สุดสลด... มาดูศูนย์ผู้ป่วยจิตเวชในอินโดนีเซีย กับผู้ป่วยที่ถูกละเลย

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคน วันนี้ พี่นิทาน มีเรื่องเล่าแปลกๆ มาฝากน้องๆ กันอีกแล้ว คราวนี้ขอพูดถึงฝั่งอาเซียนของเรากันบ้าง นั่นก็คือประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง ประเทศอินโดนีเซียนี้มีวัฒนธรรมและเรื่องราวที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมดเลย ทั้งลึกลับ ทั้งสยองๆ และทั้งสนุกสนาน แต่วันนี้ขอมาในความดาร์กๆ อีกเช่นเคยนะคะ เรามาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง

Photo credit : m.tempo.co
   
    ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สำหรับศูนย์ผู้ป่วยจิตเวชในอินโดนีเซียแห่งนี้ที่ชื่อว่า 'Pasung' ศูนย์ฯ นี้จะคอย 'ดูแล' ผู้ป่วยกว่า 19,000 คนที่ถูกแยกออกจากกันโดยให้พวกเขาอยู่ภายใน 'กรง' หรือ 'ล่ามโซ่' เอาไว้... ฟังดูน่าตกใจมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ เพราะมันคือเรื่องจริงค่ะ นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังมีอาหารให้แก่ผู้ป่วยในปริมาณที่จำกัดและมีสารอาหารไม่ครบถ้วน แถมหมอที่คอยดูแลหรือให้ยาผู้ป่วยยังวินิจฉัยโรคของทุกคนให้เหมือนกันหมด และก็จัดยาให้ซ้ำๆ กันเหมือนเดิมทุกครั้ง ดูเหมือนสถานที่แห่งนี้จะไม่ได้รับการดูแลหรือสนับสนุนเท่าไหร่ แถมคนที่คอยดูแลคนป่วยหรือหมอเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับการรักษาบุคคลที่มีปัญหาทางจิตเหล่านี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้เรียกร้องอะไรเลยด้วยซ้ำ 

   
    ผู้ป่วยบางคนที่ถูกล่ามหรือขังอยู่ในกรงเป็นเพราะว่าผู้ดูแลกลัวว่าพวกเขาจะวิ่งหนีหายไป แต่ที่พักอาศัยของผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดไว้อย่างดี เพราะส่วนมากจะเป็นอาคารโล่งๆ ที่มีลูกกรงกั้นเป็นโซนๆ แบ่งแยกผู้ชายกับผู้หญิงออกจากกัน โดยสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ของการเพิกเฉยและละเลยกับผู้ป่วยทางจิตนั้นเป็นเพราะว่าชาวอินโดนีเซียมีความเชื่อที่สะสมมานานว่าผู้ที่ป่วยทางจิตเป็นผู้ที่ถูกปีศาจหรือวิญญาณร้ายสิงอยู่ หรือไม่ก็เป็นคนที่เคยทำบาปไว้ และมีกรรมในชาตินี้ จึงเป็นสาเหตุที่หลายๆ ครอบครัวจะนำสมาชิกในบ้านที่ป่วยทางจิตไปหาหมอผีบ้าง หรือไปทำพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อบ้าง และพอไม่ได้ผลก็นำมาฝากให้ศูนย์ฯ ดูแล แทนที่จะไปหาจิตแพทย์หรือแพทย์บำบัดเพื่อรักษาอาการ (อย่างที่บอกนะคะว่าหมอที่ศูนย์ฯ นี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่)

   
    ศูนย์ดูแลผู้ป่วย Pasung แห่งนี้ถูกตราหน้าว่าเป็นศูนย์ฯ ที่ดูแลผู้ป่วยด้วยความไร้มนุษยธรรม ผู้ป่วยส่วนมากที่ถูกส่งมาอยู่ที่นี่มักจะมาจากครอบครัวที่ไม่มีเงินเพียงพอ หรือฐานะยากจนเกินกว่าจะพาไปรักษาตัวหรือดูแลได้ ศูนย์ฯ นี้ยังเคยถูกแบนในปี 1977 อีกด้วย นอกจากนั้นยังเคยมีหลายองค์กรที่สนใจเข้าช่วยเหลือและสนับสนุน แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ได้รับเงินสนับสนุนหรือการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาล จึงไม่มีการปรับปรุงและพัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้ 

   
    ความน่าเศร้าคือทำไมผู้ป่วยเหล่านี้ถึงถูกดูแลในแบบนี้ ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่มีคุณภาพปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป อย่างที่บอกเมื่อตอนต้นว่าผู้ป่วยบางคนถูกล่ามโซ่และขังอยู่ในกรง บางคนถูกล็อคติดไว้กับแผ่นไม้ให้อยู่ในท่านั่ง จนไม่สามารถเดินหรือใช้งานในส่วนขาได้ เมื่อเวลาผ่านไป (กว่า 9 ปี) กล้ามเนื้อต่างๆ จึงหดเล็กลงและคงไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนคนอื่นแล้ว ผู้ป่วยบางคนก็ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ หรือมีเสื้อผ้าใส่ไม่เพียงพอ ปิดไม่มิดชิด แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครสนใจดูแล นอกจากเสื้อผ้าแล้วยังไม่มีการปฏิสัมพันธ์กันหรือกิจกรรมอะไรทั้งสิ้น เพราะในเมื่อไม่มีเงินพอสำหรับค่าอาหารแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นคงไม่ต้องพูดถึงแน่นอน ผู้ป่วยส่วนมากนอนบนพื้น บนเตียงไม้แข็งๆ ในอาคารที่มีน้ำรั่วบ้าง มีขยะเกลื่อนพื้นบ้าง มีพื้นที่จำกัดบ้าง หรือหากผู้ป่วยคนไหนที่โชคดีที่มีครอบครัวยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อเตียงหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ก็จะได้อยู่อย่างสบายกว่าคนอื่นๆ 

Photo credit : Andrea Star Reece/HRW
   
    เห็นแล้วน่าสลดใจแทนนะคะ หวังว่าอีกไม่นานคงจะมีองค์กรหรือหน่วยงานเข้าไปดูและและสนับสนุนเพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภายและความเอาใจใส่มากขึ้น เพราะผู้ป่วยเหล่านี้ควรได้รับการดูแลอย่างเข้าใจ ไม่ใช่การปล่อยปละละเลยแบบนี้ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวที่น่าสนใจจากทั่วโลกค่ะ ^^

อ้างอิง
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
เห้อ 19 ส.ค. 59 01:25 น. 3
อยากให้มีช่องทางช่วยหาคนระดมเงินบริจาค อาจจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้มาก แต่มีอาหารกินครบกว่านี้ก็ยังดี เสียใจ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด