สับแหลก !! อาการทางจิตแปลกๆ จนไม่อยากเชื่อว่ามีจริง

 

          สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... มาเจอกับ พี่เป้ และคอลัมน์วัฒนธรรมต่างประเทศพร้อมเรื่องน่ารู้จากทั่วโลกเช่นเคย ^^ ครั้งก่อน พี่เป้ นำเรื่องราวเกี่ยวกับอาการ Phobia หรืออาการกลัว (ในสิ่งแปลกๆ) มาฝาก เช่น กลัวสีขาว กลัวคนจีน (ใครยังไม่ได้อ่าน คลิก) และดูน้องๆ หลายคนจะชอบอกชอบใจกันเป็นพิเศษ ^^

          ดังนั้นวันนี้ พี่เป้ ก็เลยนำเรื่องราวแนวนี้มาฝากอีกเช่นเคย สำหรับคราวนี้ไม่ใช่อาการกลัวแล้วนะคะ แต่เป็น "อาการของกลุ่มโรค" หรือ Syndrome จริงๆ แล้วคนที่มีอาการ Syndrome เค้าก็เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเรานี่แหละค่ะ แต่ลึกๆ แล้ว ในใจของพวกเขามีอาการทางจิตบางอย่างซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจมากๆ และวันนี้ พี่เป้ ก็นำมาฝากด้วยกัน 3 อาการค่ะ


Stockholm Syndrome   

           ฟังชื่ออาจจะงงๆ ว่าเกี่ยวกับอะไรเมืองสต็อกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดน นั่นก็เป็นเพราะว่าที่มาของอาการนี้เกิดขึ้นในเมืองสต็อกโฮล์มค่ะ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ....

           ในปี 1975 มีกลุ่มก่อการร้ายบุกเข้าไปในสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง จับประชาชนและเจ้าหน้าที่ 30 กว่าคนเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองเรื่องการเมืองบางอย่างกับรัฐบาล  การต่อรองนั้นดำเนินไปหลายวัน แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปซักที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลัวตัวประกันจะเป็นอันตราย จึงตัดสินใจเข้าจู่โจมเพื่อจะชิงตัวประกันออกมา

            แต่สิ่งที่พบก็คือ .... ตัวประกันบางคนกลับเข้าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และช่วยกันปกป้องคนร้ายไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ! เอ๊ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น

           และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ Stockholm Syndrome ค่ะ เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่เมื่อคนร้ายกับตัวประกันอยู่ด้วยกันนานๆ แล้วกลายเป็นว่า ตัวประกันเกิดสงสารและเห็นใจคนร้าย ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายตัวประกัน (อาจจะดูแลดีด้วยซ้ำ) เพราะบางทีคนร้ายกับตัวประกันต้องอยู่ด้วยกันเป็นเดือนๆ กินด้วยกัน นอนด้วยกัน จึงกลายเป็นเหมือนเพื่อนกันไปซะอย่างนั้น หรืออาจจะเกิดจากการที่ตัวประกันกลัวคนร้ายจะทำร้ายตน เลยตัดสินใจมาอยู่ฝ่ายคนร้ายซะเลยดีกว่า เคยมีกรณีที่ว่า ภายหลังตัวประกันลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนร้ายเลยก็มี

           พี่เป้ เคยเจอเรื่องหนึ่งไม่รู้เข้าข่าย Stockholm Syndrome รึเปล่า คือว่า คุณแม่ของเพื่อนสนิทถูกคนร้ายจับตัวไปเรียกค่าไถ่ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ (เหมือนละครมั้ย แต่เรื่องจริงนะ) แต่ไปๆ มาๆ อยู่ดีๆ คนร้ายก็ตัดสินใจปล่อยตัวคุณแม่ของเพื่อนออกมา เพราะคนร้ายเห็นใจและเข้าใจว่าคุณแม่ของเพื่อนเป็นคนดี รวมถึงตอนที่ถูกจับตัวไปนั้น คุณแม่ของเพื่อนก็ดีกับคนร้ายมาก ไม่โวยวาย ไม่ด่า แถมยังเห็นใจและเข้าอกเข้าใจกันด้วยซ้ำ สรุปว่าคุณแม่ก็ไม่ได้เอาเรื่องกับคนร้ายและคนบงการค่ะ (ประเสริฐที่สุดค่ะคุณแม่)

           อ้อ และอีกกรณีที่เจอกันบ่อยๆ ก็คือในนิยายค่ะ ประเภทพระเอกเข้าใจผิดและจับตัวนางเอกไปขังไว้ ไปๆ มาๆ ก็เกิดเห็นใจกัน รู้ตัวอีกทีก็ลูกสองแล้ว ฮ่าๆ

 

Narcisisitic     

           นาซิสซัส เป็นชื่อของเทพเจ้ากรีกโบราณ บุคลิกเป็นคนที่ตกหลุมรักตัวเองอย่างรุนแรงเพราะคิดว่าตัวเองเป็นเทพที่หน้าตาดีและพิเศษกว่าเทพองค์อื่น วันหนึ่งนาซิสซัสยื่นหน้าลงไปชื่นชมเงาตัวเองในสระน้ำ จนในที่สุดก็พลัดตกสระน้ำจนตาย ดังนั้นชื่อของนาซิสซัสจึงกลายมาเป็นชื่ออาการของคนที่หลงตัวเองมากเกินไปหรือ Narcisisitic นั่นเองค่ะ

           จริงๆ แล้ว คนเราทุกคนจะต้องมีอาการหลงตัวเองอยู่แล้วล่ะค่ะ 555 แต่จะมากน้อยแตกต่างกันไป แต่สำหรับคนที่มีอาการ Narcisisitic เนี่ยจะเป็นอาการหลงตัวเองที่มากกกกกกกกผิดปกติ เพราะไม่ใช่แค่คิดว่าตัวเองดีเลิศกว่าคนอื่น แต่เป็นคนที่พยายามกดคนอื่นให้ต่ำลง ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเพื่อน ชอบออกคำสั่งให้คนอื่นทำตามคำสั่งตัวเอง คิดว่าตัวเองอยู่เหนือทุกคน ตัวเองต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น พวกนางแบบเวลามีเดินแบบ หากฉันไม่ได้ใส่ชุดที่แพงที่สุด ฉันยอมไม่ได้นะ อะไรทำนองนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นพวกชอบขี้คุย ขี้โม้ อวดสรรพคุณของตัวเองว่าดีกว่าคนอื่น รวมถึงเวลาที่คุยกันเนี่ย ก็จะพูดแต่เรื่องตัวเอง หากคนอื่นเปลี่ยนเป็นประเด็นไปคุยเรื่องอื่นก็จะยอมไม่ได้เด็ดขาด 

           และที่สำคัญที่สุด ว่ากันว่าคนที่มีอาการ Narcisisitic มักเป็นคนหน้าตาดีค่ะ (แหม ถ้าหน้าตาไม่ดีแล้วยังหลงตัวเองอีกนี่ ... 5555) ส่วนสาเหตุนั้นมักมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ พ่อแม่บางคนบีบบังคับลูกมากเกินไป เช่น บังคับให้ลูกต้องสอบให้ได้ที่ 1 เด็กเลยจะคิดว่าหากตัวเองสอบไม่ได้ที่ 1 นั่นหมายถึงความล้มเหลวในชีวิตและจะถูกคนอื่นดูถูก แต่ในอีกแง่ก็คือ พ่อแม่บางคนตามใจลูกมากเกินไป เอาใจทุกอย่าง ทำให้เด็กคาดหวังว่า ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนโตก็จะต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้และต้องได้มากกว่าคนอื่น

           อ่านแล้ว เอ๊ะ นี่มัน "เรยา" นี่ 55555 ใช่ทุกอย่างเลยนะเนี่ย ตั้งแต่เป็นคนสวย ชอบทำตัวเหนือคนอื่นและพยายามกดคนอื่นให้จมดิน (แต่โดนคุณเด่นสกัดซะก่อน) ไม่ค่อยมีเพื่อน รวมถึงยังไดัรับการเลี้ยงดูแบบผิดวิธีจากแม่ที่ตามใจลูกทุกอย่าง เลยคาดหวังว่าจะต้องได้ทุกอย่างในชีวิตและโดดเด่นกว่าใครๆ
         


Nice guy Syndrome   

           Nice guy ก็คือผู้ชายที่ดี แล้ว Nice guy syndrome ล่ะคืออะไร ?? ใช่แล้วค่ะ Nice guy syndrome ก็คืออาการของ "ผู้ชายที่ดีเกินไป" ฟังดูแปลกมากๆ ใช่มั้ยล่ะ ว่าแต่ผู้ชายที่ดีเกินไปเค้ามีลักษณะยังไงบ้างนะ ...

           ผู้ชายที่ดีเกินไปนั้น จริงๆ แล้วก็คือคนที่มีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือคนอื่น มักเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดและการกระทำของตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะเป็นผลดีแก่อีกฝ่าย (ซึ่งก็คือแฟนสาวนั่นเอง) แต่จริงๆ แล้ว ผู้ชายคนนั้นกลับขาดความเข้าใจในตัวของผู้หญิง เพราะในบางครั้ง เรื่องของความรักไม่ใช่แค่การเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือเสมอไป บางครั้งแค่ช่วยรับฟังหรือช่วยดูแลกันและกันมันก็พอแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายหญิงเสียใจเพราะน้องหมาที่รักตายไป ฝ่ายชายแทนที่จะคอยดูแลปลอบอกปลอบใจ แต่กลับพยายามหาน้องหมาตัวใหม่มาให้และยัดเยียดให้ฝ่ายหญิงรับไป เพราะคิดว่าน่าจะช่วยทำให้ฝ่ายหญิงลืมน้องหมาตัวเก่าที่ตายไปได้ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายหญิงไม่ได้อยากได้น้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยงเลย สิ่งที่ต้องการก็เพียงแค่อยากให้ฝ่ายชายช่วยคอยปลอบใจก็พอแล้ว ดังนั้นความหวังดีของฝ่ายชายอาจกลายเป็นความรำคาญของฝ่ายหญิงได้

           และสุดท้ายฝ่ายหญิงอาจขอยุติความสัมพันธ์ เพื่อไปคบกับผู้ชายคนใหม่ที่เข้าใจตนมากกว่า ผู้ชายคนนั้นก็จะคิดว่า "อะไรเนี่ย ... ทำดีให้ทุกอย่าง แต่เธอชอบคนเลวเหรอไง ???" และเกิดการฝังใจว่า ผู้หญิงในโลกชอบคนเลว ตัวเองออกจะแสนดี ช่วยเหลือทุกอย่าง ทำไมทิ้งเราได้ลงคอ ... แหม ผู้หญิงที่ไหนจะชอบคนเลวล่ะคะ ไม่มีหรอก ผู้ชายคนไหนคิดแบบนี้ล่ะก็ คุณอาจเริ่มเข้าข่าย Nice guy syndrome แล้วล่ะจะบอกให้

 


             โอ้ววววว เรียกได้ว่าแปลกแต่จริงเลยนะคะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ โดยเฉพาะ Narcisisitic นั้น พี่เป้ ว่าแอบน่ากลัวและน่ารำคาญมากๆ เลยอะ ว่าแล้วก็ต้องไปสำรวจคนรอบข้างก่อนดีกว่าว่า มีใครมีอาการแบบนี้มั้ย จะได้สกัดทัน 

 

เด็กดีดอทคอม :: 28 วันใน
ภาพประกอบ primehealthchannel.com , dream high , ดอกส้มสีทอง

หากต้องการนำบทความไปเผยแพร่ยังเว็บไซต์อื่นกรุณาอ้างอิงถึงแหล่งที่มา
หรือหากต้องการนำไปใช้อย่างเป็นทางการ กรุณาติดต่อทีม
งานเจ้าของบทความ


พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

41 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
MicKeynova Member 1 มิ.ย. 54 05:49 น. 4
 ถ้าเอาทั้งสามโรค มารวมในคน คนเดียวเเล้ว จะกลายเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากๆ นิสัยดีเวอร์ๆ หลงตัวเองสุดๆ เเละยังสงสารคนง่ายๆ 

 เเละเมื่อวิเคราะห์เเล้ว มันคือ เเมงดา นั่นเอง (จบ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด