“มีน-พีรวิชญ์” กับ 20 เรื่องราวตั้งแต่วัย “มัธยม - มหา’ลัย - การทำงาน” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

“มีน-พีรวิชญ์” ตั้งแต่วัย “มัธยม - มหา’ลัย - การทำงาน” 

ห่างหายจากการพูดคุยกับ “มีน พีรวิชญ์” ไปนาน ช่วงนี้โอกาสดีเพราะผลงานล่าสุดอย่างภาพยนตร์ MONDO รัก โพสต์ ลบ ลืม ใกล้กำหนดฉายแล้ว พี่ซาร่าจึงรีบติดต่อ “มีน” มานั่งคุยกันก่อนว่าภาพยนตร์ เรื่องนี้เป็นยังไง น่าดูขนาดไหน พร้อมอัปเดตชีวิตแบบเจาะลึก บอกเลยว่าบางเรื่องไม่มีใครรู้มาก่อนแน่ ตามมาอ่านกันเลย 

1. มีนบอกว่าสมัยมัธยมชีวิตธรรมดามาก ไม่ได้สนุกอะไร ถ้าไม่อยู่โรงเรียนก็อยู่บ้านซึ่งเป็นร้านเกม แถมยังรู้สึกว่าการเรียนในห้องเรียนไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการจึงเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ๆ แต่ที่ไม่เหมือนคนอื่นคือ มีนไม่ได้ลองเพื่อหาสิ่งที่ชอบ แต่ลองเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ตัดสิ่งที่ไม่ชอบออกไป แล้วเก็บสิ่งที่ได้อยู่หรือชอบมากไว้

2. พูดถึงเรื่องลองทำสิ่งต่างๆ แล้ว มีนบอกว่าถ้ามีโอกาสอยากลองเรียนประวัติศาสตร์ใหม่ เพราะตอนเด็กๆ ไม่ชอบวิชานี้เลย ไม่ชอบวิชาที่ต้องจำ ชอบวิชาที่ต้องใช้ความเข้าใจ มีถูกผิด มีคิด มีตรรกะ ตอนเด็กเลยไม่ชอบเรียนวิชานี้เพราะต้องจำ แต่พอโตขึ้นมาก็รู้ว่าจริงๆ ชอบประวัติศาสตร์นะ มันมีที่มาที่ไปแล้วเราทำความเข้าใจได้ ไม่เหมือนที่เคยเรียนตอนเด็กๆ

3. พอช่วงมหา’ลัย มีนบอกว่าใช้ชีวิตปีหนึ่งเต็มที่แบบเด็กมหา’ลัยมาก แต่พอขึ้นปีสองเริ่มมีงานในวงการบันเทิงแล้ว ก็ใช้ชีวิตกับการทำงานและไลฟ์สไตล์กับเพื่อนมากกว่าที่จะอยู่กับการเรียนและครอบครัว มีนบอกว่าอยู่กับ one night miracle บ่อยมาก ซึ่งรอดมาได้ทุกครั้งเพราะมีเพื่อนช่วยติวสุมไฟเอาวันสุดท้ายก่อนสอบ 

4. วิธีเอาตัวรอดในมหา’ลัยของมีนคือเลือกเรียนวิชาตามที่เพื่อนเรียน หรือถ้ามีวิชาที่มีนอยากเรียนก็ไปโน้มน้าวเพื่อนที่เอาการเอางานมาเรียนด้วยให้ได้ โดยอาศัยเพื่อนช่วยเก็บรายละเอียดที่ตกหล่นขาดเรียนไป แต่ถ้ามีงานต้องทำก็ช่วยกันทำ และอีกอย่างที่โชคดีคือ มีนเรียนฟิล์ม วารสารฯ การทำงานในวงการบันเทิงจึงได้ประสบการณ์จริงๆ ไปใช้ในการเรียนด้วยเช่นกัน

5. และการเรียนฟิล์มก็ทำให้มีนเข้าใจการทำงานเบื้องหลังมากขึ้นด้วย ทำให้เวลาทำงานจริง มีนเข้าใจว่าทำไมต้องใช้กล้องแบบนี้ ทำไมต้องถ่ายแบบนี้ เหตุผลที่ถ่ายหลายรอบ ฯลฯ ซึ่งทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นด้วย 

6. ตราบาปของการเรียนมหา’ลัยของมีนคือวิชาเลือกชื่อว่าภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน ซึ่งมันเป็นการเขียนจดหมายสมัครงาน เขียน resume ต่างๆ ซึ่งชีวิตนี้มีนคงไม่ได้ใช้ จึงถอนออก แต่ปรากฏว่าการถอนนั้นไม่สำเร็จ มีรายชื่อค้าง ทำให้ได้ F ตัวแรกและตัวเดียวในชีวิต แม้จะเสียใจแต่ก็เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง

7. ถ้าย้อนไปตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ แม้จะเข้ามาด้วยความสนุก แต่มีนก็อยากรู้ว่าตัวเองจะไปได้สุดแค่ไหนในวงการบันเทิง ทุกๆ ก้าวของการทำงานมีนจะประเมินตัวเองเสมอว่าทำออกมาเป็นอย่างไร แล้วก้าวต่อไปจะไปทิศทางไหน เรียกว่าเป็นคนที่พัฒนาตนเองตลอดเวลา 

8. และแม้จะผ่านผลงานการแสดงมาเยอะ แต่มีนก็บอกว่า ช่วงนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่อยากมีโอกาสได้รับบทที่โตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ หรือได้บทที่ท้าทายมากขึ้น (ผู้จัดคนไหนอ่านอยู่ ขอบทปังๆ ให้มีนหน่อยจ้า)

9. มีนบอกว่า เทคนิคการใช้ชีวิตของมีนอย่างหนึ่งคือ การมองข้อเสียและทำความเข้าใจผู้คน เพราะมีนรู้สึกว่าเราสามารถพัฒนาตัวเองจากข้อเสียที่เราเห็นได้ทั้งจากตนเองและคนอื่น เป็นแนวคิดที่พยายามจะลบจุดผิดพลาดออกไปให้มากและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ถึงแม้บางครั้งสิ่งที่ได้เห็นจากคนอื่นอาจจะไม่ใช่ข้อเสีย แต่เราก็ไม่ทำตามเพราะเราไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น 

10. เมื่อถามว่า ถ้ามีวันแย่ๆ แต่ต้องออกไปทำงาน มีนมีวิธีจัดการตัวเองยังไง มีนบอกว่า นักแสดงจำเป็นต้องลบความรู้สึกส่วนตัวออกไปชั่วขณะ แล้วยอมให้ตัวละครนั้นเข้ามาอยู่ในตัวเราแทน เมื่อถึงเวลาทำงานนี่ไม่ใช่ตัวเราแล้ว ตัวละครไม่ได้คิดแบบเรา ไม่ได้มีวิธีการใช้ชีวิตแบบเรา และนี่ทำให้มีนชอบการเป็นนักแสดงด้วย เพราะบางครั้งรู้สึกเบื่อความเป็นตัวเอง เลยสนุกกับการได้สวมบทบาทเป็นคนอื่นอย่างเต็มที่ 

11. บทที่มีนรู้สึกท้าทายและอยากลองเล่นมากคือบทที่ซับซ้อน เช่น ภายนอกดูหนักแน่นแต่ข้างในเปราะบาง คือมีความซับซ้อนด้านจิตใจ อยากลองเล่นบทแนวนี้มากๆ

12. สำหรับภาพยนตร์ MONDO รัก โพสต์ ลบ ลืม ถ้าดูจากตัวอย่างหนัง มีนบอกว่าที่ทุกคนได้เห็นน่ะเป็นเรื่องเล็กน้อย ความลับ ความยิ่งใหญ่จะอยู่หลังจากนั้น ต้องไปติดตามกันดู

13. คาแรกเตอร์มีนในเรื่องนี้เป็นอดีตหนุ่มเนิร์ดที่มีภาพลักษณ์ดี พูดเก่ง อธิบายเก่ง เข้าใจคนแบบตรรกะ ซึ่งต่างจากตัวมีนมาก และมีนต้องไปศึกษาเรื่องการเขียนโปรแกรม การทำงานของโปรแกรม เพื่อให้อธิบายและพูดให้คนดูเข้าใจได้ด้วย 

14. อีกอย่างมีนบอกว่ายากคือ คือการที่ตัวละครคาแรกเตอร์นี้ฉลาดมากไป จะดูแอค ดูเยอะ ดูเก๊กจนคนไม่ชอบ แต่ถ้าน้อยไปก็ไม่น่าเชื่อถือ ดูหลอกลวง ทำให้ต้องบาลานซ์ให้ดี

15. เมื่อให้พูดถึงนักแสดงคนอื่น มีนบอกว่าพลอยเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ทำงานเป็นธรรมชาติดี ทำให้ทำงานสนุกขึ้น ส่วนพี่เกรทนั้นรู้จักมานานแล้วแต่เพิ่งได้ร่วมงานกันเอง มีนสปอยล์นิดนึงว่า ในเรื่องเจอกันน้อย แต่ทุกครั้งที่เจอก็เข้มข้นมาก (อยากรู้แล้วอะ)

16. มีนบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับพี่มะเดี่ยว แม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงพี่มะเดี่ยวมานานว่าดุมาก โหด แต่พอมาเจอแล้วรู้สึกว่าไม่เป็นแบบนั้น พี่มะเดี่ยวเป็นคนมีเหตุผล ให้โอกาสเสมอ แล้วก็ปรึกษาได้ ที่สำคัญคือพี่มะเดี่ยวเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมกับงานสูง ซึ่งมีนบอกว่า ชอบทำงานกับคนที่มีแพชชันสูงแบบนี้ มันทำให้ทำงานสนุกไปด้วย 

17. เรื่องนี้ถ่ายกับกรีนสกรีนเยอะมากกกก มีนบอกว่าระหว่างถ่ายทำต้องคุยกันเยอะมาก เพราะต้องรู้ว่า CG จะออกมาแบบไหน และนี่เป็นเรื่องแรกด้วยที่ถ่ายทำกรีนสกรีนเยอะมากๆ 

18. อีกสิ่งที่มีนบอกว่าไม่อยากให้พลาดเลยสำหรับภาพยนตร์ MONDO รัก โพสต์ ลบ ลืม คือ “ความวายป่วงของครอบครัวดอม (เกรท สพล)” เพราะมันมีคนหลาย generation มุมของครอบครัว มุมมองต่อเทคโนโลยีของคนแต่ละรุ่น เป็นต้น แต่ความวุ่นวายเนี่ยมันมีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเลยล่ะ

19. ส่วนซีนที่มีนบอกว่า ห้ามพลาด ห้ามกะพริบตา คือ ฉากใส่แว่น VR ที่เห็นในตัวอย่างหนัง เพราะหลังจากนั้นมันคือ MONDO ของจริง 

20. มีนบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชีวิตเริ่มนิ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าต้องทำงานแค่ไหนถึงจะพอดี ต้องใช้ชีวิตส่วนตัวประมาณไหนถึงจะกำลังดี แต่ทุกวันนี้เริ่มเข้าที่และเห็นภาพตัวเองในอนาคตมากขึ้นด้วย 

สุดท้ายนี้ มีนฝากบอกทุกคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ว่า อยากให้หาเป้าหมายของตัวเองให้ได้ เป้าหมายมันจะทำให้เรามีแพชชันในการทำอะไรสักอย่าง และทุกๆ อย่างที่เราทำมันจะเป็นก้าวเล็กๆ ที่ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปถึงเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น คนที่มีเป้าหมาย มีแพชชัน จะมีพลังงานในการใช้ชีวิตหรือทำอะไรสักอย่างที่เราเห็นแล้วเราก็อยากอยู่ใกล้ อยากทำงานด้วย มันเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ถ้าเหนื่อยหรือท้อก็พักบ้างจะได้มีแรงทำต่อไป