แพงสุดๆ!! รวม 10 ค่าบริการต่างๆ ในยุโรปเมื่อเทียบเป็นค่าเงินไทย

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com พูดถึงยุโรปแล้วทุกคนย่อมรู้ดีว่าเป็นทวีปที่ค่อนข้างมีค่าครองชีพสูงทีเดียว และหลายๆ ประเทศที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกนั้นก็ไม่ใช่ที่ไหน อยู่ในยุโรปเหมือนกันค่ะ วันนี้ พี่นิทาน เลยรวมรวมข้อมูลค่าใช้จ่ายต่างๆ 10 อย่างในยุโรป โดยนำ 3 ประเทศมาเปรียบเทียบกันให้เห็นและใช้ค่าเงินไทยให้รู้สึกหนาวกันเล่นๆ ด้วยนะคะ (หนาวทั้งอากาศและค่าครองชีพเลยจ้า


ค่าอาหารต่อหนึ่งมื้อ (ในร้านอาหารทั่วไปต่อคน)

    จำได้ว่าตอนที่ไปเที่ยวยุโรป เวลาจะกินอาหารแต่ละมื้อต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะกินอะไร แต่ในหัวจะไม่เคยคิดเรื่องเข้าร้านอาหารเลยถ้าไม่จำเป็นเพราะมันแพงม๊ากกกก ถ้าไปเที่ยวเองหรือเที่ยวกับแก๊งเพื่อนๆ แบบมีงบจำกัด ไม่แนะนำให้เข้าร้านอาหารค่ะ ให้ซื้อแซนด์วิชจากร้านสะดวกซื้อหรือมาม่า (เมืองนอกก็มีนะ แต่แพงกว่า) ก็อิ่มท้องได้จ้า หรือถ้าใครอยากเข้าร้านอาหารจริงๆ ก็ไม่ว่า มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละประเทศเค้าราคาเท่าไหร่กันบ้าง... อ้อ ปล. นี่เป็นราคาร้านอาหารปกตินะคะ ยังไม่ใช่ร้านหรูสุดๆ นะ

สวีเดน ราคาอาหารหนึ่งมื้อต่อคน จะเริ่มต้นที่ประมาณ 400 บาทไทย อันนี้ยังไม่รวมน้ำดื่มนะคะ แต่ถ้าไปเมืองเล็กๆ หรือต่างจังหวัดก็อาจจะถูกลงสักเกือบร้อยบาท ทั้งนี้ก็แล้วแต่ประเภทของร้านอาหารด้วยค่ะ

ฝรั่งเศส วัดกันจากเมืองหลวงปารีสก็จะตกอยู่ที่ราคาประมาณ 500 กว่าบาทต่อคน หรือถ้าโชคดีรู้จักร้านถูกๆ ก็อาจจะหาได้ราคาสักประมาณ 300-400 บาทต่อคน แต่ยอมรับว่าปารีสแพงจริงๆ แพงจนไม่กล้าหิวเลยทีเดียว! (ภาพข้างบนถ่ายที่ปารีส จะเป็นชุดอาหารที่แบ่งกินกันได้ 2 คนค่ะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 600 กว่าบาท อร่อยมากๆ)

อิตาลี ขอวัดกันที่เมืองมิลาน ซึ่งเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในอิตาลีนะคะ (แพงกว่าโรมที่เป็นเมืองหลวงซะอีกโดยค่าอาหารต่อหนึ่งมื้อต่อคน จะตกอยู่ที่ประมาณ 589 บาทต่อคน แต่อย่าตกใจไป สามารถหาร้านที่ถูกกว่าได้ จะอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ซึ่งก็ยังคงแพงอยู่ดีค่ะ 555  


แมคโดนัลด์หนึ่งชุด

    พูดถึงแมคโดนัลด์ก็ต้องยอมรับว่าเป็นร้านที่มีอยู่ในเกือบทุกประเทศที่เราไปเที่ยวเลยนะคะ และก็ซื้อง่าย กินสะดวกกว่าร้านอาหารทั่วไป แถมถูกกว่าร้านอาหาร ใครอยากประหยับงบ ประหยัดเวลา มาดูกันเลยว่าแมคโดนัลด์ชุดนึงเนี่ยจะเท่าไหร่กัน

สวีเดน จะอยู่ที่ประมาณ 424 บาทต่อชุด... ราคาแอบไม่ต่างกับอาหารในร้านอาหารสักเท่าไหร่แฮะ งั้นใครอยากกินอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ แนะนำให้เดินกลับไปที่ร้านอาหารด่วนค่ะ ไม่ต้องสั่งแมคแล้ววว (ภาพข้างบนถ่ายที่ร้านพิซซ่าที่สวีเดน ราคาจะไม่ต่างกับแมคโดนัลด์มากค่ะ)

ฝรั่งเศส เดินเหนื่อยที่ปารีสแล้วก็ขอแวะกินอะไรในแมคสักหน่อย ซื้อชุดนึงต่อคนราคาประมาณ 314 บาท อันนี้ถูกลงมากว่าร้านอาหารหน่อย โอเค.. กินที่นี่ก็ได้เนอะ

อิตาลี ที่นี่จะราคาถูกกว่าสองประเทศที่ยกตัวอย่างมาค่ะ จะอยู่ที่ประมาณ 280 บาทต่อชุด เที่ยวมาเหนื่อยๆ ก็หาแมคโดนัลด์ แวะซื้อมาสักชุดแล้วไปต่อค่ะ 



cr: pixabay
 

น้ำดื่มและน้ำอัดลม

    น้องๆ อาจจะรู้กันอยู่แล้วว่าในยุโรปบางประเทศส่วนใหญ่จะกินน้ำจากก๊อกได้ และสะอาด ปลอดภัย ซึ่งคนในประเทศและนักท่องเที่ยวจะไม่นิยมเสียตังค์ซื้อน้ำเปล่ากันค่ะถ้าไม่จำเป็น เราสามารถรองน้ำจากก๊อกน้ำในห้องน้ำหรือในครัว หรือตามที่สาธารณะต่างๆ ได้เลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับคนที่อยากซื้อน้ำดื่มจริงๆ มาดูกันดีกว่าว่าน้ำเปล่าขวดนึงเนี่ยจะราคาเท่าไหร่กัน อ้อ! และสำหรับคนที่ชอบน้ำอัดลม เรามีราคาโค้ก/เป๊บซี่ หรือเทียบเท่ากับน้ำอัดลมอื่นๆ มาให้ดูด้วยค่ะ (แอบบอกให้อีกเรื่องว่าเบียร์ที่ยุโรปถูกกว่าน้ำอีกค่ะ 5555)

สวีเดน น้ำดื่มขวดเล็ก (0.33 ลิตร) จะอยู่ที่ราคาประมาณ 83 บาท.... แพงมากๆๆๆๆๆ ค่ะ ใครไปเที่ยวจำไว้เลยว่ากรอกน้ำจากที่โรงแรมไป เชื่อพี่เถอะ เจอมาแล้ว 55555 น้ำอัดลมขวดเล็ก (0.33 ลิตร) ราคาประมาณ 91 บาทค่ะ แพงสุดๆ ไปเลย

ฝรั่งเศส น้ำดื่มขวดเล็ก (0.33 ลิตร) จะถูกลงมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่ากัน เพราะราคายังคงอยู่ที่ 79 บาทค่ะ น้ำอัดลมขวดเล็ก (0.33 ลิตร) ราคาประมาณ 127 บาท อันนี้แพงกว่าสวีเดนอีกนะเนี่ย

อิตาลี น้ำดื่มขวดเล็ก (0.33 ลิตร) ถูกที่สุดถ้าเทียบกับสองประเทศข้างต้น คือ 42 บาทต่อขวด แต่ถ้าเทียบกับขวดละ 8 บาทของไทย ก็ถือว่าแพงอยู่ดีแหละ ส่วนน้ำอัดลมขวดเล็ก (0.33 ลิตร) จะอยู่ที่ราคาประมาณ 89 บาทค่ะ


ไอศกรีม

    ถึงอากาศจะหนาวในยุโรป (ถ้าไม่นับหน้าร้อน) แต่ไอศกรีมก็ยังเป็นของหวานที่กินได้ทุกเวลา จึงไม่แปลกที่จะเห็นร้านหรือรถเข็นขายไอศกรีมอยู่ตามจุดต่างๆ ของเมือง ไอศกรีมโคนบ้านเราถ้าซื้อตามร้านทั่วไปหรือข้างทางก็จะอยู่ในราคาประมาณ 10 – 20 บาท ส่วนยุโรปน่ะเหรอ... แพงกว่าสุดๆ!


สวีเดน ราคาไอศกรีมต่อหนึ่งโคนจะอยู่ที่ประมาณ 120 บาท ส่วนมากมักจะเป็นโคนไม่เล็กไปและไม่ใหญ่ไป แล้วแต่ร้านที่เราเลือกซื้อ ถ้าร้านรถเข็นก็อาจจะได้รสธรรมดาๆ หรือมีให้เลือกไม่มากนัก ถ้าไปตามร้านที่ใหญ่กว่าหน่อยราคาอาจสูงขึ้น แต่จะได้ปริมาณที่เยอะกว่า หรือรสชาติหลากหลายกว่าค่ะ

ฝรั่งเศส ที่นี่ก็ราคาพอๆ กันเลย จะเห็นได้ทั่วไป ตามหอไอเฟลก็มีให้เลือกเยอะมาก โคนนึงจะตกอยู่ประมาณ 120 – 150 บาทค่ะ

อิตาลี ขึ้นชื่อว่าไอศกรีมเจลาโตอร่อยที่สุดในโลก ขอยืนยันว่าเป็นความจริงค่ะ ส่วนราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 114 บาทต่อโคนค่ะ (ส่วนในรูปนั้นเป็นไอติมที่ร้านที่อิตาลี ถ้าสวยๆ แบบนี้ราคาจะแพงกว่าโคนเยอะเลยค่ะ มีรสให้เลือกและท็อปปิ้งหลากหลายเหมือนร้านไอติมใหญ่ๆ บ้านเรา และอร่อยมากกกกกกกกกกก) 


ค่าแท็กซี่/รถไฟฟ้า

    ใครเคยไปเที่ยวฮ่องกง หรือญี่ปุ่น อาจเคยได้นั่งแท็กซี่กันมาบ้าง ราคาอาจจะแพงแต่ก็สมเหตุสมผลและสะดวกจริงๆ แต่ที่ยุโรปเนี่ย ไม่แนะนำจริงๆ ค่ะ จากประสบการณ์ตรงเคยนั่งเองตอนดึกๆ ที่เมืองสตอกโฮล์มของสวีเดน ตอนนั้นรถไฟหมด และนั่งรถเมล์บ้านเค้าไม่เป็นเลยยอมเรียกแท็กซี่ (ที่ขนาดเพื่อนที่เกิดที่นั่นยังไม่กล้าเรียกเลย!) ด้วยความจำใจระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร พอถึงที่หมายเท่านั้นแหละ แทบร้องไห้! ราคาเกือบพันเลยค่ะ ถ้าเป็นบ้านเราก็คงไม่ถึงร้อย T_T ส่วนพวกรถไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าใต้ดินที่ยุโรปก็สะดวกสบายค่ะ มีหลายสายละหลายสถานีมากจนแอบปวดหัวนิดหน่อย แต่สะดวกที่สุดแล้วและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ราคาก็แพงกว่าบ้านเรา แต่สำหรับนักท่องเที่ยวเค้าก็จะมีบัตรซื้อเหมารวมเป็นวันๆ ไปค่ะ ในรูปจะเป็นรถรางที่มิลาน ประเทศอิตาลี ที่ยุโรปบางประเทศก็ยังใช้รถรางกันอยู่เยอะแยะเลยค่ะ

สวีเดน ค่าแท็กซี่เริ่มต้นที่ประมาณ 190 บาท นั่งไปเรื่อยๆ จะคิดกิโลเมตรละ 51 บาทค่ะ ส่วนเรื่องค่ารถโดยสารอื่นๆ ระบบขนส่งของสวีเดนจะมีความสะดวกสบายอย่างหนึ่งคือ ทั้งรถไฟ รถเมล์ รถราง และเรือ สามารถใช้บัตรใบเดียวจ่ายค่าโดยสารได้ โดยสำหรับนักท่องเที่ยวบัตรจะมีราคา 80 บาท (เฉพาะบัตรเปล่าๆ นะคะ) และค่าเดินทางจะสามารถเติมเป็นเที่ยวได้ดังนี้ 24 ชั่วโมง : 460 บาท หรือหากเที่ยวนาน 7 วันราคาจะอยู่ที่ 1,200 บาทค่ะ

ฝรั่งเศส ค่าแท็กซี่เริ่มต้นที่ประมาณ 196 บาท (แพงกว่าสวีเดนแฮะ) และคิดกิโลเมตรละประมาณ 50 บาทค่ะ และในปารีสก็จะมีตั๋วรถไฟ/รถบัสเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย โดยตั๋ววันจะมีราคาตกอยู่ที่ประมาณ 400 บาทค่ะ และตั๋วใบนี้ก็สามารถนำไปลดค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้อีกด้วย

อิตาลี ที่นี่ก็เริ่มต้นที่ประมาณ 196 บาท และคิดกิโลเมตรละประมาณ 58 บาทค่ะ ที่มิลานค่าตั๋วรถไฟใต้ดินจะตกประมาณ 57 บาทต่อหนึ่งเที่ยว แต่จำกัดเวลาคือ 90 นาทีนะคะ ถ้าอยากประหยัดก็แนะนำให้ใช้ตั๋ววัน 24 ชั่วโมงจะอยู่ในราคาประมาณ 170 บาท ราคาไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ หรือถ้าอยากให้คุ้มสุดๆ สามารถเลือกใช้บัตร MilanoCard ที่ครอบคลุมรถทุกอย่างในมิลานในราคา 90 บาทต่อ 105 นาที หรือตั๋ววันจะราคาประมาณ 266 บาทค่ะ

พิพิธภัณฑ์

    หนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ นั่นก็คือการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ค่ะ โดยพิพิธภัณฑ์ในแต่ละประเทศจะเก็บค่าเข้าชมในราคาที่ต่างกัน ส่วนน้องๆ ที่มีบัตรนักศึกษา (หรืออาจต้องทำบัตร student card สำหรับเที่ยวต่างประเทศ) สามารถลดค่าเข้าได้เกือบถึงครึ่งของราคาเต็มเลยค่ะ

สวีเดน สวีเดนเพิ่งประกาศยกเลิกค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (ในบางเมืองและบางพิพิธภัณฑ์) เมื่อปีที่แล้วค่ะ ทั้งนี้ก่อนไปอย่าลืมเช็คข้อมูลให้ดีก่อน แต่สำหรับราคาค่าเข้าชมปกติของพิพิธภัณฑ์ที่นี่ จะอยู่ที่ 400 - 500 กว่าบาทต่อคน (ผู้ใหญ่) ส่วนราคานักศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 280 – 400 บาทค่ะ

ฝรั่งเศส สำหรับปารีสจะเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เรียกได้ว่าไปเที่ยวอาทิตย์นึงก็เก็บไม่หมดค่ะ เพราะแค่พิพิธภัณฑ์ Louvre วันนึงก็เดินไม่ทั่วแล้ว ค่าเข้าชมของพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 400 - 600 บาทค่ะ

อิตาลี ที่มิลานเองก็มีพิพิธภัณฑ์ไม่น้อยเหมือนกันค่ะ และค่าเข้าชมจะถูกกว่าสองประเทศที่กล่าวมา คือราคาประมาณ 190 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และราคานักเรียนจะอยู่ที่ 114 บาทค่ะ


ตั๋วหนัง

    ใครเที่ยวจนเบื่อแล้วและอยากลองดูหนังที่ต่างประเทศ จะเปลี่ยนบรรยากาศหรือรอกลับไปดูที่ไทยไม่ไหว ก็ลองมาดูกันเลยว่าราคาตั๋วหนัง (หนังต่างประเทศทั่วไปเหมือนบ้านเรานะคะ) จะแพงกว่าเรามากมั้ย

สวีเดน ตั๋วหนังราคาต่อหนึ่งที่จะอยู่ที่ประมาณ 509 บาท ราคาแพงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ที่นั่งหรูโซฟาแบบบ้านเรานะคะ เป็นที่นั่งตามปกติ

ฝรั่งเศส จะอยู่ที่ประมาณ 392 บาท ถูกลงมาหน่อย แต่ก็แอบลังเลอยู่ดี ว่าจะเก็บไว้ดูที่ไทยดีมั้ยน้า

อิตาลี อยู่ที่ประมาณ 333 บาท ถูกลงมาอีก.. ความจริงที่ไทยก็มีบางโรงที่ราคาเกิน 300 บาทขึ้นไปเหมือนกัน แต่บ้านเราจะได้คุณภาพครบครันแถมได้นอนโซฟาอีก ก็ลองคิดดูก่อนดีกว่าว่าจะดูที่นั่นดีมั้ย หรือจะอดใจรอกลับมาไทยค่อยว่ากันเนอะ 

 
 

ค่ากางเกงยีนส์/เดรสหนึ่งตัว

    ใครอยากตามเทรนด์แฟชั่นในยุโรป ไปเที่ยวแล้วอดใจไม่ไหวอยากช้อป เรายกตัวอย่างราคากางเกงยีนส์หนึ่งตัวเปรียบเทียบจากแบรนด์ Levis 501 (และยี่ห้อที่คล้ายๆ กันจะอยู่ในราคาประมาณนี้ค่ะ) และสำหรับสาวๆ เราเอาราคาชุดเดรสมาให้ด้วยค่ะ (อ้างอิงจากช็อปยอดฮิตสาวๆ เช่น H&M หรือ ZARA)

สวีเดน กางเกงยีนส์ตัวละประมาณ 3,652 บาท ส่วนเดรสสำหรับสาวๆ อยู่ที่ราคาประมาณ 1,535 บาท

ฝรั่งเศส กางเกงยีนส์ ตัวละประมาณ 3,462 บาท ราคาเดรสอยู่ที่ประมาณ 1,483 บาท

อิตาลี กางเกงยีนส์ ตัวละประมาณ 3,073 บาท ราคาเดรสอยู่ที่ประมาณ 1,238 บาท


 

ค่าหอ/อพาร์ทเมนท์ 1 ห้องนอน ต่อเดือน

    ค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ที่ยุโรปราคาไม่เบาเลยแหละค่ะ เคยแอบถามเพื่อนฝรั่งมาก็แอบตกใจเหมือนกัน บ้านเรายังโชคดีที่ยังได้อยู่กับพ่อแม่บ้าง หรืออยู่หอในราคาประมาณ 5,000 – หมื่นอัพก็พอจะรับไหวอยู่ แต่ราคาที่ยุโรปนี่สิ... คิดหนักเลยแฮะ!

สวีเดน ถ้าอยู่ในตัวเมือง เดินทางสะดวกหน่อย ค่าที่อยู่ต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 44,811 บาท ถ้าอยู่นอกเมืองจะถูกกว่า แต่อาจนั่งรถหลายต่อหน่อย จะอยู่ที่ประมาณ 30,501 บาทค่ะ

ฝรั่งเศส ในเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 42,252 บาท ส่วนนอกเมือง 30,392 บาท

อิตาลี จะถูกกว่าสองประเทศที่ยกตัวอย่างมา คือในเมือง 34,372 บาท นอกเมือง 25,518 บาท

ค่าเงินเดือนโดยเฉลี่ย

     อาจเคยได้ยินกันมาแล้วบ้างว่าเงินเดือนที่ยุโรปนั้นเยอะเฉียดแสน หรือเริ่มต้นที่แสนสำหรับบางอาชีพเลยทีเดียว แต่อย่าลืมว่าค่าครองชีพและค่าอะไรต่างๆ บ้านเค้าก็แพงมากเหมือนกันจากที่ยกตัวอย่างมาให้ข้างต้นนะคะ เรามาดูกันว่าเงินเดือนเค้าเริ่มต้นกันที่เท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่กัน แต่ค่าเฉลี่ยต่ำสุด – สูงสุดนั้นมาจากสถิติรวม ไม่ได้เจาะจงอาชีพนะคะ

สวีเดน 98,809 บาทต่อเดือน (เฉลี่ยต่ำสุดประมาณ 84,780 บาท สูงสุด 118,693 บาท)

ฝรั่งเศส 87,178 บาทต่อเดือน (เฉลี่ยต่ำสุดประมาณ 66,836 บาท สูงสุด 117,907 บาท)

อิตาลี 67,900 บาทต่อเดือน (เฉลี่ยต่ำสุดประมาณ 55,041 บาท สูงสุด 78,630 บาท)

   

       และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมคร่าวๆ ของค่าใช้จ่ายอันสุดโหดของประเทศต่างๆ ในยุโรปนะคะ ความจริงยุโรปก็มีหลายประเทศที่แตกต่างกัน บางโซนค่าครองชีพก็จะถูกกว่าที่ยกตัวอย่างมาเกือบเท่าตัว
(เช่นยุโรปตะวันออก) ก่อนจะไปเที่ยวหรือเรียนต่อก็อย่าลืมหาข้อมูลและเตรียมตัวให้ดีนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยน้องๆ ได้บ้างค่ะ ^^

 
 ข้อมูลจาก

http://www.numbeo.com/cost-of-living/city_result.jsp?country=Sweden&city=Stockholm&displayCurrency=THB

http://www.numbeo.com/cost-of-living/city_result.jsp?country=France&city=Paris&displayCurrency=THB

http://www.numbeo.com/cost-of-living/city_result.jsp?country=Italy&city=Milan&displayCurrency=THB

http://www.milano24ore.net/travelguide/metro.php

www.tripomatic.com

พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

อลิส 28 มี.ค. 59 21:02 น. 1
รูปที่ห้า คือรถราง(TRAM)นะฮะ ไม่ใช่รถไฟ(TRAIN) รถรางบ้านเราเคยมีใช้เป็นรถรางไฟฟ้าแห่งแรกของเอเชียด้วย เสียดายที่เอาออกไป คนรุ่นใหม่พอเห็นอะไรวิ่งบนรางเรียกรถไฟหมด
1
กำลังโหลด

7 ความคิดเห็น

อลิส 28 มี.ค. 59 21:02 น. 1
รูปที่ห้า คือรถราง(TRAM)นะฮะ ไม่ใช่รถไฟ(TRAIN) รถรางบ้านเราเคยมีใช้เป็นรถรางไฟฟ้าแห่งแรกของเอเชียด้วย เสียดายที่เอาออกไป คนรุ่นใหม่พอเห็นอะไรวิ่งบนรางเรียกรถไฟหมด
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pathamawadee Member 28 มี.ค. 59 21:10 น. 3

คือเคยไปอยุ่หลายที่นะ และน้ำดื่มเป็นอะไรที่หาซื้อได้ยากมากๆ 
เพราะว่าเราสามารถดื่มน้ำจากน้ำก๊อกได้เลย
ตอนไปตู้หายน้ำไม่มีเลยน้ำเปล่า มีแต่แป๊บซี่กับโซดา
ถ้าอยากได้น้ำเปล่าสักขวดคงต้องไปซูเปอร์มาเก็ต
แต่บางที่ก็ดันไม่มีน้ำเปล่าขายอีก จริงๆเลย
และอาจารย์บอกว่าที่นั่นไม่นิยมดื่มน้ำเปล่ากันมาก
แต่จะดื่นโซดาหรือแป๊บซี่แทน เพราะอาหารที่เค้าทานส่วนใหญ่ย่อยยาก
จำเป็นต้องดื่มโซดาหรือแป๊บซี่ตามเพื่อให้ย่อยได้ง่ายและเร็ว

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
ขนมผักกาด 1 เม.ย. 59 12:19 น. 6
เคยไปทั้งที่ฝรั่งเศสและอิตาลีนะคะ เราว่านํ้าเปล่า(นํ้าแร่)ที่ฝรั่งเศสถูกมากๆเลยนะคะ ถ้าคุณซื้อแพ็คใหญ่(1.6ลิตร*6ขวด) ราคาจะอยู่ที่2-3ยูโรเองค่ะ(ขวดละประมาณ13บาท-20บาทเองค่ะ ถูกกว่าไทยมากๆ ขอเน้นนะคะ นํ้าแร่ไม่อัดแก็สค่ะ!!!) ส่วนอิตาลีนํ้าแพงกว่าค่ะ ขนาดนํ้าธรรมดายังแพงกว่านํ้าแร่ฝรั่งเศสเลยค่ะ อ้อ ที่อิตาลีกินนํ้าประปาไม่ได้นะคะ เห็นกลิ่นคอลลีนค่ะ!!
2
กำลังโหลด
Apple_R Member 24 เม.ย. 59 21:35 น. 7

ถ้าเทียบกับเงินเดือนเขา แล้วมาดูค่าของต่างๆในประเทศอาจจะไม่ได้ดูแพงเว่อร์แบบที่สายตาคนไทยเราคิดกัน อีกอย่างแต่ละประเทศก็เป็นประเทศที่เจริญแล้วเนอะบ้านเรายังไม่ถึงขั้นนั้น ><

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด