เรื่องย่อ พลอตเรื่อง โครงเรื่อง ต่างกันที่.....

                น้องๆ ชาว Dek-D.Com เคยสงสัยกันบ้างไหมจ๊ะว่า “เรื่องย่อ-พลอตเรื่อง-โครงเรื่อง” 3 อย่างมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง พี่ปัดเคยสงสัยและมีน้องๆ หลายคนมาถามคำถามนี้กับพี่ปัดเหมือนกันจ้ะ ดังนั้นในวันนี้พี่ปัดจึงไปถามพี่ๆ นักเขียนชาว Dek-D.Com มาฝากจ้ะ โดยไปเริ่มต้นกันที่.....

{pic-desc}

                "มัลลิกา" นักเขียนสาวแนวซึ้งกินใจ ที่เคยสร้างความประทับใจไว้อย่างมากมาย เช่น "พันธนาการหัวใจ" , “ลิขิตรักลำน้ำไนล์" ฯลฯ บอกว่า "สำหรับความคิดของมัลลิกาแล้ว ถ้าเรียงลำดับความละเอียดก็ต้องเริ่มจาก เรื่องย่อ พลอตเรื่อง และโครงเรื่อง โดย "เรื่องย่อ" คือ เรื่องราวของนิยายเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นจนจบแบบย่อๆ ว่า ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และจบยังไง

                 ส่วน "พลอตเรื่อง" จะมีความละเอียดขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง เป็นการเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกัน เพียงแต่จะมีความละเอียดมากขึ้น เช่น ที่มาที่ไปของเรื่อง และตัวละคร ซึ่งทั้งเรื่องย่อและพลอตเรื่องเมื่อผู้อ่าน อ่านแล้วจะต้องรู้ว่าเรื่องเริ่มจากอะไร ดำเนินเรื่องและจบอย่างไร

                "โครงเรื่อง" สำหรับส่วนนี้จะต้องละเอียดที่สุด โดยจะมีการแบ่งออกเป็นบทๆ และในแต่ละบทนั้นก็จะมีการแบ่งออกเป็นฉากๆ ซึ่งในแต่ละฉากก็ต้องบอกว่ามีตัวละครอะไรเข้าฉากบ้าง เข้าไปทำอะไร มีตอนจบของฉากอย่างไร และห้ามลืมว่าทุกอย่างจะต้องเชื่อมโยงกันให้เดินเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โครงเรื่องยิ่งมีความละเอียดมากเท่าไหร่ การเขียนก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น"

{pic-desc}

                 ทางด้าน "กานต์จิรา" นักเขียนแนวกำลังภายในเรื่องดังอย่าง "มังกรเจ้าปฐพี" ที่บอกว่า "พลอตเรื่อง คือ ทิศทางของเรื่องราวว่าจะดำเนินไปทางไหนอย่างไร ความตั้งใจของคนเขียน ว่าอยากจะเขียนเกี่ยวกับอะไร มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะมีผลตามมาอย่างไร ความเกี่ยวโยงเกี่ยวพันของบุคคลและของเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่จุดไคลแมกซ์ของเรื่อง ซึ่งในเรื่องแต่ละเรื่อง อาจจะมีพลอตเรื่องมากกว่าหนึ่งพลอต โดยจะมีพลอตหลัก กับพลอตย่อย

                 โครงเรื่อง เปรียบได้กับแผนงานที่จะเขียนเรื่องนั้นๆ เช่น จะกำหนดไว้ว่าจะให้มีตัวละครสำคัญกี่ตัว ตัวเอก นางเอก พระรอง นางรอง ตัวร้ายจะชื่ออะไร เป็นใครนิสัยอย่างไร ตัวละครแต่ละตัวเกี่ยวโยงกันอย่างไร ในเรื่องจะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง แต่ละเหตุการณ์จะนำมาเกี่ยวโยงกันอย่างไร

ประโยชน์ของการเขียนโครงเรื่อง

• โครงเรื่องยิ่งกำหนดความสัมพันธ์ของตัวละครและ ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ไว้ละเอียดแค่ไหน ก็จะทำให้เรามีโครงยึดและมีกรอบล้อมเป็นขอบเขตไว้
• ทำให้เวลาเราเขียนลงรายละเอียดจะได้ไม่หลุดหรือออกทะเล
• ถึงแม้ว่าเราจะทิ้งเรื่องไว้หยุดเขียนชั่วคราว เมื่อกลับมาเขียนใหม่ก็ยังต่อติดได้โดยง่าย
• ทำให้เราได้รู้ว่า มีข้อมูลอะไรตรงไหนบ้างที่เราต้องค้นหาเพิ่มเติม เพื่อมาเสริมให้เรื่องที่เขียนมีความแน่น สมเหตุสมผล

**ดังนั้นพลอตเรื่องจึงเปรียบเหมือนแนวคิดของเรื่อง

โครงเรื่องก็เหมือนกับกรอบของเรื่องนั้นที่มีความละเอียดและชัดเจนกว่า

         ยกตัวอย่างเช่น การสร้างบ้าน พลอตเรื่อง คือ ความต้องการว่าจะสร้างบ้านแบบไหน เช่น บ้านไม้สองชั้นมีใต้ถุนสูง อากาศถ่ายเทดีไม่ร้อน โครงเรื่องจะเป็นแบบแปลนของบ้านหลังนั้น

                 การเล่าเรื่อง เราต้องคิดหาเทคนิควิธีที่จะเขียนเล่าเรื่อง ว่าจะเปิดเรื่องอย่างไร จะเอาเหตุการณ์ที่เราเขียนเป็นโครงเรื่องไว้ มาเรียงลำดับตัดต่ออย่างไร ไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนจากเหตุการณ์ที่ 1 ไป 2 ไป 3 หรือเรียงตามเวลาที่เกิดขึ้นก่อนหลัง มีหลายเทคนิคที่จะเล่าเรื่องให้น่าสนใจ กระตุ้นให้ผู้อ่านติดตาม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างไรต่อไป

                 เรื่องย่อ คือ การเขียนเรื่องย่อเป็นบทๆ โดยจะแบ่งบทไว้ว่า บทที่ 1 จะเปิดเรื่องอย่างไร ด้วยตัวละครตัวไหนและเหตุการณ์อะไร บทที่ 2 เกิดอะไรขึ้น เรื่องเป็นอย่างไร ไปจนถึง บทสุดท้าย ตอนจบ ซึ่งเป็นบทสรุปของเรื่องราว มันจะจบลงอย่างไร จะปิดตอนจบด้วยอะไร"

                  พี่ปัดเชื่อว่าหลังจากที่น้องๆ ชาว Dek-D.Com ได้อ่านบทความที่พี่ปัดเอามาฝากในวันนี้ ก็จะเข้าใจถึงความแตกต่างของ "เรื่องย่อ พลอตเรื่อง และโครงเรื่อง" มากขึ้นนะจ๊ะ ดังนั้นในวันนี้พี่ปัดจึงขอตัวไปก่อนนะจ๊ะ เพราะจะสืบหาเคล็ดลับการเขียนแบบต่างๆ แล้วจะเอามาฝากน้องๆ อีกนะจ๊ะ