที่สอนดนตรีให้แพงไปร้องเพลงในงานโรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ต้องร้องเพลงต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน แต่หลังจากงานนั้นจบลงก็มีคนชื่นชม ทำให้รู้สึกว่าแพงทำได้ แพชชันในการอยากเป็นนักร้องก็เลยเริ่มชัดขึ้นอีก

9. จากโชว์วันนั้นก็มีการประกวดเวทีเล็กๆ อีกนิดหน่อย โดยการที่เคยเป็นนักร้องของโรงเรียนสมัยมัธยมนั้นทำให้แพงมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง แต่พอเข้าไปเรียนมหา’ลัยได้เจอคนที่เค้าเก่งกว่า แพงรู้สึกว่า “ต้องคิดเยอะขึ้น” ทำให้เผลอกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายแพงก็พยายามหาข้อดีของตัวเอง หาสไตล์เพลงที่เหมาะกับตัวเอง และผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ด้วยดี

10. แพงจบจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยนะ ความที่แพงฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก จึงตั้งเป้าอยากเรียนดนตรีมาตั้งแต่ ม.ต้น เพราะอยากไปศึกษาให้ลึกซึ้ง อยากอยู่ใกล้สิ่งที่ชอบ อยากซึมซับให้มากที่สุด แต่ตอนนี้คืนอาจจะอาจารย์ไปหมดแล้ว!!! 

11. ตอนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพงตั้งใจมากกกก จากที่เป็นคนชิลๆ ร้องเพลงเล่นๆ ก็เริ่มฝึกฝนมากขึ้นเพราะต้องสอบภาคปฏิบัติร้องเพลง และเรียนทฤษฎีดนตรีเพื่อสอบภาคทฤษฎี ตอนนั้นเลือกเพลง Here I Am ของ Leona Lewis, Upside Down ของ Paloma Faith และเพลงรักแรกพบ ของ Tattoo Colour ไปสอบ

12. สาขาดนตรีสมัยนิยม (Popular Music) ที่แพงเรียนก็คือเพลงป๊อปนั่นเอง ซึ่งตรงกับแนวเพลงที่ทำอยู่ในตอนนี้ โดยสาขานี้เน้นเรื่องการแสดง การแต่งเพลง เขียนเนื้อเพลง คือจบไปเป็น artist ที่สร้างผลงานเองได้เลย เจ๋งมาก!

13. GMM Audition เป็นรายการแรกและรายการใหญ่รายการเดียวที่แพงประกวดแล้วได้เข้ารอบลึกขนาดนี้ โดยก่อนหน้านี้แพงเคยทำเพลงเองเป็นศิลปินอิสระ ตอนที่แต่งเพลงเอง ต้องออกทุนเองหมด จนมาถึงจุดหนึ่งก็อยากไปต่อ อยากให้เพลงไปถึงคนฟังได้ไกลกว่านี้ แล้วก็ไม่อยากรบกวนครอบครัวแล้ว จึงตัดสินใจมองหาค่ายเพลง ซึ่งช่วงนั้น GMM Aidition เปิดรับสมัครพอดี 

14. หลังขึ้นโชว์ตอนประกวดเสร็จพี่ทีมงานเปิดโอกาสให้ซักถามได้ แพงก็ยิงคำถามตรงเลยว่า “พี่จะรับหนูเข้าค่ายไหม” ซึ่งทีมงานตอบตรงกว่าว่า “แพงไม่ได้อยู่ในแผน แต่ก็เสียดายถ้าจะปล่อยไป ขอไปคุยกันก่อน” สุดท้ายแพงก็ผ่านเข้ามาเป็นศิลปินใหม่ของ GeneLab จากนั้นก็เริ่มทำเพลงทันที ทุกอย่างรวดเร็วมากจริงๆ

15. นอกจากร้องเพลงแล้ว แพงเป็นสายซีรีส์ ทั้งเกาหลีและฝรั่ง โดยชอบแนวสืบสวนฆาตกรรมและกฏหมายเป็นพิเศษ หากมีเวลาเหลือๆ ก็จะนอนดูซีรีส์ จิบชาเย็น ไถโทรศัพท์ ไม่มีงานอดิเรกตายตัว แต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา แพงเคยพยายามลองทำอาหาร 1 ครั้งคือเมนู “ใบเหลียงผัดไข่” และแพงก็คิดว่านั่นคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ทำอาหารด้วยเช่นกัน (ทำไมมม 55555)

16. สุดท้าย ตอนนี้เป็นศิลปินแล้วก็จริง แต่แพงก็ยังเหมือนเดิม รู้สึกว่ายังต้องฝึกฝนเรียนรู้และทำเพลงอีกเยอะ แต่จากจุดนี้ก็เริ่มมีคนรู้จัก ทำให้มีกำลังใจที่จะไปต่ออีกมากๆ โดยทุกเพลงที่ปล่อยออกมาแพงคอยเช็กฟีดแบ็กตลอด เพลงถูกปล่อยมาช่วงโควิด-19 ไม่ได้เดินสาย ไม่ได้โปรโมต แต่แพงก็ดีใจที่ยอดวิวขึ้นอยู่เรื่อยๆ ใครยังไม่ได้ฟัง รีบกดไปฟังแล้วคอมเม้นต์ให้กำลังน้องแพงกันหน่อยจ้า