สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com พี่เชื่อว่าน้องๆ คงเคยเห็นภาพการแล่เนื้อตามร้านขายเนื้อต่างๆ กันจนชินตา แต่ใครจะไปคิดล่ะคะว่า การแล่เนื้อเนี่ยแหละกำลังกลายเป็นเรื่องดราม่าใหญ่โตในแคนาดา เพราะมันคือการแล่เนื้อเพื่อตอบโต้ (กึ่งประชด) ผู้ประท้วงที่เป็นวีแกน ซึ่งภาพการแล่เนื้อในครั้งนี้กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ตอนนี้มีคนเข้ามาดูแล้วมากกว่ายี่สิบล้านครั้ง (ในเฟซบุ๊กแฟนเพจของ Daily Mail) หลายคนอ่านแล้วอาจจะงง ว่าแค่แล่เนื้อเนี่ยนะ!! ทำไมถึงเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น เรื่องนี้มีเบื้องหลังที่น่าสนใจมากกว่าแค่การแล่เนื้อค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปพบกับการเปิดศึกระหว่างเชฟที่ออกมาแล่เนื้อกวางโชว์กับกลุ่มผู้ประท้วงวีแกนกันเลยค่ะ
วีแกนคืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปกันที่ประเด็นการแล่เนื้อ เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า “วีแกน” กันก่อนค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงพอจะได้ยินเรื่องราวของวีแกนกันมาบ้างแต่อาจจะยังไม่ชัวร์ว่ามันคืออะไร วีแกนคือขั้นกว่าของการกินอาหารแบบมังสวิรัติค่ะ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของมังสวิรัติแต่เคร่งครัดกว่ามาก เพราะนอกจะไม่กินเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาดแล้ว คนที่กินอาหารแบบวีแกน ยังเลือกที่จะไม่กินผลิตภัณฑ์ที่มาจากการเบียดเบียนสัตว์ เช่น เนย นม ชีส น้ำผึ้ง และถ้าใครที่เคร่งมากกว่านั้นจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ทำมาจากสัตว์ เช่น ผ้าไหม รองเท้าหนัง กระเป๋าหนัง เรียกได้ว่าต่อต้านสิ่งของจากสัตว์ทุกชนิด
แล่เนื้อกวางโชว์หน้าร้าน แม้ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร
มาถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้กันค่ะ เชฟคนหนึ่งจากร้าน Antler ในเมืองโตรอนโตของแคนาดาเอาเนื้อกวางมาแล่โชว์บริเวณหน้าร้าน ท่ามกลางเสียงประท้วงต่อต้านจากกลุ่มวีแกนจำนวนหนึ่งที่ถือแผ่นป้ายพร้อมกับตะโกนว่าเขาเป็น “ฆาตกร” แม้จะมีการตะโกนประท้วงต่อเนื่องแต่เชฟคนนี้ยังแล่เนื้อต่อไป เรื่องราวเริ่มบานปลายจนมีการแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึงที่ร้านก็แค่เดินเข้าไปพูดคุยกับเชฟและไม่ได้มีการแจ้งข้อหาอะไร
Credit: WatchMojo. TV
จุดเริ่มต้นเรื่องราวดราม่าแล่เนื้อกวาง
การประท้วงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่การประท้วงครั้งแรกค่ะ เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน แกนนำการประท้วงเดินผ่านร้านนี้ และเห็นแผ่นป้ายหน้าร้านที่เขียนว่า “Venison is the new kale” หรือเนื้อกวางคือกะหล่ำปลีแบบใหม่ โดยพนักงานของร้านตั้งใจให้เป็นแค่มุขตลก แต่มันกลับสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่เป็นวีแกน จึงเริ่มต้นประท้วงตั้งแต่ตอนนั้น จนร้าน Antler ได้เริ่มปรับเมนูของร้านให้มีอาหารวีแกนและมังสวิรัติ แต่ผู้ประท้วงยังไม่โอเคเพราะต้องการให้ทางร้านขายแต่อาหารมังสวิรัติหรือวีแกนเท่านั้น เชฟคนนี้เริ่มทนไม่ไหว จึงออกมาตอบโต้ด้วยการแล่เนื้อกวางโชว์ที่หน้าร้านซะเลย (แต่มีกระจกกั้นอยู่นะ)
“ผมมีวิธีประท้วงในแบบของผม ผมต้องการทำให้พวกเขาตกใจและดูว่าพวกเขาจะไปจากตรงนี้หรือไม่”
การออกมาประท้วงกึ่งประชดของเชฟในครั้งนี้ทำให้เรื่องราวบานปลายค่ะ เพราะคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย มีคนมาแสดงความคิดเห็นกันหลายกระแส แต่ขณะเดียวกันร้าน Antler ก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากกลุ่มที่กินเนื้อสัตว์ ซึ่งเชฟให้สัมภาษณ์ว่า ถ้ารู้ว่าการแล่เนื้อกวางหน้าร้านเพื่อตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงวีแกนจะกลายเป็นข่าวดังขนาดนี้ เค้าคงไม่ทำแบบนี้แน่ๆ และรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เค้าแค่ไม่เข้าใจว่า ยังมีร้านขายเนื้ออีกหลายร้านที่อยู่ถัดออกไปไม่ไกล ทำไมผู้ประท้วงถึงไม่ไปประท้วงที่นั่นบ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับธุรกิจของร้านอย่างหนัก
เชฟยืนยันว่าเนื้อกวางที่เอามาแล่เป็นกวางที่เลี้ยงจากฟาร์มท้องถิ่นที่มีการเลี้ยงที่มีคุณภาพ ไม่ทรมานสัตว์ ซึ่งกลุ่มวีแกนที่มาประท้วงอาจเข้าใจว่าเป็นกวางที่ได้มาจากการถูกล่า เพราะตามกฎหมายของรัฐออนทาริโอมีข้อห้ามเรื่องการนำสัตว์ป่ามาปรุงอาหาร และการชำแหละเนื้อสัตว์ต้องทำในโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
“สัตว์ทุกตัวมีสิทธิในชีวิตของมัน”
เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ นะคะ เพราะแกนนำการประท้วงยังคงเรียกร้องให้ร้าน Antler ติดป้ายที่หน้าร้านว่า “โปรดฟังทางนี้ สัตว์ทุกตัวมีสิทธิในชีวิตของมัน การฆ่าสัตว์ถือเป็นความรุนแรงและไม่เป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการฆ่าแบบใดก็ตาม” ซึ่งหากทางร้านยอมติดป้ายแบบนี้ที่หน้าร้าน ผู้ประท้วงจะลดความถี่ของการประท้วงลงเหลือเพียงเดือนละ 1 ครั้ง (แต่ยังไม่เลิกประท้วงนะ แค่จะประท้วงให้น้อยลง)
ไม่น่าเชื่อนะคะว่าการแล่เนื้อกวางหน้าร้านจะกลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลกเช่นนี้ และล่าสุดทางเชฟก็ออกมาบอกว่า จะลองทำเมนูวีแกนใหม่ๆ ออกมาให้ลองชิมเพิ่มเติม และได้เชิญแกนนำการประท้วงมาชิมเมนูนี้ด้วย ไม่รู้ว่าแกนนำคนนั้นจะตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ได้จุดประเด็นน่าคิดหลายอย่าง และอาจจะตีความได้หลายมุมมอง แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง ลองมาแชร์กันได้นะคะ
2 ความคิดเห็น
คือคนรักสัตว์เขาก็ไม่อยากเห็นแบบนี้อ่ะเนอะ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจถ้าเขาไม่แล่เนื้อกว่างขายแล้วเขาจะเอาไรกินล่ะ
เหตุการณ์บานปลายเพราะใส่อารมณ์ทั้งสองฝั่ง...