จับสังเกต! 10 สิ่งที่ต้องมีใน MV เพลงอกหักยุค'90

 

          ยังจำกันได้มั้ยคะ ตอนก่อนโน้นนที่พี่แก้วเคยรวบรวม 8 สิ่งที่ MV เพลงดังยุค’90 ต้องมี ไม่งั้นไม่อินเทรนด์ (ใครยังไม่ได้ดู เปิดวาร์ปให้ คลิกที่นี่!) คราวนี้กลับมาจับตาดูอีกครั้ง แต่ขอมาในธีมเพลงช้า เพลงอกหักแสนเศร้าเคล้าน้ำตาในยุค 90 กับจุดสังเกตที่ทุก MV จะต้องมี จะเหมือนไม่เหมือน MV ในปัจจุบันมั้ย? จะโดนแค่ไหน? ตามไปย้อนเวลากันค่ะ (ใครทัน MV ตัวไหน เห็นแล้วร้องตามได้ จัดไปเลยนะ อิอิ)


 

นักร้องดูโอ้ยืนสลับหน้าหลัง
 

          ถ้าใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เพลงเก่าของนักร้องดูโอ้ฝั่ง RS พี่แก้วว่าเอกลักษณ์ข้อนี้ต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดีค่ะ เพลงช้าของนักร้องคู่ มักจะมีเมนร้องแค่คนเดียว อีกคนจะคอยคอรัส ร้องคลอ ตบคำ ห๊าหู้วววให้ เวลาตัดภาพไปที่นักร้อง จะต้องยืนเฉียง 45 องศา อยู่กันคนละเลเยอร์ คนร้องอยู่หน้า คนคอรัสอยู่หลัง คอยยืนทำหน้าเศร้าหนุนหลังอยู่ มุมนี้แหละเป๊ะเลย

 

ภาพจาก MV เพลงมือเปล่า Lift Oil ลิฟท์ ออย lift, น้อยใจ Lift-Oil, รู้ตัวบ้างไหม Raptor, อย่าหลบตา  JR-VOY



 

เพลงช้าต้องโยกตัวตาม
 

          ถ้าฝั่งคู่หู RS จะยืนสลับหน้าหลังร้องเพลงเศร้า ฝั่งแกรมมี่เค้าก็ไม่น้อยหน้านะคะ เกิร์ลกรุ๊ปบอยแบนด์ฝั่งนี้จะต้องยืน (หรือนั่งก็ได้) เรียงหน้ากระดาน อยู่ในระดับใกล้ๆ กัน จะไม่ไปยืนข้างหลังทำตัวเป็นฉากนิ่งๆ เฉยๆ ที่สำคัญ ต้องโยกตัวตามเป็นจังหวะ เอียงไปมา ทำหน้าซึ้งๆ ปรายตามองกล้อง บางเพลงมีท่าประจำด้วย อย่างท่าปาดน้ำตาในเพลงแววตา แต่ท่าแรพโย่ในเพลงคาใจของพี่เจ หรือยังยินดีนะเพื่อน ของ U.H.T. ก็มีท่าเบาๆ เอาไว้เต้นตามตลอด เอากับเค้าสิ

 

ภาพจาก MV เพลงยังยินดีครับเพื่อน U.H.T., อยากฟังเหตุผล - BUBBLE GIRLS, เลือกได้ไหม ZAZA



 

ซูมหน้านักร้อง
 

          ร้องเพลงเศร้า เพลงช้า มันก็ต้องทำอารมณ์ให้ลึกสุดใจกันบ้าง ไม่งั้นคนฟังไม่อิน แล้วจะมาแค่ยืนขยับตัวไปมานิดๆ น่ะ มันยังไม่ได้ มันต้องมีช็อตซูมเข้าไปค่ะ ซูมหน้านักร้องเข้าไปอีก เอาให้เห็นแค่ตา จมูก ปาก หน้าากไม่ต้อง คางไม่เอา ซูมจนบางทีจะเห็นรูขุมขน ไฝ ฝ้า จุดด่างดำ หมดแล้วเนี่ย ก็เข้าใจนะว่านักร้องน่ะสวยๆ หล่อๆ แต่ซูมใกล้จนเปิดมาทีตกใจ หน้าล้นจอแบบนี้ ก็กลัวเหมือนกันนะ

 

ภาพจาก MV อย่ากลับไป ไบรโอนี่, เลือกได้ไหม ZAZA, นอกสายตา แคทลียา, พูดไม่ออก ญาญ่าญิ๋ง



 

งานผมปลิวต้องมา
 

          อย่าคิดว่าแค่ร้องเพลงพร้อมโชว์หน้าหล่อๆ สวยๆ บีบเค้นอารมณ์เศร้าสุดใจ แล้วจะพอใจนะคะ ยังค่ะ จะเข้าถึงอารมณ์ให้คนดูอินขึ้นอีก แต่ละ MV เลยต้องมีลมเข้ามาเป็นส่วนตัวประกอบสำคัญ ไม่ว่านักร้องคนนั้นจะอยู่อินดอร์ เอาท์ดอร์ ในห้องปิดตายที่ดูยังไงก็ไม่น่ามีลมพัดเข้ามาได้ แต่มันก็มาค่ะ ร้องไปดีๆ จังหวะมองกล้องจะต้องมีลมพัดผมปลิวไสว ประหนึ่งว่าสายลมจะคอยปลอบใจเราอยู่

 

ภาพจาก MV เพลงเก็บเอาไว้ เอิร์น จิรวรรณ, ไม่เคยรักกันเลยใช่ไหม หนุ่ม ศรราม, ขอใครสักคน ลีโอ พุฒ, แค่กระจกกั้น บี

 

น้ำตามากับฝนฟ้าและห้องน้ำ
 

          มุกเก่าเล่าใหม่ แต่ยังใช้ได้เรื่อยๆ เสมอ ก็เวลาพระเอกนางเอกร้องไห้ใน MV มันจะต้องเป็นฉากฝนตกฟ้าร้อง วิ่งฝ่าสายฝน หรือถ้าช่วงนั้นเลยฤดูฝนมาไกลแล้ว เอาไงดี วิ่งหนีเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวซะ หรือจะถ่ายช็อตมองกระจกห้องน้ำที่เปียกโชกด้วย ก็ใช้การได้เหมือนกัน เอาง่ายๆ ว่าขอให้ดูเปียกๆ เยอะๆ เข้าไว้ ดูเศร้ากว่าแค่น้ำตาไหลสองสามหยดแน่นอน

 

ภาพจาก MV เพลงเพิ่งเข้าใจ นาวิน ต้าร์, อย่ากลับไป ไบรโอนี่



 

พระเอก MV จะคูลกว่านี้ต้องขี่จักรยาน
 

          ทั้งที่ยุค 90 ก็ไม่มีเลนจักรยานรอบกรุงที่เอาไว้ให้รถเมล์และมอเตอร์ไซค์จอดทับ แต่ถึงยังไงยุคนั้นพระเอกนางเอกก็ต้องพร้อมใจกันขี่จักรยานเป็นหลักค่ะ จะได้ดูชิคๆ คูลๆ (หรือจริงๆ อาจจะเพราะยังเป็นเด็กอยู่ไง ขับรถไม่ได้ ไม่มีใบขับขี่) ยิ่งเวลาอกหักรักคุด เศร้าแค่ไหน ก็ต้องมีฉากขี่จักรกยานวนไปค่ะ อาจจะขี่ไปหยุดหน้าบ้านเธอ แล้วเจอเธอกับใครอื่น หรือขี่ไปล้มไป โซ่หลุดบ้าง พังบ้าง จะได้อิน ยิ่งถ้ามือที่สามมีรถนะ ยิ่งใช่ เค้าตัดสินใจนั่งรถเก๋งสบายๆ ดีกว่าซ้อนท้ายจักรยานเรา โถ! เป็นพระเอก MV นี่มันก็เศร้านะ

 

ภาพจาก MV  ไม่ทำร้าย  JR-Voy, รู้ตัวบ้างไหม Raptor, ยิ้มทั้งน้ำตา เจสัน ยัง, เจ็บแปลบ ไจแอนท์



 

เหตุเกิดที่ล็อกเกอร์
 

          ภาพบรรยากาศ MV เศร้าๆ อกหัก ส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงเรียนเป็นหลัก และมักจะมีที่เกิดเหตุยอดฮิตเป็นที่ล็อกเกอร์ ไม่ก็ตู้จดหมายรูปทรงกลมๆ (ไม่ใช่ตู้แดงหน้าปากซอยนะ) ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบรรยากาศหนังฝรั่งสุดโรแมนติก แต่เอาจริงๆ โรงเรียนสมัยนั้นเค้าไม่ได้มีล็อกเกอร์แบบนี้ซะหน่อย มาได้ไงเนี่ย  

 

ภาพจาก MV เพลงอยากให้เธออยู่ตรงนี้ โบ สุนิตา, ยังยินดีครับเพื่อน - U.H.T.,
เคยไหม เอิร์น จิรวรรณ, กลับกลอก มอส ปฏิภาณ



 

แอบเศร้าตามมุมตึกละซอกหลืบ
 

          บรรดาพระเอกนางเอก MV อกหัก ต้องมีฉากไคลแมกซ์เป็นการรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ในใจของอีกฝ่ายว่าเค้าไม่มีใจให้แล้ว มีใครใหม่แล้ว ซึ่งจะมารู้ตรงๆ โจ่งแจ้งไม่ได้เด็ดขาด มันไม่มีชั้นเชิง ช็อตพีคนี้เลยต้องมาแนวแอบรู้ แอบดู แอบเห็น ด้วยการซ่อนตัวตามมุมตึกหรือมุมล็อกเกอร์ เตรียมจะโผเข้าไปหา แต่แล้วความจริงก็ปรากฏตรงหน้า ว่ามันไม่ใช่แบบที่คิดสักนิด! แล้วอย่าคิดนะว่ารู้ความจริงปุ๊บ จะต้องร้องไห้ฟูมฟาย วิ่งออกไปโวยวายว่าทำงี้ได้ไง ต้องกลั้นน้ำตาสวยๆ แล้วเดินจากไปแบบเงียบๆ สิ แบบนี้ถึงจะเศร้าได้อีก

 

ภาพจาก MV เพลงไม่อาจเปลี่ยนใจ เจมส์, อยากให้ฉันยืนอยู่ข้างเธอบ้างไหม  ตอง ภัครมัย,
เพื่อนเท่านั้น Teen 8 Grade A, ได้ไหม ไบรโอนี่



 

ของแทนใจต้องพัง     
 

          สิ่งที่จะขาดไม่ได้ของการเป็นคู่รักที่เตรียมอกหักใน MV ยุค 90 ก็คือของแทนใจ เลือกมาค่ะสักชิ้น ให้ความพิเศษกับมันหน่อยว่าเป็นของขวัญที่เราให้เค้า เราชอบมาก ต้องมีฉากมองมันด้วยความรักและทะนุถนอมอย่างดี แล้วไอ้ของชิ้นนี้แหละ ที่สุดท้ายมันจะต้องพัง ต้องหัก ต้องหล่น เป็นการบอกใบ้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จบซะแล้ว พระเอกนางเอกก็ต้องเศร้าไปตามระเบียบ โถ! สงสาร

 

ภาพจาก MV เพลงฉันอีกหรือ JR-Voy



 

กระชากสร้อย กระชากอารมณ์

 

          เมื่อเรื่องราวใน MV ดำเนินมาถึงจุดพีค พระเอกรู้ความจริง นางเอกมีใครหลายคน เอายังไงดีล่ะ จะมาพูดคั่นเพลงที่กำลังร้องอยู่ดีๆ ว่า ฉันเลือกเค้า เลิกกันเถอะ! ก็ดูจะตัดอารมณ์เกินไป ต้องมีสัญลักษณ์หรือการกระทำอะไรสักอย่างเพื่อตัดความสัมพันธ์ หนึ่งในเอกลักษณ์ยอดฮิตของยุคนั้น ก็คือการดึงสร้อยคอที่เธอเคยให้ ไม่ว่าจะมีชื่อเธออยู่ หรือมีแหวนเป็นจี้ห้อยก็ตาม แล้วจะต้องดึงขาดในทีเดียวด้วยนะ จะมาดึงแล้วติดคอ ดึงไม่ออก หรือหันไปหยิบกรรไกรมาตัดก็ไม่ได้เด็ดขาด ว่าแต่...เชือกหนังกับสร้อยแข็งๆ แบบนั้นมันดึงกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ของจริงมีคอแดงก่อนแน่ๆ อะพูดเลย

 

ภาพจาก MV เพลงแววตา เจ เจตริน, กลับกลอก มอส ปฏิภาณ


 

          พี่แก้วก็พาไปจับสังเกตกันขำๆ ฮาๆ ใครที่เคยย้อนดู MV เก่าๆ ยุค 90 เจอเอกลักษณ์พวกนี้บ้างหรือเปล่า แล้วชอบเอกลักษณ์ข้อไหน ที่ยังอยากให้มีใน MV รุ่นปัจจุบันต่อไป มาคุยกันดีกว่าจ้า อย่างพี่แก้วเนี่ย ชอบสุดๆ ก็การโยกตัวเป็นจังหวะในเพลงช้านี่แหละ ดูไปโยกตามไปทุกที