ไม่มีความลับบนโซเชียล! ฮาร์วาร์ดตัดสิทธิ์ว่าที่ นศ. กว่า 10 คนเพราะโพสต์ภาพล้อเลียน

    ว่าที่นักเรียนฮาร์วาร์ด 10 คนก่อเรื่องใหญ่ขึ้นผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก เนื่องจากโพสต์ภาพล้อเลียน (หรือที่เรียกกันว่ามีม- Memes) เกี่ยวกับการข่มขืน, คนตาย และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และพูดคุยกันในเชิงล้อเล่นเกี่ยวกับการแขวนคอเด็กชาวเม็กซิกันว่าเป็น "pinata time" ซึ่งคำนี้เป็นคำเรียกของการละเล่นในการเฉลิมฉลองของเม็กซิโก ที่จะนำตุ๊กตากระดาษรูปร่างต่างๆ เช่น ม้า มาแขวนไว้ ข้างในใส่ลูกอมหรือขนมหวานไว้เยอะๆ และให้เด็กใช้ไม้ตีให้แตก และเมื่อทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรู้เรื่องนี้ข้า ก็ตัดสินใจตัดสิทธิ์การรับเข้าเป็นนักเรียนของเด็กกลุ่มนี้ทันทีค่ะ 

    ข่าวจาก The Harvard Crimson หนังสือพิมพ์รายวันของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรายงานว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ยกเลิกการตอบรับเข้าศึกษาสำหรับปีการศึกษาที่จะถึงนี้ของว่าที่นักเรียนจำนวน 10 คน เนื่องจากการสืบสวนพบข้อความและการโพสต์สื่อต่างๆ อย่างไม่เหมาะสมลงในกรุ๊ปลับในเฟซบุ๊กที่เคยมีชื่อว่า "Harvard memes for horny bourgeois teens" หรือแปลคร่าวๆ ว่า "กรุ๊ปมีมเด็กฮาร์วาร์ดสำหรับวัยรุ่นชนชั้นกลางหื่นๆ" โดยกรุ๊ปนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปลายปีที่แล้วค่ะ ดูจากชื่อแล้วก็น่าจะรู้กันว่าไม่ใช่กรุ๊ปที่สร้างสรรค์แน่นอน เพราะข้อความหรือสิ่งต่างๆ ที่เด็กๆ โพสต์กันในกรุ๊ปก็มีแต่มีมและรูปภาพแนวๆ ล้อเลียนการข่มขืน, การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, เรื่องการเสียชีวิตของเด็ก โดยพวกเขานำเรื่องพวกนี้มาคุยกันแบบตลกๆ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาพูดถึงในแง่นี้ด้วยซ้ำ ทางฮาร์วาร์ดทราบเรื่องนี้จากหลักฐานการแคปหน้าจอของกรุ๊ปนั้นๆ มา และบางโพสต์ก็แย่ถึงขนาดพวกเขาคุยสนุกๆ กันว่าการละเมิดทางเพศกับเด็กเป็นอะไรที่ทำให้ตื่นตัวทางเพศมาก ในขณะเดียวกันนักเรียนคนอื่นก็เล่นมุกเกี่ยวกับการเหยียดชาติพันธุ์ของคน 

    ข่าวรายงานอีกว่าเด็กๆ ในกรุ๊ปลับเหล่านี้รู้จักกันผ่านทางกรุ๊ปเฟซบุ๊กทางการของเด็กนักเรียนเข้าใหม่ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นและทางฮาร์วาร์ดรู้ก็ไม่รีรอที่จะ "ตัดสิทธิ์" การเป็นว่าที่นักเรียนฮาร์วาร์ดของเด็กเหล่านั้นทันที โดยการส่งอีเมลหานักเรียนกลุ่มนั้นในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และให้เปิดเผยรูปต่างๆ ที่พวกเขาเคยโพสต์กันในกรุ๊ปพร้อมกับให้เขียนคำแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นทางฮาร์วาร์ดก็ไม่ได้อธิบายถึงการตัดสินครั้งนี้ออกสื่อนอกจากบอกว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นการผิดกฎ และทางมหาวิทยาลัยก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสิทธิ์ข้อเสนอต่างๆ หากนักเรียนเหล่านั้นมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ 

    เมื่อข่าวออกมาทั่วโลก ชาวเน็ตส่วนมากก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทางมหาวิทยาลัย เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นคนนำเรื่องพวกนั้นมาล้อเลียนพูดเล่นกันสนุกๆ แน่นอน แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายเสียงที่มองในอีกมุมว่าทางฮาร์วาร์ดใจร้ายเกินไปไหม เพราะเด็กๆ พวกนั้นก็คุยกันและโพสต์กันในกรุ๊ปลับไม่ใช่เหรอ นักเรียนฮาร์วาร์ดบางคนถึงกับออกความเห็นเองด้วยว่า "มันไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นนักเรียนฮาร์วาร์ดแล้วจะมีอารมณ์ขันไม่ได้นะ" แต่การจะมีอารมณ์ขันก็ควรมีขอบเขตบ้างเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่ว่านำเรื่องร้ายแรงหรือเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจคนส่วนมากมาคุยกันอย่างสนุกๆ แบบนี้ 

    โลกออนไลน์กว้างใหญ่มากกว่าที่เราคิดเยอะ เพราะฉะนั้นเวลาเราจะโพสต์ข้อความหรือกล่าวถึงใครหรือกลุ่มใดโดยเจาะจงก็ควรระมัดระวัง เพราะสำหรับบางมหาวิทยาลัยในหลายๆ ประเทศก็มีมาตรการการคัดเลือกนักศึกษาหรือผู้รับทุนแตกต่างกันไป นักกฎหมายโซเชียลมีเดียท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Emma Sadleir ให้ความเห็นว่าการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว เพราะในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีการใช้ดุลยพินิจอย่างจริงจังในการรับคนเข้าเรียน และผู้สมัครเข้าเรียนควรระมัดระวังประวัติส่วนตัวของตัวเองในโลกออนไลน์ด้วย เพราะถ้าหากทางเจ้าหน้าที่ค้นหาชื่อผู้สมัครในกูเกิ้ลแล้วพบว่าใครคนหนึ่งค้ายา แน่นอนว่าก็ไม่ควรรับไว้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับการที่ฮาร์วาร์ดเลือกตัดสิทธิ์ว่าที่นักเรียนเพราะเหตุที่เกิดในเฟซบุ๊กนั่นเอง

  
     ถึงแม้ว่าในโลกโซเชียลมีเดียจะมี "ความเป็นส่วนตัว" อยู่ในระดับหนึ่ง เช่นการล็อคโปรไฟล์หรือกรุ๊ปลับ และอื่นๆ แต่ก็อย่าชะล่าใจค่ะ เพราะเมื่ออยู่ในโลกออนไลน์แล้ว ไม่มีอะไรเป็นความลับอย่างแท้จริงแน่นอน อย่าลืมว่าสมัยนี้การแคปหน้าจอคือหลักฐานที่น่ากลัวอย่างหนึ่งที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะโดนเมื่อไหร่ และตอนไหน ทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรพิมพ์หรือโพสต์อะไรที่จะทำให้ตัวเรารู้สึกเสียใจทีหลัง มีคำหนึ่งที่พี่ชอบมากและคิดว่าน่าจะใช้เตือนใจทุกคนได้ ก็คือคำว่า "ถ้าเรารู้สึกเป็นทุกข์กับสื่อออนไลน์ที่ตัวเองโพสต์ไป ก็ไม่ต้องโพสต์เลยจะดีกว่าค่ะ"

อ้างอิง