แฉเรื่องจริง...โรงเรียนหญิงล้วนในเกาหลี ดราม่ายิ่งกว่าละคร!


                      

                             สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และ KoreanKori เช่นเคย
                             น้องๆ รู้จักโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนใช่มั้ยคะ? โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
                             ก็คือโครงการที่ให้นักเรียนมัธยม
เดินทางไปแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม
                             ที่ต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปีการศึกษา ซึ่งประเทศยอดฮิตก็ไม่พ้นอเมริกาและ
                             ประเทศทางแถบยุโรป 



                            หลายคนสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วมีไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลีใต้บ้างมั้ย? มีแน่นอนค่ะ
                            และมีโครงการเดียวด้วย!!! 
นั่นก็คือ
โครงการ YFU (Youth For Understanding)
                            ซึ่งจะรับเด็กไทยปีละ 1-2 คนเท่านั้น (น้อยมากกก) ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่แข่งขัน
                            กันสูงมากๆๆ เลยล่ะค่ะ แต่มีเหรอที่
พี่เป้ จะพลาดดดดด อิอิ ^_________^
                            เพราะวันนี้ 
KoreanKori ตอน 37 มาพร้อมกับ ประสบการณ์ของนักเรียนไทย
                            ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนมัธยมในเกาหลีใต้!!
ทั้งดุ เด็ด เผ็ด มันส์ อ่านแล้ว
                            แซบมากกกกกกกก ไปเตรียมขนมนมเนยให้พร้อมแล้วมาแสตนด์บายอ่านได้เลย
                            เพราะค่อนข้างยาวมาก (แต่สนุกมากจ้า)

                  


               
     

    สวัสดีค่า แนะนำตัวกันนิดนึงนะคะ ^^ หญิงไม่งามแต่นามเพราะผู้นี้มีโค้ดเนมว่า “เต้าหู้” เจ้าค่ะ! ชื่อจริงอันเพราะพริ้งขอเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวแล้วกัน อิอิ -..- ยังไงก็ตาม จะมาขอเล่าประสบการณ์การไปอยู่แดนเกาหลีใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่แสนจะฟีเว่ออออออออออออออฟีเวอร์ที่สุด ณ ตอนนี้!
 
   โครงการแลกเปลี่ยนที่เต้าหู้ไปสิงสถิตฝากผีฝากไข้นั่นคือโครงการ YFU THAILAND นั่นเองค่ะ ซึ่งจะรับสมัครช่วงเดือนมิถุนายน สำหรับใครอยากไปแลกเปลี่ยนเกาหลีจะรับแค่ 1-2 คนเท่านั้น(เฉพาะผู้หญิง) เอาล่ะเข้าเรื่องกันเสียเลยดีกว่า แต่เนื่องจากเขียนในไอดีส่วนตัว (เดี๋ยวจะแปะลิ้งไว้ให้ตอนท้ายนะจ๊ะ) ไปเยอะแล้ว ก็จะขอเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยได้เปิดเผยในมายไอดีแล้วกันค่ะ
   
     อย่างแรกก่อนเลยคือคงมีหลายคนที่คงคิดว่า ทำไมถึงเลือกไปเกาหลีฟะ? สงสัยต้องเป็นพวก
บ้าเกาหลีแน่เลย หู้ชอบศิลปินจริงๆ (สาวก Super Junior เฮหน่อยเร็ว!) แต่ที่เลือกไปเกาหลีเนี่ยคือ 

1) แม่หู้ไม่อยากให้ไปไกลๆ 
2) เกาหลีกำลังฟีเวอร์มาก ถ้าได้ภาษานี้คิดว่าเรทการทำงานคงเงินดีขึ้น 
3) ไม่ไกลจากประเทศไทยจนเกินไป ค่าครองชีพพอรับได้
   
     และข่าวร้ายที่อยากบอกสำหรับน้องๆ ที่อยากสอบรุ่นนี้คือ  " ได้ยินว่ารุ่น 16 ของหู้จะเป็นเกาหลีรุ่นสุดท้ายแล้ว " T^T น่าเสียดายจัง




     หู้ได้ไปอยู่ที่กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลี ชื่อเกาหลีของหู้คือ "นายอน" รื่องแรกเลยก็
คือเรื่องของโฮสท์แฟมิลี่ จะมีใครรู้บ้างว่าเต้าหู้ผู้แสนน่าสงสารผู้นี้นั้นเปลี่ยนถึง 4 โฮสท์!TT 
เศร้าจุงเบย... คือเต้าหู้เองก็คิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ คือเราไม่ได้มีปัญหากันอย่างจริงจังนะ แล้วพอปรึกษากับที่บ้านแล้วเนี่ย ที่บ้านก็เห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นดวงซวยเสียมากกว่า
   
    โฮสท์แรกเนี่ย ตอนแรกจะเป็นโฮสท์ถาวรค่ะ ซึ่งก็จะประกอบไปด้วยโฮสท์พ่อแม่ โฮสท์พี่สาว(ที่อายุเท่ากัน) และโฮสท์น้องชายที่อยู่มัธยมต้นปีที่หนึ่ง ตอนแรกเราก็ค่อน
ข้างจะแฮปปี้อย่างแรงกล้ากับโฮสท์นี้เพราะเหมือนจะเข้ากันได้ดีมาก ตอนแรกหู้เองก็ออกตัวเลยนะว่า หู้อาจจะไม่เรียบร้อยหน่อยแต่ก็จะทำความสะอาดให้ดีที่สุด แต่กลายเป็นว่า... เหมือนหู้จะมีปัญหากับโฮสท์พ่อ เพราะโฮสท์พ่อเป็นผู้ชายเกาหลีขนานแท้ ที่แบบว่า... แท้ แท้ แท้สุดยอด!!

     คือก็ต้องพูดกันตามตรงอ่ะนะคะว่า ผู้ชายเกาหลีค่อนข้างบ้าอำนาจ คิดว่าตัวเองใหญ่
คับฟ้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลังที่ไม่สิทธิ์เถียงอะไรทั้งนั้น
(เดี๋ยวจะเอาเท้าหลังซัดให้ -_-+)
คือเอาตัวเองเป็นใหญ่ว่างั้นเถอะ แล้วเขาดันเป็นโรคคลั่งความสะอาดที่หู้คิดว่าออกจะโรคจิต
เกินไป (ขนาดลูกสาวเขายังมาเคยบ่นให้หู้ฟังเลยคิดดูดิ!) 

    คือหู้อยู่กับเขาเนี่ย เอาเป็นว่าทั้งชีวิตตอนอยู่บ้านยังไม่เคยทำตัวสะอาดขนาดนี้มาก่อนเลย!! แต่เขาก็ยังไม่พอใจเรื่อยๆ ถึงกับขั้นเข้ามาค้นห้องหู้เลยด้วยซ้ำ (บ้าไปแล้วพี่น้อง!!!! O_o พ่อแม่หู้ยังไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ!!) นั่นเป็นครั้งแรกที่หู้คิดว่าอะไรมันเกินมากเกินไปแล้ว ล้ำสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวสุดๆ แล้วเขาไม่ให้หู้ไปเที่ยวไหนเลย คือต้องเรียน เรียน เรียน เรียนภาษาเกาหลีอย่างเดียวเท่านั้น แถมยังโทรไปฟ้องโครงการเรื่อยๆ อีกต่างหาก =_= เอ่อ... จะเอาอะไรกับฉัน??
 
    จนกระทั่งผ่านไปสองเดือน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่ทำให้หู้รู้สึกช็อกสุดๆ คือ ต้องย้ายบ้าน เพราะว่าโฮสท์ยายที่อยู่เมืองอินชอนนั้นเกิดป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้โฮสท์แม่ (ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ โอ้โห... หน้าที่หนักสุดๆ =_=โฮสท์แม่ต้องทำทุกอย่างให้บ้านโฮสท์พ่ออ่ะ บ้าไปไหมเนี่ย???) ต้องไปกลับอินชอน ดูแลโฮสท์ยายตลอด ซึ่งเขาเหนื่อยมากเกินไปที่จะมาดูแลตัวหู้ด้วย ทำให้หู้ต้องย้ายบ้านอย่างเสียไม่ได้...
     
     โฮสท์ที่สองเป็นโฮสท์ชั่วคราวแค่สองเดือนเท่านั้น มีโฮสท์พ่อแม่ พี่ชาย และพี่สาว
หู้ต้องแชร์ห้องกับโฮสท์พี่สาวซึ่งอายุมากกว่าหู้ถึง 10 ปี ตอนแรกเราก็เหมือนจะเข้ากันได้ดีมาก โฮสท์แม่บอกว่าลิมิตกลับบ้านคือเที่ยงคืน เป็นเรื่องปกติค่ะเพราะว่าที่เกาหลีเด็กๆ จะกลับบ้านกันดึกมากถึงตี 2-3 ก็มีเพราะเรียนพิเศษ 
 
     พอสักพักหนึ่งหู้ไปเรียนเต้น (โรงเรียนชื่อว่า Winners Dance School ที่คิมฮโยยอนวง Girl’s Generation เคยเรียน) ซึ่งคลาสจะเลิกประมาณ 3 ทุ่ม กว่าหู้จะกลับถึงบ้านก็คือ 4 ทุ่ม เขากลับมาหาว่าหู้เนี่ยกลับบ้านดึก พอหู้อยู่บ้าน เขาก็หาว่าทำไมไม่รู้จักออกไปนอกบ้านบ้างหาประสบการณ์ไปกับเพื่อน = = พอไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็บอกว่าหู้ไม่หัดอยู่บ้านตั้งใจเรียนภาษาเสียบ้าง แล้วทำไมถึงนอนดึกนัก ลูกสาวเขานอนไม่ได้ก็เพราะหู้คนเดียว ทั้งๆ ที่มีหลายครั้ง
ที่โฮสท์พี่สาวทำงานจนถึงดึกเปิดไฟจนหู้ไม่ได้นอน แต่หู้แค่กลับมาบ้าน 4-5 ทุ่มในวันที่โฮสท์
พี่สาวไม่สบายเลยกลับบ้านเร็วแค่วันเดียว... หู้เสียศูนย์มากเลยค่ะตอนนั้น หู้ถึงกับขั้นโทรไปร้องไห้กับที่บ้านจะกลับประเทศไทยเลยทีเดียว แต่สุดท้ายหู้ก็กัดฟันอยู่ต่อจนกระทั่งหมดสองเดือนและเปลี่ยนไปโฮสท์ที่สาม

   
    โฮสท์ที่สามก็ชั่วคราวสองเดือนเหมือนกันแต่อยู่ในเมืองเลยค่ะ อยู่ที่เขตมาโป ใกล้ๆ
ฮงแดแหล่งช้อปปิ้งของเกาหลีวัยละอ่อน คือนั่งรถบัสห้านาทีถึง เดินก็แค่สิบนาทีเท่านั้น ซึ่งก็
ใกล้กับที่เรียนเต้นมากด้วย ทำให้ชีวิตหู้กลายเป็นติดกับที่เรียนเต้นที่สุด เพราะที่บ้านนั้น...
โฮสท์พ่อกับแม่ออกทำงานทุกวัน โฮสท์น้องสาวและพี่ชายก็ต่างอยู่ในห้องของตัวเอง
ทุกคนคือไม่ว่างไม่คุยกับหู้เลย
แล้วเขาก็ไม่ค่อยทำกับข้าวทิ้งไว้ ช่วงนั้นหู้น้ำหนักลงถึง 6 กิโลเพราะไม่มีอะไรกิน คือถ้าเกิดไม่มีที่เรียนเต้นหู้ก็คงกลับไทยมานานแล้ว เพราะที่นั่นกลายเป็นที่ๆ... แน่ะ อิ๊ -.,-^ เดี๋ยวไว้เล่าข้างล่างนะ... อุวะฮะฮ่าๆ!!
     
     พอย้ายมาโฮสท์สุดท้ายใจถึงเป็นสุขค่ะ ถึงจะมีเรื่องง้องแง้งกับโฮสท์น้องที่เอาแต่ขัดตัวทั้งวันทั้งคืนในห้องน้ำที่มีห้องเดียว ถึงจะต้องแชร์ห้องกับโฮสท์ที่อายุเท่ากัน แต่เราก็สนิทกันมาก ไปเที่ยวด้วยดูหนังด้วยกัน ถึงโฮสท์พี่สาวจะทำงานกลับบ้านดึกแต่เราก็คุยกัน โฮสท์แม่ทำอาหาร
อร่อยๆ ทุกวันแล้วเราก็นั่งคุยกันด้วย สั่งไก่ทอดมากินกันตอนเที่ยงคืน คือ... สนุกค่ะ เอ็นจอยมากจริงๆ ^^



      แต่อยากเม้าท์เรื่องของโฮสท์น้องเล็ก “ลีดาฮเย” ณ บ้านโฮสท์สุดท้ายไว้นิดนึง 555 ด้วย
การที่ชีเด็กมากคล้ายๆ จะแอบเป็นลูกหลงหน่อยๆ เพราะพี่คนโตสุดเนี่ยใกล้จะจบมหาวิทยาลัยอยู่รอมร่อแล้ว ชีจึงค่อนข้างเอาแต่ใจอย่างหนักหน่วง (แบบเด็กๆ อ่ะค่ะ ง้องแง้งๆๆ) คือชีจะบ้าขัด
ตัวมาก!! (ภาษาเกาหลีเรียกว่าการ “มกยก”) ขัดตัวแบบเหมือนในมกยกทังอ่ะค่ะ แบบ
4-5 ชั่วโมงอยู่ในห้องน้ำคนเดียว 


มกยกทัง (목욕탕)


     จนครั้งหนึ่งโฮสท์พี่สาวคนโตสุดกลับมาบ้านแล้วปวดฉี่มาก แต่ชีก็ไม่ให้เข้าห้องน้ำจนต้องไปเคาะคอนโดห้องข้างๆ เพื่อขอเข้าห้องน้ำ ต๊ายตาย... =_= ไม่รู้จะขำหรือจะอะไรดี มีครั้งหนึ่งหู้
กับอึนฮเย (โฮสท์ที่อายุเท่ากัน) กลับมาจากดูหนัง หู้หยิบชุดแล้วพูดว่า ฉันอาบน้ำเร็ว งั้นเดี๋ยวฉันอาบก่อนนะ พอยัยน้องเล็กได้ยินปั๊บ! ชีรีบถอดๆๆๆๆ เสื้อผ้ากระจายเต็มบ้านแล้ววิ่งเข้า
ไปในห้องน้ำปิดประตู พร้อมกับตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “จะมกยกละน้าาาา”
อ้าว!! เด็กนี่ O_O^^ มันจะเที่ยงคืนแล้วจะโว้ยจะมาขัดอะไรตอนนี้เนี่ยยยยยยย!!! แล้วโฮสท์พ่อก็ออกมาด่าชี จนชีต้องออกมาและยอมให้หู้เข้าไปอาบน้ำ ไม่งั้นคงรอกันถึงตีสามกว่าจะได้อาบน้ำ ฮ่วย!! บ้าจริง

      แล้วมีอยู่วันนึง ดาฮเยเดินหลั่นล้าเข้ามาและถามหู้ด้วยสีหน้า ^.,^ แบบนี้ว่า

“นายอนออนนี! ที่ประเทศไทยมีขนมที่ชื่อฟิชโช่ใช่มั้ย”
“มีสิ”
“นี่!!” แล้วชีก็ชูถุงฟิชโช่ขึ้นมา

      ที่ไทยเนี่ยย 5 บาท 10 บาท แต่ที่นู่น เกือบร้อย!! แพงมาก คือชีชอบมาก หวงมาก จน
กินวันละเส้น คิดดู๊วววคิดดู วันละเส้น อุแหม่ =_= ทำไปได้
ตอนแรกหู้จะกินเลยหยิบขึ้นมา
4-5 เส้นตามวิธีกินหงับๆ ปกติ ชีกรี๊ดดดดดดดดดดออกมาและรีบฉกออกไปจากมือหู้ 4 เส้นและ
พูดว่า “มันแพงนะ!! กินน้อยๆ สิ” ง่ะ... -O-… อึ้งไปห้าวิ ก่อนจะเอามือเท้าสะเอวหมับและพูดบรรยายยั่วน้ำลายไหลว่า “ที่ไทยน่ะนะ พี่กินไอ้นี่ทุกวันเลย วันละสิบถุง สิบห้าถุง! กินทีเป็นกำ อบกรอบด้วย ไม่ต้องมากินทีละเส้นหรอก” จนชีทำหน้าตาอิจฉาสุดขีด หู้จึงสัญญาว่า ถ้า
กลับมาไทยแล้วจะส่งไปให้ลังนึง แล้วก็ส่งไปให้เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา รู้มั้ยคะว่าชีทำยัง
ไง (โฮสท์แม่เล่ามา) ชีรีบหยิบประมาณ 7 ถุงเอาไปซ่อนไว้ใต้เตียงทันที เย้ยยย -_- จะชอบอะไร
ขนาดนั้นคะ




     มา!! =,,= เข้าเรื่องหนุกหนานกันเถอะ!!!!!! หู้ได้เอ่ยถึงที่เรียนเต้นชื่อว่า Winners Dance School ไปแล้วข้างต้น แฟนคลับ Girl’s Generation อาจจะเคยเห็นคลิปเต้นของฮโยยอนใน
ยูทูปที่เป็นซ้อมเต้นก่อนเดบิวต์มาบ้างแล้ว ที่นั่นแหละค่ะที่หู้ไปเรียนเต้นมา!!!!!! เรียนเต้น Poppin เพราะส่วนตัวอยู่ไทยก็เต้นอยู่แล้ว ที่นั่นหู้ได้พัฒนาภาษาเกาหลีอย่างเต็มสูบเพราะทุกคน.....
ไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลยสักกระจิ๊ดดดดดดดด เลยต้องโม้แหลกเกาหลี คือที่เรียนเต้นนี้ดังมากจนมีชาวต่างชาติบินมาเพื่อมาเรียนกับครูที่นี่โดยเฉพาะ!!
เฟี้ยวป่ะล่ะ แล้วหู้สนิทกับ
พวกครูเพราะเขาเห็นว่าเป็นต่างชาติที่พูดเกาหลีได้ เขาก็จะหันมามองหน้าหู้และ....

“นายอน =w=”
“ค่ะ ซอนแซงนิม -O-“
“หน้าที่แปลเป็นของเธอ”

จนหู้ได้ใช้ทั้งทักษะเกาหลีและอังกฤษเต็มที่ คือคุ้มอ่ะ!!

   
     นักเต้นที่ดังๆ ก็จะมี Poppin DS (ครูของฮโยยอน!! คนนี้สนิทกับหู้ด้วย ขอบอก หุๆ -..- เขาบอกว่าเขายังติดต่อกับฮโยยอนอยู่เลย) Poppin HOAN และ Poppin DANDY (คนนี้
ไม่มีรูปด้วยเสียดายจุง T3T) ทำให้หู้ได้มีโอกาสเจอกับนักเต้นดังๆ หลายคนทั้ง Hugo และ Mr. Wiggles และ Poppin J ซึ่งหลายๆ คนที่ไม่ได้เต้นอาจจะไม่รู้จัก แต่สำหรับหู้แล้วถือว่าเป็น
เกียรติมากเลยค่ะ T^T โดยเฉพาะมิสเตอร์วิกเกิ้ลส์ซึ่งเป็นเหมือนแดนซ์ฮีโร่ของทั้งโลก หู้เองได้มีโอกาสทำเวิร์คช็อปเต้นกับเขา

     และตอนที่เขาให้โยกฟรีสไตล์ เขาบอกให้ทุกคนหยุด แล้วดูอารมณ์และความลื่นไหล (flow)
ในการเต้นของหู้ และพูดกับหู้ว่า “You got the groove, you are a great dancer. (คุณมีความเจ๋งอยู่ในตัว คุณเป็นนักเต้นที่ยอดเยี่ยม)” โอ๊ยยยยยย *O* หู้เก็บไปฝันทั้งคืนเลยค่ะ
ฟินม้วก!! ออกตัวเลยว่าเป็นคนไทย เขาบอกว่า เขาเคยมาประเทศไทยนะ เขาชอบมากเลย แค่นี้ก็ปลื้มจะแย่แล้ว แถมหู้ยังได้มีโอกาสไปดูแบทเทิลใหญ่ๆ อย่าง Funk Style Battle vol. 5 ด้วย
แหม.. ตอนวันสุดท้ายที่เรียนเนี่ย แทบจะแดดิ้นร้องไห้ T^T ฮือๆๆๆ





 
     เรื่องดราม่าที่มีนอกจากเรื่องโฮสท์แฟมิลี่แล้ว ก็คงเป็นในโรงเรียนเนี่ยแหละค่ะ เพราะว่าหู้
อยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนที่ค่อนข้างเคร่งกับการเรียนมากๆ แถมที่เกาหลีซีเนียริตี้(ระบบรุ่น
พี่รุ่นน้อง) ยังสูงสุดๆ อีกต่างหาก สาวเกาหลีบางคนก็มีอุปนิสัยค่อนข้างขี้อิจฉาแบบนี้

จะไม่มีเรื่องมันส์ๆ ได้ยังไง?!
   
     แถ่นแท้นนนนน โรงเรียนของหู้ชื่อ Myungduk Girls’ High School ค่า อย่างมี
ครั้งหนึ่ง หู้เคยเข้าไปในห้องน้ำตอนเช้า แบบว่าไม่มีใครเลย แต่แล้ว เราก็ได้ยินเสียง...

“เออนี่... เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนห้อง 16 น่ะ ชื่ออะไรนะ”
“ชื่อนายอน”
“เออ ไม่เห็นสวยเลยอ่ะ มาจากประเทศไทยใช่ปะ นี่คนไทยหน้าตาแบบนี้หมดเลยเหรอเนี่ย ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่น่าอยู่อ่ะ (แล้วชีก็หัวเราะค่ะ)”
“ก็น่ารักดีออกนะ คนไทยหน้าตาดีก็มีนี่ นิชคุณไง”
“ก็นิชคุณเขาหล่อนี่เลยได้เป็นดาราไง ต้องดูคนหน้าพื้นๆ ทั่วไป”
   
    อืม... = = หู้เลยเปิดประตูเดินออกไปเลลย คือพวกชีก็ช็อกเลยนะ หน้าเหวอ แต่คงคิดว่าหู้
ฟังไม่รู้เรื่องอ่ะ เลยแบบ

“อันยองนายอน ^^”
“อันยอง ^^” หู้ก็ยิ้มตอบ แล้วก็ล้างมือ แล้วก็พูดลอยๆ ขึ้นมาว่า
“เมื่อกี้พูดอะไรได้ยินหมดนะ... ขอบใจจ้ะ”
     
    แล้วหู้ก็เดินออกจากห้องน้ำไปเลย คือถ้าถามว่าหงุดหงิดมั้ยที่ตัวเองโดนว่า อ้าว แน่นอนค่ะ หงุดหงิดอยู่แล้ว เพราะหู้ไม่เคยคิดว่าตัวเองสวยเลอเลิศเลยนะ ด่าแค่หู้ก็ยังพออภัย แต่ทำไมต้องพาดพิงถึงคนไทยวะ = =++


      อีกเรื่องนึงคือ หู้เลือกอยู่ชมรมประสานเสียง เพราะว่าหู้ชอบร้องเพลงแล้วก็เต้นเป็นที่สุด ชมรมนี่ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาเกาหลีมาก (ตอนไปใหม่ๆ หูดับมากค่ะ) แล้วหู้อยู่ระดับเสียง
โซปราโน่ค่ะ แถมยังได้มีโอกาสร้องโซโล่ในงานอีเว้นท์นึงอีกทั้งๆ ที่คนในชมรมเสียงดีมากๆ ทุกคน ซึ่งอีเว้นท์นี้เป็นงานที่ถ้านักเรียนคนไหนได้ร้องโซโล่ ถือว่าคุณมีของ หู้ภูมิใจมากค่ะ แต่หู้ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเสียงดีเริ่ดอะไรนะคะ แล้วก็พอรู้เหตุผลนะว่าทำไมถึงได้โซโล่ เพราะเพลงมันก็เป็นภาษาอังกฤษไง แล้วหู้สำเนียงชัดสุดแล้ว 55555 แต่เพราะเรื่องที่ได้รับเลือกให้ร้องโซโล่เนี่ยแหละ ที่มันทำให้มีเรื่อง -.-…
     
     คือในชมรมของเต้าหู้ จะมีสาวๆ รุ่นพี่ปี 2 (ม.5) กลุ่มหนึ่งซึ่งจะค่อนข้างดังมาก เพราะหนึ่งคนในกลุ่มนั้นได้ออกทีวีรายการประกวดคัดเลือกนักร้องที่ดังสุดๆ ของเกาหลีในช่วงนั้น (ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะ แต่เชื่อว่าคอเกาหลีทุกๆ คนต้องรู้จักรายการนี้แน่ๆ) ตอนแรกก็เหมือนจะคุยกับหู้ดี
เพราะเห็นเป็นชาวต่างชาติ แต่หลังๆ เหมือนเห็นว่าอาจารย์เขาลูบหน้าลูบหลังหู้เยอะแถมยังให้ท่อนโซโล่มาครองอีก เขาเลยเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมา คือถึงขั้นเขม่นใส่หู้เลยทีเดียว เค้าเคยเดิน
มาหาหู้ที่คุยอยู่กับเพื่อน แล้วจิกตาใส่ -_-+ ทำนองนี้
แล้วพูดว่า

“เธอชื่ออะไร”
“ชื่อเกาหลีชื่อเบนายอนค่ะ”
“อ๋อ... ร้องเพลงเพราะนี่ ลองร้องหน่อยซิ”
   
     อ้าว เรื่องไรมาสั่งให้ร้องวะ =_=^ ตอนแรกหู้ก็จะเถียงออกไปว่า ทำไมต้องร้องด้วย แต่
เพื่อนดันหยิกแล้วกระซิบว่า (ทำไปเหอะน่า! T^T เขาเป็นรุ่นพี่นะ) เอาก็เอาวะ เลยร้อง If I
ain’t got you ให้ฟังสั้นๆ แล้วเขาก็แบบเขม่นกระตุกปากเดินไปเลย แล้วมันก็กลายเป็นเหมือนเรื่องเม้าท์ในกลุ่มปีสองว่า มีเด็กแลกเปลี่ยนจากประเทศไทยไปกระตุกหนวดพวกรุ่นพี่เข้า!
เอ้า??? อะไรฟะ???
   
     นอกจากนี้ที่เกาหลีใต้อย่างที่อาจจะมีคนเคยอ่านกันในเด็กดีว่า วันสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่
เรียกว่า “ซูนึง” เนี่ย จะเป็นอะไรที่สำคัญมาก! พวกรุ่นน้องปีหนึ่งปีสอง (หรือม. 4-5) จะต้องทำการแสดงเพื่อให้กำลังใจกับรุ่นพี่ปีสาม ซึ่งห้องของหู้นั้นได้จัดการส่งหู้กับเพื่อนอีกคน
นึงที่ชื่อว่า ลีชุงยอน ร้องเพลง Genie และ Way to go! ของโซนยอชีแดให้รุ่นพี่ด้วยค่ะ
เสียดายที่ไม่มีคลิปตอนร้องโซโล่ในโชว์เคสของชมรมประสานเสียง แต่มีคลิปร้องก่อนวันซูนึงนี้
จึงนำมาให้ชมกันค่ะ!! ^_^ หู้คือคนผมยาวมีหน้าม้าที่เปิดว่า 1 2 3 โซวอนนึลมัลเฮบวา นะคะ ^^





     เรื่องดราม่าอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องของคนที่ทั้งห้องเกลียดขี้หน้า นางมีนามว่า "ลีโดยอง" กรี๊ด คิดถึงเรื่องนี้ก็ขึ้นอย่างแรง =_=++ ชีทำหู้ไว้แสบมาก คือชีเป็นพวกเหมือนประมาณว่า ข้าต้องเป็นที่หนึ่งตลอด! ข้าต้องเก่ง ต้องเจ๋ง ต้องสุดยอด! คือชีเนี่ย เรียนภาษาอังกฤษมา 8 ปี จนคิดว่าชีอ่ะสำเนียงเสียงแกรมม่าเลิศกว่าทุกคน จนกระทั่งชีมาเจอหู้ ซึ่งหู้เองค่อนข้างมั่นใจในทักษะภาษาอังกฤษมากเพราะได้เกรดสี่มาตลอด (เพราะตัวหู้เองก็เรียนโรงเรียน English Program ตั้งแต่เกิดด้วยค่ะ) 

 
     ชีก็เหมือนมาพยายามตีสนิทเจ๊าะแจ๊ะแต่แรก และคอยสังเกตว่าหู้ภาษาอังกฤษเป็นยังไง!!
พอเห็นว่าหู้เจ๋งจริง (กล้า 55) ชีก็เลยแอบจิกหู้อยู่ลึกๆ คือชีจะเที่ยวลากคนโน้นคนนี้ไปเป็น
กลุ่มหัวเน่ากับชีด้วย จนคนๆ นั้นไม่มีใครยุ่งด้วย แล้วพอชีไม่พอใจคนนั้นขึ้นมา ก็จะถีบ
หัวส่งซะเฉยๆ อย่างไม่สนใจ เป็นการกระทำที่แย่มาก
จนกระทั่งวันนึง หู้ดันซวยจับฉลากได้
นั่งกับชีเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ หู้ก็วาดรูปเล่นบ้าง หัดเขียนนั่นนี่ลงในสมุดบ้าง จนในคาบเรียนวิชาแนะแนวซึ่งหู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย ชีก็มองหู้ด้วยสายตาไม่พอใจ จนหู้ถามว่า

“มีอะไรเหรอ (ยังพูดดีอยู่)”
“...เปล่านี่ (แต่หน้างี้เหวี่ยง)”
(ออกนิสัยคนไทยทันที) “มีอะไรก็พูดมาสิ”
“ไม่รู้นะ แต่ฉันว่าเธอเนี่ยไม่มีความพยายามในการเรียนภาษาเกาหลีเลย ฉันไม่เห็นเธอทำอะไรสักอย่างนอกจากวาดรูปเล่น เขียนนั่นนี่ แล้วก็นอน ไปชมรมร้องเพลง ตอนแรกฉันคิดว่าเธอน่ะพิเศษเพราะเธอเป็นชาวต่างชาติคนแรก แต่เธอก็ทำให้ฉันผิดหวัง”
 
     เลเวลความโกรธของหู้ก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ทันที จากหงุดหงิดจนถึงกลายร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่า!! ทั้งห้องเงียบลงเพื่อฟังหู้กับชีเถียงกันด้วยความอึ้ง

“นี่ เธอจะมาว่าฉันแบบนี้ไม่ได้นะ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาตัดสินว่าฉันควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เธอคิดว่าวิธีเรียนรู้ของคนเรามันเหมือนกันหรือไง ฉันถึงได้ต้องนั่งดักดานท่อง
คำศัพท์อ่านทุกตัวจำทุกคำเหมือนเธอ ฉันน่ะเรียนรู้ด้วยความสนุกและจดจำเอาจากสิ่งที่ทำจริง แล้วถ้าเธอคิดว่าฉันไม่แน่จริง ฉันจะมานั่งตรงนี้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไหมล่ะ
ชีวิตนี้เธอเคยออกไปประเทศอื่นนอกจากเกาหลีหรือเปล่า”
“...ไม่เคย”
“นั่นน่ะสิ เธอก็ได้แต่อยู่ในประเทศจะไปรู้อะไรว่าการอยู่เมืองนอกมันลำบากแค่ไหน ภาษา
ก็ไม่ใช่ภาษาของตัวเอง บ้านก็ไม่ใช่ วิถีชีวิตก็เปลี่ยนไป ถ้าเธอไม่รู้อะไรก็หุบปากเสียดีกว่า!!”
“นายอนใจเย็นๆ พอแล้วอย่าทะเลาะกันเลย”

     จูดายอง เพื่อนคนหนึ่งในห้องรีบเข้ามาห้ามหู้ก่อนจะเกิดศึกระหว่างไทยเกาหลีขึ้น หู้เลยลุก
ขึ้นยืนและปรายตามองชีพร้อมพูดว่า

“ฉันควรจะเป็นฝ่ายสั่งสอนเธอมากกว่า ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่ยอมให้เธอกดง่ายๆ”

      แล้วก็เดินออกไปอย่างฮีโร่...ฮ่าๆๆๆ ณ จุดนั้นหู้สะใจมาก คือชีแบบ อี๋ =_= อะไรอ่ะ ทำ
หน้าตาอวดดีมาก หู้ไม่ใช่คนตัดสินคนที่หน้าตานะคะเพราะหู้เองก็หน้าตาไม่ดี มีครั้งหนึ่งเข้าแถวกินอาหารกลางวันกันอยู่ เพื่อนของหู้มองชีแล้วเบะปากพร้อมพูดขึ้นว่า

“อี๋ ยัยอัปลักษณ์”

   
     แล้วก็ฮาครืนแตกกันทั้งวง เพราะปกติเนี่ย ชีมีผมที่หยิกมาก แบบหยิกฟูฟ่อง แล้วชีดันไปยืด
ผมมา ซึ่งมันลู่หน้าชีได้แบบ เอ่อ... ไรง่ะ จนทุกคนเอามาเม้าท์ลับหลังว่าเป็นทรงผมหมาบูลด็อก หรือทรงผมของวง H.O.T ซึ่งเป็นทรงที่โบร้านนนนโบราณสุดๆ
   
     ยังไม่จบแค่นั้น  หลังจากบาดหมางกันไปทุกคนก็พากันเข้ามาปลอบหู้ว่า อย่าไปถือสาเลย
ชีก็บ้าๆ แบบนี้แหละ แล้วก็เอาไปพูดกันว่าแย่จริงๆ ที่ทำให้ชาวต่างชาติคนเดียวหัวเสียได้ เพราะหู้
ไม่เคยโกรธใครเลย แม้แต่วันสุดท้ายที่พวกเราถ่ายรูปกันเลี้ยงส่งหู้ ทุกคนรวมตัวหันและตั้งกล้อง
แล้ว แต่ชีดันขึ้นมาช้าสุดเพราะไม่ได้ร่วมมือเตรียมเซอร์ไพรส์ให้หู้ด้วย (น่าเกลียดมาก!) ก็มีคนนึงตะโกนเรียกว่า

“โดยอง มาถ่ายด้วยกันสิวันสุดท้ายของนายอนแล้วนะ!”
“ไม่ล่ะ”
“มาเถอะน่า”
“ไม่ ฉันไม่อยากถ่ายนี่ (เชิดหน้าเบะปาก)”

เงียบกริบ...
เกิดเสียงซุบซิบเซ็งแซ่เป็นคำหยาบทันที -_- เป็นไง น่าเกลียดมั้ยล่ะ!!




     มาพูดถึงเพื่อนสนิทกันดีกว่า!!! หู้มีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คนที่สนิทม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมาก คือ ฮาซังฮี จองอารึม และลียุนเจ ซังฮีเนี่ยสนิทกันมากเลยเพราะเขาเป็นคนแรกที่
ถูกจับมานั่งข้างหู้เพราะตอนนั้นมันต้องนั่งเรียงตามเลขที่ แล้วหู้ดันได้นั่งติดเขาทั้งๆ ที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลย เขาก็พยายามสื่อสารกับหู้มาก จนเราสนิทกัน ตามมาด้วยอารึมหัวหน้าห้อง
และยุนเจสุดสวยที่ค่อนข้างเก่งภาษาอังกฤษเพราะไปซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์มาก่อน (คนนี้แหละที่จัดนัดบอดให้หู้ อิอิ -..- อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ 5555)

   
     ตอนแรกเนี่ยเหมือนทุกคนในห้องเขาก็ชอบหู้มาก คือเห่อของใหม่อ่ะค่ะ แต่ผ่านไปสักพักทุก
คนก็มีกลุ่มของตัวเอง แล้วด้วยการที่ว่าพอมาคุยกับหู้เป็นภาษาอังกฤษ แล้วคนเกาหลีเขาสำเนียงแปลกๆ บางคำหู้ฟังไม่รู้เรื่อง แค่พอถามว่า อะไรนะ เขาก็จะอายเดินหนีไปเลย ทำให้กลายเป็นไม่ค่อยมีใครคุยด้วยเท่าไหร่ T^T แต่ด้วยความหน้าด้านยางอายละลายง่ายก็ทำให้หู้กล้าคุยจนเก่งภาษาเกาหลีขึ้นมา
 
     จนกระทั่งตอนใกล้ๆ กลับเนี่ยแหละค่ะ ก็มีเพื่อนมาเล่าว่า...
 
     คนที่ชอบเกาหลีอาจจะรู้จักโปรแกรม Kakaotalk กัน โปรแกรมแชทในมือถือเหมือน LINE น่ะค่ะ คือมันจะมีกรุ๊ปห้อง ซึ่งหู้เนี่ยไม่ได้เล่นในกรุ๊ปด้วยเพราะว่ามันต้องเสียตังค์รายเดือนค่ะ เหมือนค่าโทรศัพท์เลย แล้วก็มารู้ภายหลัง...ว่า กรุ๊ปห้องเนี่ย มันจะมี 2 กรุ๊ป กรุ๊ปหนึ่งคือกรุ๊ปที่ไม่มีหู้คนเดียว และอีกกรุ๊ปคือไม่มีหู้และโดยอง และในกรุ๊ปที่สองที่ไม่มีหู้และโดยอง เขาก็คุยกันประมาณว่า... (อันนี้หู้ก็มารู้ทีหลังนะ) ว่าตอนแรกที่เขาไม่คุยกับหู้กันเพราะประการฉะนี้

“นายอนน่ะ ไม่พูดภาษาเกาหลีเลย ฉันไม่กล้าคุยด้วยเลย”
“นั่นน่ะสิ ฉันคุยภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องด้วย”
“เขาดูหยิ่งๆ เนาะ ไม่รู้ว่าจะชอบเราหรือเปล่า”
“เขาน่าจะคุยภาษาเกาหลีมากกว่านี้นะ”

     บลาๆๆ ว่ากันไป แต่พอหู้เก่งเกาหลีคุยมากขึ้น ก็กลายเป็นว่าทุกคนเข้ามาคุยกับหู้ค่ะ เพราะหู้เป็นคนเรื่อยๆ อะไรง่ายๆ สบายๆ อยู่แล้ว มีแบบสอนร้องเพลงชื่อเต็มกรุงเทพ เล่นเกมไทยแปลกๆ เล่าเรื่องในประเทศไทยให้ฟัง สนุกจะตายไป อิอิ เห็นมั้ยล่ะ ทุกคนเลยก่นด่าโดยองที่มาว่าหู้ไง -..- 
   
     ซึ่งหลังๆ กรุ๊ปนั่นเลยกลายเป็นกรุ๊ปด่าลีโดยองคนเดียวไปโดยปริยายค่ะ หู้มีส่วนร่วมบ้างโดยการใช้มือถือเพื่อนพิมพ์ 555 กรุ๊ปแรกที่มีโดยองทุกคนไม่ค่อยเล่นกันค่ะ ปล่อยเป็นกรุ๊ปร้างกันเพราะไม่อยากสุงสิงกับชี และวันสุดท้ายที่หู้ไปโรงเรียน ทุกคน(ยกเว้นลีโดยอง =_=++) เขา
ก็ทำการเซอร์ไพรส์หู้โดยการซื้อเค้กที่เขียนว่า “เราจะคิดถึงเธอ เรารักเธอนะ” แล้วก็มีร้องเพลงอำลาให้ ซึ้งมาก ร้องไห้จนหน้าแดงไปหมดเลย
T ^ Tเสียดายจังที่ไม่มีโอกาสถ่ายรูปเค้กนั่นไว้ โดนเอาละเลงหน้าหมดเลย 5555




    หนึ่งปีที่เกาหลีใต้ ตอนที่อยู่ที่นู่น หู้ก็คิดว่ามันไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่พอกลับไทยมาคิดดูดีๆ รู้สึกว่าได้อะไรมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะดีจะแย่... ก็จะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำดีๆ ตลอดไปค่ะ


    ติดตามเรื่องสนุกเพิ่มเติมได้ที่

http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=730396

 
   โลกหมุนไปหนึ่งปี Me in South Korea ค่า ^^ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่เป้และเด็กดีที่มีพื้นที่ให้หู้ได้มาเขียนเล่าเรื่องๆ สนุกๆ ให้เพื่อนๆ อ่านกันด้วย สวัสดีค่า!!


ตอน 33 :4 เครื่องดื่มประจำชาติเกาหลีใต้ รู้มั้ยมีอะไรบ้าง?
ตอน 34 :ชื่อเกาหลีสุดโหล!! ชื่อนี้แหละ...ซ้ำมากที่สุดในประเทศ

ตอน 35 : 10 อันดับมหาวิทยาลัย-คณะ-สาขา ที่ดีที่สุดในเกาหลีใต้
ตอน 36 : มหา'ลัยหญิงล้วนอันดับ 1 ของเกาหลีและของโลก "อีฮวา"



ต้องลอง!! Dek-D's โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกทั่วโลก 2013
โปรแกรมแรกในเมืองไทยที่จะช่วยค้นหาทุนเรียนต่อต่างประเทศ ง่ายแค่คลิก! รวบรวมทุนฟรีๆ 
ไว้แล้วกว่า 200 ทุน คลิกไปใช้กันได้ที่  www.dek-d.com/studyabroad/scholarship
     

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เหลืองยอล์ป Member 20 เม.ย. 56 03:39 น. 3
สนุกมากกกกกกกก ชอบเต้าหู้มากๆ
ตามอ่านมาตั้งแต่เขียนในบทความแรกๆแล้ว
หู้เล่าเรื่องได้สนุกมากๆ ส่วนอันนี้ก็ยาวและสนุกสุดๆ
ดูแล้วหู้ได้ประสบการณ์มาเยอะแยะมากเลย คุ้มค่าจริงๆ ;__;
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

159 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
เหลืองยอล์ป Member 20 เม.ย. 56 03:39 น. 3
สนุกมากกกกกกกก ชอบเต้าหู้มากๆ
ตามอ่านมาตั้งแต่เขียนในบทความแรกๆแล้ว
หู้เล่าเรื่องได้สนุกมากๆ ส่วนอันนี้ก็ยาวและสนุกสุดๆ
ดูแล้วหู้ได้ประสบการณ์มาเยอะแยะมากเลย คุ้มค่าจริงๆ ;__;
0
กำลังโหลด
piesqyy Member 20 เม.ย. 56 05:23 น. 4
โห ยาวมากเลย >< อ่านไปยิ้มไป 55555
เราเพิ่งกลับมาจากเกาหลีเหมือนกัน
ไปเรียนภาษาอังกฤษแล้วก็แว๊นซ์โรงเรียนเกาหลีนิดหน่อย
โรงเรียนที่เราไปผู้ชาย 800 ผู้หญิง 100 คนแบบเฮฮามาก
แต่ไม่รู้ว่าโรงเรียนหญิงล้วนเป็นยังไง เพราะเราไม่ชอบสาวเกาหลีเท่าไหร่ -.,-
เต้าหู้เก่งมากเลยอ่ะที่ใช้ชีวิตอยู่นั่นได้
เดี่ยวเราตามไปอ่านบทความน้า :)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ILike 20 เม.ย. 56 07:49 น. 7
ชอบมากกกกกก อ่านแล้วสนุก ได้อะไรเยอะเลย เต้าหู้เจ๋งมากๆ

เนี่ยแหละถึงชอบประเทศเกาหลี เพราะไม่ได้ชอบแค่ศิลปินเกาหลี

แต่ชอบไปถึงวัฒนธรรม,สังคม,ความเป็นอยู่ต่างๆของประเทศเค้าด้วย 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Mocca ^o^/ Member 20 เม.ย. 56 09:46 น. 9
สุดยอดแฮะ พี่อดทนสุดๆเลยอ่ะ จะบอกให้ถ้าหนูเจอโฮสต์แรกแบบพี่นี่หนูขอเปลี่ยนโฮสต์เลย
อยากไปบ้างจัง (แต่พูดเกาหลีไม่เป็น อังกฤษก็ไม่เก่ง แหะๆๆ ; P)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nookLuVป๋าเกิงสุดใจ๊ Member 20 เม.ย. 56 12:29 น. 14
ร้องเพลงเพราะมาก
เต้นก็เก่งด้วย




ประสบการณ์ก็เล่าได้มันส์
เป็นกำลังใจให้น้องเต้าหู้ ของดีๆ อย่างนี้ขอแชร์นะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Manna 20 เม.ย. 56 13:34 น. 16
เล่าสนุกอ่านแล้วกรี๊ดไปด้วยเลยคะ อิน!!
ร้องเพลงเพราะมากๆ ด้วย โซวอนนึลทาเรบวาแล้วอย่างอึ้ง OoO

มิน่าได้ร้องโซโล่ กรี๊ดดดด
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Fiance^^ Member 20 เม.ย. 56 14:13 น. 18
เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆที่ได้ไปแลกเปลี่ยน เก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำนะ...เธอคือคนที่พิเศษจริงๆ
0
กำลังโหลด
zeloppoy Member 20 เม.ย. 56 14:34 น. 19
รุ่นของพี่เต้าหู้เป็นรุ่นสุดท้ายที่จะไปเกาหลีจริงๆหรอค่ะ อยากไปมากกกกกก เสียดายจังTT
0
กำลังโหลด
หมู'แพรว'นะคะ Member 20 เม.ย. 56 15:49 น. 20
เล่าเรื่องสนุกมากเลย ปกติบทความยาวๆเราไม่ค่อยอ่านนะขี่เกียจ แหะๆ แต่นี่เขียนเล่าเรื่องสนุกอ่านจนจบเลย จริงๆนะ ><" ชอบจังเป็นผู้ญตัวคนเดียว แต่สู้ มีกำลังใจ ไปแค่ปีเดียว แต่ได้อะไรกลับมา เราว่าเยอะอ่ะ ทั้งเรื่องที่บ้าน ที่ร.ร. เก่งจัง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด