สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าใครได้ติดตามสถานการณ์ตอนนี้อย่างใกล้ชิดจะเห็นว่ามีคนติด #Covid19 กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ สถานศึกษาและองค์กรหลายแห่งเลยเริ่มประกาศให้เรียนหรือทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางและรวมตัวในสถานที่ปิด เพราะการออกไปข้างนอกเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งต่อตัวเองและต่อคนอื่นด้วยนั่นเองค่ะ
ไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเท่านั้นนะคะที่ออกมาตรการนี้ หลายๆ ประเทศก็มีการสั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราวเพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษากักตัวอยู่ที่บ้านไปก่อน เพราะน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อแล้ว แต่ประเด็นนี้กำลังเป็นปัญหาที่ New York University ประเทศอเมริกาเลยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตามมาอ่านในบทความกันได้เลยค่า
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าในช่วงแรกศูนย์กลางการระบาดของโรคอยู่ที่ประเทศจีน และต่อมาก็ลามมาถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยเมืองไทยถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนานอกประเทศจีนที่แรกอีกต่างหากค่ะ (ฮ่าๆ T ___ T) ซึ่งผลจากการปิดข่าวของจีนและการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพในช่วงแรกของการระบาด ทำให้เจ้า Covid-19 นี้ลามไปทั่วโลก จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา องค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ก็ประกาศให้โรค Covid-19 เป็นภาวะการแพร่ระบาดใหญ่ระดับโลก (Pandemic) ไปเรียบร้อย แถมยังประกาศให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่อีกด้วย
ถ้าน้องๆ ได้ตามข่าวจะเห็นว่ายอดผู้ติดเชื้อที่อิตาลีพุ่งขึ้นน่ากลัวมากก T _ T ภายในเวลาไม่กี่วันยอดผู้เสียชีวิตก็สูงขึ้นเกือบเท่าที่จีนแล้วค่ะ ส่วนอิหร่านเองก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นทางฝั่งอเมริกาเองก็ทยอยพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีเคสที่คอนเฟิร์มแล้วประมาณ 13,600 คน โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อถึง 5,365 คนเลยทีเดียวค่ะ (ข้อมูลอ้างอิงวันที่ 19 มีนาคม จาก The guardian) ทำเอาในเมืองเงียบกริบแบบที่คนในท้องที่เองยังตกใจ
Eerily empty streets of #NYC. #Coronavirus #creapy #freedomtower #memorialpool pic.twitter.com/8voKwJblR9
— Maggie T. (@MamaMags513) March 17, 2020
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ถึงอาทิตย์ สถาบันการศึกษาอย่าง New York University (NYU) ก็ได้ออกมาประกาศงดการเรียนการสอนในคลาสไปจนถึงวันที่ 19 เมษายน พร้อมทั้งส่งอีเมล รวมถึงย้ำผ่านองค์การนักศึกษามาว่าจะไม่มีการปิดหอพักอย่างแน่นอน
“โนอาห์ ฮอปคินส์” นักศึกษาสาขาการเมืองที่พักอยู่ในหอเล่าว่า ทางมหาวิทยาลัยแนะนำให้นักศึกษากลับบ้านในช่วง Spring break และแนะนำให้นำข้าวของบางส่วนติดตัวไปด้วย เผื่อในกรณีที่เหตุการณ์มันยืดเยื้อกว่าปกติ ช่วงนั้นอเมริกามีคำเตือนและให้ความรู้เรื่องโรคมากมายเลยค่ะ สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกที่จะไม่กลับบ้านและอยู่ที่หอต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้นำโรคไปติดคนที่บ้าน ในกรณีที่เธอติดเชื้อแล้วยังไม่แสดงอาการนั่นเองค่ะ และนอกจากเธอแล้วก็ยังมีนักศึกษาคนอื่นที่เลือกจะอาศัยอยู่ที่หอต่อรวมๆ แล้วกว่า 12,000 คนเลยทีเดียว
อย่างที่พี่ได้เกริ่นไปในตอนแรกว่าช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้สถานการณ์ในนิวยอร์กดูไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ทางหอก็ไม่ได้แจ้งข่าวเพิ่มเติมอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นักศึกษาในหอพักได้รับอีเมลแจ้งว่าหอจะปิดในวันที่ 22 มีนาคม และให้ย้ายออกภายในวันดังกล่าวหรือภายใน 48 ชั่วโมงถ้าเป็นไปได้ ส่วนคนที่กลับบ้านไปก่อนหน้านี้และยังไม่ได้เก็บของเพื่อคืนห้อง ทางหอก็แจ้งว่าควรกลับมาที่นิวยอร์กใหม่เพื่อเก็บของ แล้วค่อยกลับบ้านไปอีกครั้ง (เอ่อ…) แต่ถ้ากลับมาไม่ได้ภายในวันที่กำหนด ทาง NYU ก็แจ้งแค่ว่าจะทำการแพ็คของและส่งไปให้เท่านั้นค่ะ
โนอาห์ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ทางมหาวิทยาลัยสร้างฟอร์มออนไลน์ให้นักศึกษาเข้าไปกรอกในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านการเงิน แต่ถ้าขอมากกว่า 500 ดอลลาร์ก็จะไม่ได้รับพิจารณานะ (เอ้า…) ส่วนทาง Office of residential life and housing service ก็แจ้งว่าจะทำการคืนเงินส่วนต่างค่าหอของเวลาที่เหลืออยู่ แต่ก็บอกไม่ได้อีกเหมือนกันว่าจะได้คืนเมื่อไหร่ และในจำนวนนี้มีแค่บางคนเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้นออกจากหอ
น้องๆ ที่อยู่หอพักคงพอจะจินตนาการสภาพได้ว่าถ้าอยู่ดีๆ ต้องคืนห้องแบบกะทันหันก็คงหัวปั่นน่าดู ยิ่งคนที่อยู่ต่างจังหวัดยิ่งแล้วใหญ่เลย แต่ที่อเมริกามันยิ่งกว่านั้นค่ะ อย่างที่รู้กันว่าประเทศอเมริกาใหญ่มาก บางคนมาจากต่างรัฐ ต้องบินไป-กลับหลายชั่วโมง และคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็หนีไม่พ้นนักศึกษาต่างชาตินี้แหละค่ะ เพราะพอบินมาเรียนก็พักอาศัยอยู่แค่ในหอของมหาวิทยาลัยเท่านั้น อีกอย่างคือการกลับประเทศในช่วงนี้อาจมีความเสี่ยงที่จะเสียสถานะในการอยู่หรือเรียนที่อเมริกา ที่สำคัญคืออาจเป็นพาหะแพร่เชื้อกลับไปติดสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็กหรือผู้สูงอายุอีก
งานนี้นักศึกษา NYU ที่อาศัยอยู่ในหอก็มีการเขียนจดหมายขอคำตอบจากมหาวิทยาลัยว่าทำไมถึงไล่นักศึกษาออกจากหอพักกลางคันในขณะที่มีโรคระบาด ทำไมถึงกลับคำจากที่แจ้งไว้แถมไม่มีใครเคยได้พูดคุยปรึกษามาก่อน รวมไปถึงเรื่องการคืนเงินหอพักด้วย ซึ่งเค้าก็ขอคำตอบไปภายใน 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีคำตอบกลับมาอยู่ดีค่ะ เรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าทางมหาวิทยาลัยจะออกมาชี้แจงกันยังไงบ้าง แต่ลำบากกันน่าดูเลยตอนนี้ T _ T
อ่านแล้วก็รู้สึกเห็นใจนักศึกษาเลยค่ะ ถ้าแจ้งไว้ตั้งแต่แรกอย่างน้อยก็ไม่วุ่นวายแบบนี้ จะได้มีเวลาวางแผนและเตรียมตัวด้วย T _ T
Sources:
0 ความคิดเห็น