มารู้จัก "มาร์ค เมธาธวัช" กันให้มากขึ้นกับ 25 Facts ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว  Dek-D  วันนี้พี่เชอรี่มีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มหล่อมากความสามารถที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันจากเพลง  “ยังแคร์เธอ”  นั่นคือ  “มาร์ค เมธาธวัช” ศิลปินหนุ่มมากความสามารถทั้งการร้อง การเต้น และเป็นหนุ่มไฟแรงแบบไม่มีวันหมด ซึ่งพี่เชอรี่คิดว่าหากน้องๆ ชาว  Dek-D  ได้อ่านจนจบแล้วละก็นอกจากจะได้รู้จักมาร์คมากขึ้นแล้ว ยังได้มุมมองการใช้ชีวิตใหม่ๆ ที่หลายคนไม่เคยคิดถึงมุมนั้นมาก่อนเลยก็ได้ มาดูกันเลยค่ะ

1. วัยมัธยมของมาร์ค แอบเป็นหัวโจกนิดๆ  ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ แต่เป็นผู้นำความคิดให้กับเพื่อนๆ  โดยรวบรวมความคิดเห็นที่เพื่อนๆ ที่อยากให้โรงเรียนพัฒนามากขึ้น ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตอนนี้มากขึ้น

2. มาร์คมีความฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่ 3 ขวบ  จำได้ว่าตั้งแต่ตอนนั้นมาก็ชอบร้องเพลงมาโดยตลอด โดยเฉพาะเพลงพี่เบิร์ด ที่บ้านชอบเปิดให้ฟังบ่อยมาก มาร์คร้องได้เกือบทุกเพลงเลยครับ

3. เพลงแรกๆ ที่มาร์คชอบร้องก็คือ  “ขันหมากระทึกใจ” “แฟนจ๋า” “มาทำไม”  ทั้ง 3 เพลงเป็นเพลงพี่เบิร์ดที่มาร์คเริ่มร้องได้ตอนเด็กๆ และก็เพลงลูกทุ่ง  “ติด ร.วิชาลืม” ของพี่แอร์ สุชาวดีที่เรียกได้ว่าแค่ขึ้นเมโลดี้มาก็ร้องได้ทันที  

4. มาร์คคิดว่าทุกๆ วันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ  การที่ตื่นมามาร์คได้ทำงาน ได้สนุกกับงาน ได้ทำสิ่งที่มาร์คชอบ นี่คือสิ่งที่ทำให้มาร์คมีความสุขในทุกๆ วัน

5. มาร์คเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน  เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ย้อนกลับไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ถ้าอะไรที่ดีก็เก็บเป็นความทรงจำ อะไรที่ไม่ดีก็เก็บไว้เป็นบทเรียน ทุกความทรงจำ ทุกเรื่องที่ผ่านมามันมีคุณค่าเสมอ ทั้งเรื่องดี หรือไม่ดีก็เลยจะไม่อยากเปลี่ยนอะไรแล้ว  แต่ถ้าเลือกอนาคต มาร์คก็จะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในอนาคต จนอาจกังวล และอาจไม่มีความสุขกับปัจจุบันได้เหมือนเดิม เลยขอเลือกมีความสุขในทุกๆ วันดีกว่า

6. ถ้ามาร์คมีความสามารถพิเศษได้สักอย่าง  ก็อยากจะหายตัวได้  ยิ่งกรุงเทพรถติดแบบนี้ มาร์คยิ่งไม่ค่อยอยากไปไหนเลย แม้บางครั้งจะอยากไปเที่ยวก็ตาม ถ้าหายตัวได้ ชีวิตก็คงสะดวกมากขึ้นเลยครับ

7. 3 คำ ที่มาร์คคิดว่าเหมาะกับตัวเองที่สุดก็คงจะเป็น “ตั้งใจ ขยัน อดทน”

8. มาร์คเป็นคนตั้งใจ และขยันแทบจะตลอดเวลา จนบางครั้งหลายคนก็เป็นห่วงว่าเราทำงานมากเกินไปไหม อยากให้มาร์คไปเที่ยว ไปพักผ่อนบ้าง ถึงมาร์คจะรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง แต่มาร์คก็ยังสนุก และอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ พอกลับมาบ้านมาร์คก็มักได้ความคิดใหม่ๆ จนเรียกได้ว่า ทั้งที่บ้าน ทั้งที่ทำงาน มาร์คทำงานอยู่ตลอดเลยก็ว่าได้

9. เรื่องที่มาร์คต้องใช้ความอดทน ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่หลวง แต่เป็นการปรับตัวในแต่ละวัน สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คาดคิด แต่มาร์คก็ก้าวข้ามผ่าน และปรับตัวให้เข้ากับมันได้ ช่วงแรกๆ อาจจะยาก แต่พอทำไปสักพักเราจะชิน และสนุกกับทำเรื่องที่ไม่เคยทำไปเลยละ

10. งานอดิเรกของมาร์คก็คือการทำงาน จริงๆ แล้วแค่ฟังเพลงก็รู้สึกว่ามาร์คกำลังทำงานอยู่ แต่เป็นงานที่สนุก การที่ได้ฟังเพลงใหม่ๆ ของพี่ๆ เพื่อนๆ ศิลปินก็เหมือนมาร์คได้พัฒนาตัวเองไปด้วย  

11. มาร์คไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองหมดไฟ มาร์คเคยพักไม่มาเจอผู้คน แต่ก็แอบซุ่มคิด ซุ่มทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด มาร์คอยากไปต่อกับการเป็นศิลปินไปเรื่อยๆ อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด และสักวันก็อยากจะมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองด้วย

12. “ยังความรักให้เธอเสมอ (Still In Love)” เป็นเพลงสื่อถึงความรักที่ไม่สมหวัง แต่ความรักที่เคยขึ้นระหว่างเราก็เป็นความรู้สึกดีอยู่เสมอ บางอย่างก็เป็นประสบการณ์ที่มาร์คเคยเจอมาก่อน ถึงจะรู้สึกเศร้า แต่เราก็ยินดีที่เธอไปเจอกับคนที่เหมาะกับเธอมากกว่า ถึงแม้เราจะอยากอยู่ตรงนั้นก็ตาม

13. MV ของเพลงนี้เป็นสีขาว-ดำ เพราะว่าอยากจะสื่อสารอารมณ์ด้วยการย้อนไปมาอย่างไร้ซึ่งกาลเวลา ทำให้เหมือนทุกอย่างยังคงอยู่เสมอและตลอดไป และการถ่ายด้วยฟิล์ม รู้สึกว่ายังไม่ค่อยมีใครทำสไตล์นี้ก็เลยทำดูครับ

14. ทุกเพลงของมาร์คแทบจะเป็นเรื่องราวของคนเดียวกันก็ว่าได้ ทั้งวันที่ยังรู้สึกดีๆ ที่ได้คิดถึงเขา อีกวันหนึ่งอาจจะเปิดดูรูปเก่า แล้วไม่มีรูปคู่ของเราอีกต่อไปแล้วก็เศร้าจนทนไม่ไหว ส่วนเพลงล่าสุดก็เป็นเพลงเศร้า แต่ไม่ฟูมฟาย เป็นเพลงโรแมนติกที่อยากจะบอกว่าเรารักเขา แต่ก็พร้อมจะยินดีกับรักครั้งใหม่นะ

15. เพลงที่ตรงกับชีวิตตัวเองมากที่สุด คือ เพลง “ยังมีความรักให้เธอเสมอ” มาร์คเคยรู้สึกแบบนี้บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เวลาหมดไปกับการเรียน การทำงานก็เลยไม่ได้ให้เวลากับชีวิตส่วนตัวมากเท่าแต่ก่อน แต่เวลาเผลอคิดถึงเรื่องเก่าก็จะนึกถึงเพลงนี้ไปด้วยบ่อยๆ เลยครับ

16. เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านปกอัลบั้ม มาร์คออกแบบ และเลือกสีของปกอัลบั้มด้วยตัวเอง สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง และสีส้มแทนความรู้สึกของแต่ละบทเพลงที่มาร์คสัมผัสได้ตอนได้ร้องเพลงนั้น

17. หนังที่มาร์คอยากจะแนะนำก็คือ “A Star is Born” เป็นหนังเกี่ยวกับเพลงที่ “Lady Gaga” และ “Bradley Cooper” เล่นด้วย เป็นเรื่องที่นักดนตรีมากประสบการณ์คนหนึ่ง ได้พบกับนักร้องสาวคนหนึ่งที่ยอมแพ้กับความฝันในการเป็นนักร้องดังแล้ว สนุกมากๆ มาร์ครู้สึกว่ามันน่าติดตาม แล้วพอดูก็มีได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ จากหนังเรื่องนี้เสมอ อยากให้ทุกคนลองไปดูกันนะครับ

18. สิ่งที่มาร์คชอบที่สุด คือ ของกิน มาร์คกินได้เรื่อยๆ กินได้ตลอดเลย แต่เวลาเราทำงาน ก็ต้องยับยั้งตัวเองอยู่บ่อยๆ โดยเมนูโปรดที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สปาเกตตีคาโบนารา และพิซซ่า

19. สิ่งที่มาร์คไม่ชอบที่สุด คือ แมลงสาบ และแมงมุม มาร์คกลัวมาก เรียกว่า อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลยดีกว่า

20. มาร์คคิดว่าตัวเองตอนมัธยมกับตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก มัธยมเป็นช่วงที่มีความคิดสร้างสรรค์ ได้แสดงความคิดหลายอย่าง เพื่อนๆ ก็น่ารักเป็นช่วงที่มีความสุข มีอิสระมากที่สุด แต่ช่วงมหาลัยก็ไม่ใช่ว่าจะเครียดนะ มาร์คแค่จริงจังกับงานมากขึ้น มาร์คก็ยังมีโอกาสแสดงความเห็นได้หลากหลาย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้มาร์คได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นด้วย  

21. มาร์คชอบน้องหมา น้องแมวมาก แต่จับไม่ได้เพราะเป็นภูมิแพ้ หรือถ้าอยากเล่นกับน้องจริงๆ ก็จะรีบจับ แล้วไปล้างมือทันที นอกจากเวลาทำเพลงแล้ว ก็จะดูคลิปสั้นๆ บนยูทูป และไอจีเป็นประจำเลยครับ

22. ประสบการณ์ที่สนุกที่สุดในวัยเรียนก็คือ ช่วงที่มาร์คเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนมีจัด “Spirit Week” ให้แต่งอะไรก็ตามตามธีมในทุกๆ วัน บางวันก็แต่งแฟนตาซี บางวันก็ชุดนักเรียน บางวันก็แต่งคอสเพลย์ บางวันก็แต่งชุดตามสัตว์ที่ชอบ สนุกมาก มาร์คตื่นตั้งแต่ตี 5 มาแต่งทุกวัน เจอกับเพื่อนก็ถ่ายรูปกัน ช่วงนั้นอยากไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าทุกวันเลยครับ

23. เสื้อผ้าที่มาร์คใส่สไตล์จะต่างไปเรื่อยๆ ตามความรู้สึกของมาร์คในวันนั้น มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มาร์คอินกับเสื้อผ้าแบบหนึ่ง มาร์คก็จะใส่แบบเดิมทั้ง แต่ตอนนี้มาร์คก็ชอบลองสไตล์ใหม่ๆ บ่อยๆ เลยครับ

24. อีก 10 ปีข้างหน้า มาร์คอยากเป็นศิลปิน อยากทำงานทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังไปเรื่อยๆ อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ทำตามความฝันอยู่ กล้าที่ลอง กล้าที่ทำเหมือนกับมาร์คในตอนนี้ (เป็นกำลังใจให้นะครับ)

25. สุดท้ายนี้ มาร์คอยากบอกทุกคน ทั้งแฟนๆ ทั้งน้องๆ “อยากจะขอบคุณทุกคนที่ติดตามและสนับสนุนมาร์คมาก อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการใช้ชีวิต ไม่ว่าอาชีพ อายุเท่าไหร่ จะทำอะไรอยู่ ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการทำสิ่งดีๆ ที่ตั้งใจไว้นะครับ”