ย้อนความหลอน! 4 คาแรกเตอร์ผียุคเก่าที่ดังในอดีต

 

          กุ๊กกุ๊กกู๋...ใครชอบดูหนังผีบ้างคะ ถ้าใครชอบ น่าจะพอจินตนาการภาพผีในยุคนี้ได้ว่าเป็นยังไง แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนนู้นนนน ผีในความทรงจำของทั้งเด็กและวัยรุ่นในอดีต จะเหมือนหรือต่างจากตอนนี้นะ พี่แก้วพาย้อนรอยความสยอง หลอนแบบเก่าๆ กับบรรดาคาแรกเตอร์ผีๆ เค้าเป็นยังไงกันบ้าง

 

ผีจีน

          วิธีการหลอก : ผีดิบจีนจะมาแบบแต่งชุดจีนๆ คล้ายๆ ขุนนาง หน้าขาวๆ มือยาวๆ ยื่นออกมาข้างหน้าตรงๆ จะหลอกคนที ต้องโดดดึ๋ง ดึ๋ง ไปมา บ้างก็กัดคนได้ บางก็บีบคอคนให้ตายคามือ เสียดายที่ปัจจุบันแทบไม่เห็นผีแบบนี้อีกแล้วในหนังผี
 

          วิธีหนีผี : ผีจีนหนีง่ายสุดๆ ในบรรดาผีทั้งหมด เพียงแค่น้องๆ กลั้นหายใจ ผีจีนก็จะมองไม่เห็นทันทีทันใด อย่างกับมีเรดาห์จับลมหายใจของคนเป็นยังไงยังงั้น หรือจะแปะยันตร์กันผีที่เขียนด้วยอักขระจีนที่หน้าผาก  ทีนี้ผีก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เอ้า! จะรออะไรคะ ไปฝึกเขียนยันตร์ แล้วเอามืออุดจมูกเร็ว!!!
 

ยันตร์แปะหน้าผากไว้ ถ้ายันตร์หลุดเมื่อไหร่ จบเห่แน่ๆ
ภาพจาก ภาพยนตร์เรื่อง ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 1



 

ผีญี่ปุ่น

          วิธีการหลอก : ผีญี่ปุ่นในความทรงจำของวัยรุ่นยุค 90 มักจะมาในรูปแบบตำนานลี้ลับ เทพเจ้า หรือภูติผีทั้งหลาย เช่น กัปปะ เท็นกุ  หรือไม่ก็เป็นผีมุ้งมิ้งที่มาในรูปแบบน่ารักๆ อย่างผีร่ม ผีลูกตา ฮานาโกะในห้องน้ำ วิญญาณชุดขาวที่โพกผ้าสามเหลี่ยม และมีลูกไฟสองดวงลอยไปมา ผิดกับยุคนี้ที่กลายร่างมาเป็นผีสาวผมยาวชุดขาวตัวขาวที่เพิ่มความสยองไปอีกร้อยเท่า

          วิธีหนีผี : เหมือนว่าตำนานผีญี่ปุ่นในอดีตส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีวิธีหนี เพราะไม่ได้อยู่ดีๆ ก็แหวกอกมาหลอกหลอนนะ ส่วนใหญ่จึงมีแต่วิธีท้าผีซะมากกว่า ประเภทคนลองของ ถ้าทำแบบนี้จะได้เจอผีนี้ๆ เช่น ถ้าอยากเจอผีฮานาโกะ ต้องไปที่ห้องน้ำหญิงชั้น 4 ห้องที่ 3 แล้วเคาะ 3 ที แล้วเรียกคุณฮานาโกะ อะไรประมาณนั้นมากกว่า

 

ช่วงยุคก่อนโน้นนนจะคุ้นเคยกับผีญี่ปุ่นที่มาในรูปแบบตำนานลี้ลับกับภาพการ์ตูนมากกว่า
จนกระทั่งปลายๆ ยุค 90 ก็ถือกำเนิดผีซาดาโกะ ที่กลายเป็นภาพจำว่าผีญี่ปุ่นต้องชุดขาวในเวลาต่อมา
ภาพจาก การ์ตูนเรื่องอสูรน้อยคิทาโร่ และภาพยนตร์เรื่อง The Ring



 

ผีฝรั่ง

          วิธีการหลอก : ผีฝรั่งในยุค 90 ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของปีศาจหรือซาตานที่สิงสู่คน ทำให้คนนั้นมีอาการประหลาด พูดจาเปลี่ยนไป และทำอะไรแปลกๆ จนทำให้คนรอบข้างหลอนไปตามๆ กัน กับผีอีกประเภทที่มาพร้อมหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์แบบน่ากลัวๆ และมีแรงแค้นในอก ตามมาไล่ฆ่าทุกคนอย่าง เฟรดดี้ ครูเกอร์ หรือเจสัน จากศุกร์ 13 ฝันหวาน ปัจจุบันผีฝรั่งก็ยังมาในรูปซาตานสิงคนอยู่นะ ไม่ค่อยจะเห็นเป็นวิญญาณลอยไปลอยมาสักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือเพิ่มเติมสเปเชียลเอฟเฟกต์และความพิการ คอหัก ขาหัก เดินกะเผลกๆ เป็นผีพิการให้มากขึ้น หลอนมากขึ้นไปอีก

          วิธีหนีผี : ไม่ต้องหนีค่ะ จริงๆ หนีไม่รอดหรอก ตามทุกที่ หนังผีฝรั่งที่เรามักจะเห็นเลยใช้วิธีปราบผีโดยให้บาทหลวงมาทำพิธีไล่ซะเลย บางเรื่องนี่ถึงขั้นฆ่าบาทหลวงได้ด้วย น่ากลัวไปอีก

 

ผีฝรั่งที่เรียกว่าเป็นภาพจำในอดีตนั้นต้องเป็นเรื่อง the exorcist ที่แม้จะเก่ามากตั้งแต่ปี 1973
แต่ก็ติดตาตรึงใจ เป็นต้นแบบของผีฝรั่งในยุคต่อๆ มา
และฉากตีลังกาเดินลงบันได ฉากหมุนหัวก็กลายเป็นตำนานไปเลย ผีกายกรรมชัดๆ
ภาพจาก ภาพยนตร์เรื่อง the exorcist



อีกหนึ่งฝันร้ายในฐานะผีฝรั่งที่วัยรุ่นยุค 90 ทุกคนต้องจำได้ ก็เฟรดดี้ไงจะใครละ
ภาพจาก ภาพยนตร์เรื่อง A Nightmare on Elm Street



 

ผีไทย

          วิธีการหลอก : เอาดีๆ ผีไทยในภาพความทรงจำของวัยรุ่นยุค 90 ส่วนใหญ่เป็นผีหลากหลายแต่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาหลอกหลอนที่ไม่เคยธรรมดา เรียกว่าต้องมีวิธีใครวิธีมัน อย่างปอบหยิบก็ต้องมีท่าหยิบ กระสือต้องถอดร่างเหลือแต่หัวกับไส้ลอยไปลอยมา หรือจะเป็นแม่นาคที่ใช้มือยาวๆ เก็บมะนาวที่ใต้ถุน พอมองย้อนกลับไปผีไทยน่ารักจะตาย แต่ตอนเด็กๆ นั้น ใครๆ ก็กลัวทั้งนั้นแหละ บรื๋อ!!!

          วิธีหนีผี : วิ่งสิคะ จะรออะไร? หนีผีแบบไทยๆ ต้องวิ่งๆ แล้วลงตุ่มค่ะ! ลงไปคน สองคน สามคน ยันสิบคน หลบได้หมด แต่อย่าเผลอ เดี๋ยวผีจะตามลงตุ่มไปด้วย ช่วยไม่ได้ อึ๋ยยยย! แต่ถ้าไม่อยากหนี อยากปราบผีให้สิ้นซาก ต้องหาผู้ชำนาญการเป็นหมอผี ทำพิธีล้อมสายสิญจน์ แล้วเรียกผีลงหม้อ (คนหนีลงตุ่ม ส่วนผีจับลงหม้อ นี่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการไทด์อินสินค้าจากราชบุรี หรือมีสปอนเซอร์เป็นถ้วยชามไหอื่นๆ อีกมั้ยนะ) จับพันๆ แล้วถ่วงน้ำซะ หมดปัญหาผีกวนใจ สบายอารมณ์ไปอีก

 

ท่าหนีผีที่ต้องมีทุกเรื่อง ก็ต้องวิ่งลงตุ่มค่ะ แล้วสุดท้ายผีปอบก็จะวิ่งลงตุ่มไปด้วยอีกคน
ภาพจาก ภาพยนตร์เรื่อง บ้านผีปอบ



 

          ไหนๆ ใครทันผียุคเก่าที่พี่แก้วบอกมาบ้าง ชอบผีชาติไหน จากหนังเรื่องอะไร มาคุยกันหน่อยจ้า ส่วนตัวพี่แก้วชอบผีกองกอยมาก เด็กๆ ชอบเล่นโดดดึ๋งๆ แบบนั้นเลย