สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน เดี๋ยวนี้การไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับไต้หวันถือว่าสะดวกมากๆ เพราะนอกจากคนไทยจะได้ยกเว้นวีซ่าแล้ว สายการบินโลว์คอสยังแข่งกันออกโปรให้มนุษย์งบน้อยอย่างเราๆ มีโอกาสบินไปเปิดหูเปิดตากันง่ายขึ้น แต่จุดเด่นของการท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องอาหารเท่านั้นนะคะ วันนี้ พี่เยลลี่ จะขออาสาพาทุกคนไปตลุย “หมู่บ้านแมว” ทั้งในญี่ปุ่นและไต้หวัน ที่เที่ยวแนวใหม่เอาใจทาสเจ้าเหมียวโดยเฉพาะ น้องๆ จะน่ารักกันขนาดไหน ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ Q(> v < )
หมู่บ้านแมวโหวต้ง
(Houtong Cat Village)
เริ่มต้นกันที่ “หมู่บ้านแมวโหวต้ง” ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตรุ่ยฟาง (Ruifang District) เมืองนิวไทเป (New Taipei City) จริงๆ แล้วเมืองนี้มีสตอรี่น่าสนใจมากเลยค่ะ ย้อนไปสมัยที่ญี่ปุ่นเข้าปกครองไต้หวัน โห่วต้งเป็นแหล่งเหมืองถ่ายหินที่รุ่งเรืองสุดๆ ทำให้มีคนย้ายเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งในช่วงทศวรรษ 1990 อุตสาหกรรมถ่านหินซบเซาลง ผู้คนจึงพากันอพยพออกไปหางานทำในตัวเมือง จนเหลือแค่ประชากรไม่กี่ร้อยคน แต่เจ้าเหมียวทั้งหลายไม่ได้ถูกพาไปด้วย สุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาแมวจรจัด
แต่แล้วในปี 2008 กลุ่มคนรักแมว Peggy Chien ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือแมวจรจัด และโพสต์ภาพน้องเหมียวลงอินเทอร์เน็ต จนเกิดกระแสในหมู่นักท่องเที่ยวขึ้น หมู่บ้านโหวต้งจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทาสแมวทั้งหลายในที่สุด
ใครที่มีเวลาเที่ยวจำกัดไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะที่นี่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองไทเปเท่าไหร่ สามารถเดินทางด้วยรถไฟ TRA จากสถานีหลักไทเป (Taipei Main Station) ไปสถานีรุ่ยฟาง (Ruifang Station) จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสายผิงซี (Pingxi Line) ไปยังสถานีโหวต้ง (Houtong Station) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ไปเที่ยววันเดียวแบบเช้าไปเย็นกลับได้เลยล่ะ สำหรับทาสเหมียวที่กำลังวางแผนเที่ยวไต้หวันอยู่ ก็อย่าลืมเพิ่มที่นี่ลงไปในลิสต์ด้วยนะคะ > w <
อาโอชิมะ
(Aoshima Island)
ย้ายมาทางฝั่งญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ “เกาะแมวอาโอชิมะ” เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเอฮิมะ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ถือเป็น 1 ในเกาะแมวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเลยล่ะ เพราะมีเจ้าเหมียวกว่า 120 ตัว ในขณะที่ประชากรบนเกาะมีเพียง 15-20 คนเท่านั้น แถมส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุวัย 50-80 ปีอีกต่างหาก ถือเป็นดินแดนลูกพี่แมวที่แท้ทรู 5555
จะว่าไปแล้ว ที่มาของแมวจำนวนมหาศาลของที่นี่ก็น่าสนใจอีกเช่นกันค่ะ เดิมทีธุรกิจประมงที่เกาะนี้ฮอตฮิตเอามากๆ แต่เวลาออกหาปลามักมีปัญหาหนูวิ่งเพ่นพ่านบนเรือ ชาวประมงจึงนำแมวมาเลี้ยงเพื่อแก้ปัญหานี้ซะเลย แม้ในภายหลังคนบนเกาะเลิกทำอาชีพประมงไปแล้ว และหนุ่มสาวส่วนใหญ่พากันออกไปหางานทำในเมืองใหญ่ แต่บรรดาเจ้าเหมียวยังคงอยู่บนเกาะและออกลูกออกหลานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นเกาะแมวอย่างในปัจจุบันนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตามการไปเยี่ยมชมดินแดนเหมียวที่นี่ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ ถือว่าเป็นการคัดกรองแต่ทาสแมวของจริง เพราะบนเกาะไม่มีรถบัส โรงแรม ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งตู้ขายของอัตโนมัติ แถมในหนึ่งวันมีเรือเฟอร์รี่เดินทางเข้า-ออกจากเกาะเพียง 2 รอบ เท่ากับว่าต้องไปช่วงเช้าและกลับช่วงบ่ายเท่านั้น แถมยังมีตั๋วจำนวนจำกัดอีกต่างหาก ใครไม่ไหวก็ต้องขอบายตั้งแต่การเดินทางแล้วล่ะค่ะเนี่ย (แต่พี่สู้นะ เห็นจำนวนน้องๆ แล้ว คร่อก! เป็นลมเพราะความน่ารัก ฮือ)
ทาชิโรจิมะ
(Tashirojima)
ลงใต้ไปแล้ว คราวนี้เราขึ้นเหนือไปที่จังหวัดมิยากิ เพื่อไป “เกาะแมวทาชิโรจิมะ” ใครที่ไม่สามารถฝืนลืมตาตื่นในยามเช้าเพื่อไปเกาะอาโอชิมะได้ แนะนำให้เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นที่นี่แทน 5555 แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เล่นกับน้องๆ อย่างจุใจนะคะ เพราะบนเกาะมีเจ้าเหมียวกว่าร้อยตัว จำนวนพอๆ กับประชากรบนเกาะเลยล่ะ
ชาวบ้านบนเกาะประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก ความน่ารักของคนที่นี่คือ เค้าเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์นำโชคที่จะนำความร่ำรวยและโชคดีมาให้ เพราะฉะนั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จะดูแลแมวกันเป็นอย่างดี ถึงขนาดมีศาลเจ้าแมวชื่อว่า “เนโกะจินจะ” (Nekojinja) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับน้องๆ ที่โดนหินหล่นทับตายไป (; A ;) นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ตที่สร้างเป็นรูปแมว ชื่อว่า “Manga Island” อีกด้วย ถ้าวันเดียวไม่จุใจ ก็จองที่พักสักคืนแล้วตื่นขึ้นมาเล่นกับเจ้าเหมียวใหม่ในวันพรุ่งนี้ได้เลยจ้า
ไอโนะชิมะ
(Ainoshima)
มาต่อกันที่สุดท้าย “เกาะแมวไอโนะชิมะ” เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ในเขตชินกุ (Shingu) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดฟุกุโอกะ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 500 คน ส่วนบรรดาแมวนั้นมีไม่ต่ำกว่า 100 ตัว ที่นี่เริ่มมีชื่อเสียงมาจากช่างภาพที่ชื่อ ฟุบิราอิ (Fubirai) ได้ถ่ายภาพเจ้าเหมียวในอิริยาบทต่างๆ ลงในบล็อกส่วนตัว (แว้บไปชมน้องๆ ได้ที่นี่เลย) ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักและพากันมาเที่ยวที่นี่เยอะขึ้นค่ะ
การเดินทางมาที่เกาะนี้ไม่ยากอย่างที่คิด ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือชินกุ (Shingu Port) เพียง 15 นาทีเท่านั้น แต่ต้องระวังอย่าไปผิดเกาะนะคะ เพราะจังหวัดฟุกุโอกะมีเกาะที่ชื่อไอโนะชิมะเหมือนกันเป๊ะอีกเกาะ อยู่ในเขตคิตะคิวชู (Kitakyushu) ต่างกันที่ตัวคันจินั่นเองค่ะ แต่แอบกระซิบนิดนึงว่าถึงจะไปผิดแต่เกาะไอโนะชิมะที่คิตะคิวชูก็ขึ้นชื่อเรื่องเกาะแมวเหมือนกันนะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับดินแดนเจ้าเหมียวที่พี่เอามาฝาก บอกได้เลยว่าแต่ละที่เหมาะกับทาสแมวจริงๆ แค่มองก็ตาลอยแล้ววว ถ้าใครเคยไปแวะไปหาน้อง อย่าลืมมาเล่าให้พี่และเพื่อนๆ ชาว Dek-D ฟังกันหน่อยนะคะ ถ้ามีโอกาสพี่เองก็อยากแวะไปเยี่ยมลูกน้องแมวทั้งหลายเหมือนกัน จะฟินแค่ไหนน้าาา > < 5555
3 ความคิดเห็น
แมวจรของต่างประเทศอ้วนท้วมสมบูรณ์ดีมาก
ตัดภาพมาที่แมวจรในประเทศไทย
แมวจรญี่ปุ่นน่ารักมากจริงๆ ค่ะ ตัวยาวๆ ฟูๆ ดูอ้วนๆ บางตัวก็มอมแมมดีด้วย
ขอบคุณ