ส่องประวัติ 3 นักธุรกิจหญิง ที่ก้าวสู่การเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกด้วยตัวเอง

       สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com บางคนอาจจะได้เห็นข่าวมาบ้างแล้วว่า ล่าสุดนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินสัญชาติอเมริกันอย่างฟอร์บส์ (Forbes) ได้เผยหน้าปกใหม่ประจำเดือนสิงหาคมแล้ว ซึ่งนักธุรกิจอายุน้อยที่ได้ขึ้นปกก็คือ ไคลี เจนเนอร์นั่นเอง วันนี้ พี่ภรณ์ ก็เลยอยากจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับ 3 มหาเศรษฐีหญิงที่สร้างรากฐานทางการเงินทั้งหมดด้วยตัวของพวกเธอเอง มีทั้ง 2 อันดับนักธุรกิจหญิงที่รวยที่สุดในโลก และเรื่องราวของไคลีที่ทำไมถึงได้ขึ้นปกฟอร์บส์กันแน่



Diane Hendricks


Photo: schmaltz.typepad.com

       ไดแอน เฮนดริกส์ (Diane Hendricks) เติบโตมากับครอบครัวฟาร์มวัวในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เธอเป็นเพียงเด็กชาวชนบทคนหนึ่งที่มีฝันอยากจะเข้าไปในเมือง ใช้ชีวิตหรูหรา และใส่ชุดสูทเท่ๆ แต่แล้วชีวิตกลับพลิกผันเมื่อเธอท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ มันเหมือนเป็นฝันร้ายของไดแอน เธอไม่กล้ากลับมาเรียนอีก ทางออกเดียวที่พอจะทำได้คือ อ่านหนังสือด้วยตัวเองที่บ้านตลอดระยะเวลา 1 ปีสุดท้ายของการเรียนมัธยมปลาย โดยเธอจะกลับมาโรงเรียนตอนที่เพื่อนๆ ทุกคนเลิกเรียนกันหมดแล้ว และมาเพื่อส่งการบ้านกับสอบเท่านั้น 

Photo: wepartypatriots.com

       หลังจากคลอดลูกคนแรก ไดแอนก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ก่อนจะย้ายมาเป็นพนักงานในโรงงานทำปากกา ความเป็นแม่คนทำให้เธอต้องทำงานและเติบโตเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หยุดเธอจากความฝัน ในทางตรงกันข้าม มันช่วยให้เธอมุ่งที่จะทำความฝันให้สำเร็จมากกว่าเดิม ไม่นานต่อจากนั้น ไดแอนได้เจอกับเคน เฮนดริกส์ สามีคนปัจจุบันของเธอ เคนเองก็ออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างกับพ่อของเขา ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลังคาด้วยกันในปี 1982 ภายใต้ชื่อว่า ABC Supply

Photo: nytimes.com

       ธุรกิจของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ขยายสาขากว่า 100 สาขา ภายในเวลา 12 ปี และ 4 ปีต่อจากนั้น ABC Supply ก็ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับไดแอน เธอสูญเสียสามีที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอดในปี 2007 จากอุบัติเหตุระหว่างทำงาน แม้ว่าหลังจากนั้น ไดแอนจะกลายเป็นแม่หม้ายที่มีลูกอีก 7 คนกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องดูแล เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ ในปี 2016 บริษัทของเธอได้ก้าวเข้ามาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อเธอตัดสินใจซื้อ L&W Supply บริษัทขายวัสดุก่อสร้างด้วยเงิน 674 ล้านเหรียญ พร้อมกับขยายสาขาเพิ่มจนปัจจุบันมีมากกว่า 700 สาขา และทำให้เธอเป็นผู้หญิงชาวอเมริกันที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินรวมทั้งหมดกว่า 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ


Marian Ilitch


Photo: verifiable-truth.blogspot.com

       ใครว่าทำธุรกิจร้านอาหารแล้วจะไม่รวย มาเรียน อิลิทช์ (Marian Ilitch) เจ้าของธุรกิจร้านพิซซ่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอย่าง ลิตเติล ซีซาร์ (Little Caesars) เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานเติมกระดาษทิชชู และเติมเกลือกับพริกไทป่นใส่ขวดให้ร้านอาหารเล็กๆ ของพ่อตัวเอง หลังจากเรียนจบ มาเรียนสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานจองตั๋วให้กับสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ ก่อนจะแต่งงานกับไมค์ อิลิทช์ เธอกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงลูกอยู่บ้านเฉยๆ จนกระทั่งได้ให้กำเนิดลูกคนที่ 3 มาเรียตัดสินใจกลับมาสู่การทำงานอีกครั้ง ด้วยการเปิดธุรกิจร้านพิซซ่าร่วมกับสามี

Photo: althawagah.com

       ความตั้งใจในการบริหารร้านของมาเรียนและไมค์ทำให้จากร้านพิซซ่าสไตล์บ้านๆ กลายเป็นบริษัทขายพิซซ่าขนาดใหญ่ กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มาเรียขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มหันตัวเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ อย่างการซื้อทีมเบสบอล ดีทรอยต์ ไทเกอร์ส (Detroit Tigers) ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง ดีทรอยต์ เรด วิงส์ (Detroit Red Wings) และก่อตั้งคาสิโนโมเตอร์ซิตี้ (MotorCity Casino) ที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ในปัจจุบันลิตเติล ซีซาร์มีทั้งหมด 5,463 สาขาใน 5 ทวีปทั่วโลก จากธุรกิจทั้งหมดทำให้มาเรียน อิลิทช์มีทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในวัย 85 ปี


Kylie Jenner

 
 
     
ถือว่าเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่มาแรงแซงทางโค้งมากๆ เลยค่ะ กับไคลี เจนเนอร์ (Kylie Jenner) สมาชิกคนสุดท้องของบ้านคาร์เดเชียน-เจนเนอร์ การเติบโตมาในครอบครัวที่ทุกคนในบ้านเป็นคนมีชื่อเสียงถือว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับไคลีที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความเชื่อว่าตนจะต้องมีอะไรสักอย่างที่เป็นของตัวเองและสร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของเธอเอง ไคลียอมรับว่าในช่วงแรกๆ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำอะไรดี แต่แล้วก็คิดได้ว่าทำไมไม่ทำในสิ่งที่เธอรักมาตลอดอย่างเครื่องสำอางล่ะ
 

       ไคลีใช้เงินกว่า $250,000 ที่ได้มาจากการเป็นนางแบบโฆษณาลงทุนทำลิปสติกล็อตแรกทั้งหมด 15,000 แท่งชื่อ ‘Kylie Lip Kits’ ภายใต้ชื่อแบรนด์ Kylie Cosmetics บวกกับความฉลาดในการทำธุรกิจของเธอ ไคลีเลือกช่องทางอินสตาแกรมที่มีคนติดตามเธอกว่า 110 ล้านคนในการโปรโมทสินค้า และผลตอบรับที่ออกมาก็ดีเกินคาด ไคลีเล่าว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้กดรีเฟชหน้าจอ ลิปสติกของเธอก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที และยังมีคนนำสินค้าของเธอที่ราคาเพียง $29 ไปขายในอีเบย์ด้วยราคาสูงถึง $1,000 อีกด้วย

Photo: forbes.com

       ทั้งนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยออกมาบอกว่า พวกเขาจะไม่แปลกใจหากในไม่ช้าไคลีจะเลิกทำธุรกิจนี้ เพราะตอนนี้เธออายุเพียง 21 ปี และการมีชื่อเสียงเป็นเหมือนใบเบิกทางที่สามารถพาเธอไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่ส่วนตัวไคลีเอง เธอยังมุ่งมั่นที่จะทำบริษัทเครื่องสำอางนี้ต่อไป และความตั้งใจนี้ก็ทำให้ไคลีกำลังจะกลายเป็นนักธุรกิจอายุน้อยที่สุดในโลกที่มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ แต่ปัจจุบันขาดอีกเพียงแค่ 100 ล้านเหรียญเท่านั้น เธอก็จะสามารถแทรงหน้ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเว็บไซต์เฟซบุ๊กผู้เป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านเมื่อตอนอายุ 23 ปี


     

     สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากผู้หญิงแกร่งทั้ง 3 คนก็คือ ฐานะของครอบครัวไม่ได้เป็นตัวกำหนดชีวิตว่าเราจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ต่อให้เป็นเพียงลูกของเกษตรกรอย่างไดแอน หรือเริ่มงานด้วยการเติมกระดาษทิชชูแบบมาเรียน แม้แต่อยู่ใต้เงาความสำเร็จของพี่ๆ เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้ามีความมุ่งมั่นและตั้งใจค่ะ





ข้อมูล
forbes.com
ilitchholdings.com
nhl.com/redwings
forbes.com
forbes.com
พี่ภรณ์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด