YA Literature วรรณกรรมสำหรับเด็กก็ไม่ใช่ ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง

Young Adult Literature
วรรณกรรม
สำหรับเด็กก็ไม่ใช่ ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง


            เมื่อเร็วๆ นี้พี่น้องเห็นมีหลายคนตั้งกระทู้บ่นเรื่องนิยายแนวเดิมๆ ซ้ำๆ ที่วางขายตามแผงหนังสือบ้านเราแล้วก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่าตลาดหนังสือต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง อันที่จริงแล้วต่างประเทศนี่ก็มีกระแสนิยายไม่ต่างอะไรกับบ้านเรานะคะ คือถ้ามีแนวไหนดังเปรี้ยง เขาก็จะเขียนแนวนั้นตามกันมาติดๆ เหมือนเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่กระแสนิยายบ้านเขาในช่วงนี้ไม่ใช่แนวเกมออนไลน์แบบบ้านเรา แต่เป็นแนว Dystopian Young Adult Literature ค่ะ

            แต่ก่อนที่จะพูดถึงวรรณกรรมแนวนี้ เรามาทำความเข้าใจกับ Young Adult Literature กันก่อน เผื่อบางคนไม่รู้จัก หรือถ้าใครพอรู้จักอยู่แล้ว ลองอ่านดูอีกที เผื่อจะมีแง่มุมใหม่ให้เรารู้จักมากขึ้น

            วรรณกรรมประเภทนี้ชื่อก็บอกว่าเหมาะสำหรับวัยรุ่น (young) ที่กำลังจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (adult)

 

ทำไมถึงต้องมีวรรณกรรมแนวนี้?

            ก็เพื่อ “เตรียมความพร้อมให้เยาวชนที่แต่เดิมมักถูกปิดกั้นจากการรับสื่อที่รุนแรงได้ทำความเข้าใจกับโลกแห่งความเป็นจริงที่โหดร้าย” ฟังดูน่ากลัวดีใช่ไหมคะ

            เพราะผู้ใหญ่จะคิดว่าเด็ก (ที่ไม่ใช่วัยรุ่น) จะยังไม่มีวุฒิภาวะหรือประสบการณ์เพียงพอที่จะรับเรื่องราวที่มีเนื้อหารุนแรงและแยกแยะได้ พวกเขาก็เลยจะจำกัดให้เด็กรับแต่สื่อที่เหมาะกับวัยไปก่อน (อย่าคิดว่าบ้านเขาไม่ปิดกั้นนะ ถึงจะมีความคิดแบบ free sex แต่เขาก็ควบคุมสื่อต่างๆ เหมือนกัน)

            เมื่อถึงจุดหนึ่ง ซึ่งก็คือช่วยวัยรุ่น เรียนมัธยมปลาย เข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ ที่จะได้เวลาเตรียมตัวพบกับความเป็นจริงเสียที แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะโยนหนังสือที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่มาให้อ่านตูมเดียวเลย มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป เลยทำให้เกิดวรรณกรรมเชื่อมช่องว่างระหว่างวัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่ที่เรียกว่า Young Adult Literature ขึ้นมา


            วรรณกรรมแนวนี้มันจะไม่เหมือนกับวรรณกรรมสำหรับเด็กที่เน้นไปในเรื่องของจินตนาการ เสริมสร้างคุณธรรม ความกล้าหาญ ค่านิยมที่ดีต่างๆ

            YA Literature (เรียกย่อๆ แบบนี้) จะมีตัวละครเป็นวัยรุ่น ที่เผชิญความอยุติธรรมในโลกของผู้ใหญ่ สอนให้เห็นว่าสังคมที่แท้จริงมีแง่มุมใดที่เราไม่เคยนำเสนอในวรรณกรรมสำหรับเด็กมาก่อน ส่วนใหญ่แล้วจะมีเนื้อหาหดหู่ และไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนอ่านเท่าไร

            เปรียบเทียบง่ายๆ โดยดูจากพล็อตเรื่องแบบนี้

            ถ้าเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็ก พล็อตจะไม่โหดมาก
 

            แต่ถ้าเป็น YA พล็อตเรื่องจะซับซ้อนและมีประเด็นเกี่ยวกับความรุนแรงเข้ามาด้วย
 



            YA Literature บางเรื่องจบสวยอย่างที่พี่ยกตัวอย่างให้ดู แต่บางเรื่องก็จบไม่สวยเลย เช่น ตัวเอกตาย หรือทำภารกิจไม่สำเร็จ ดังนั้นโทนเรื่องมันเลยค่อนข้างหดหู่ และเป็นสีเทา แต่ที่พี่ยกตัวอย่างก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นอย่างนี้ทุกเรื่องนะ บางเรื่องจัดเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กแต่เนื้อหาก็มีความรุนแรงหรือมีประเด็นซับซ้อนเหมือนกัน เพียงแต่เขาจะใช้วิธีนำเสนอออกมาให้อ่านง่ายที่สุด

            ทุกคนคงเห็นแล้วว่า YA Literature จะมีเนื้อหาเพื่อนำเสนอโลกความจริง (อันแสนโหดร้าย) ให้เด็กได้เตรียมพร้อมรับมือเมื่อกลายเป็นผู้ใหญ่ ตัวเอกในเรื่องจะเป็นตัวแทนของคนอ่าน คือแรกๆ จะใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เป็นผ้าขาวที่ไม่ค่อยเข้าใจกลไกสังคม แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป ผ้านั้นจะค่อยๆ มีสีมาเติม เป็นสีที่ไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่ก็ทำให้ผ้านั้นแข็งแรงขึ้น และก้าวไปสู่ “วัยใหม่”
 

            ในตอนท้ายของทุกเรื่อง ตัวเอกจะเข้าใจปัญหาในสังคมแล้ว แต่บางเรื่องตัวเอกก็แก้ไขปัญหานั้นได้ บางเรื่องก็แก้ไขไม่ได้ เรียกง่ายๆ ว่า ทิ้งคำถามไว้ให้เยาวชนคนอ่านขบคิดกันเองว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรถ้ามันเกิดขึ้นกับเรา

            แน่นอนว่า YA Literature นอกจากจะมีพล็อตเรื่องค่อนข้างหดหู่แล้วยังจำเป็นต้องนำเสนอความรุนแรง ทั้งการทำร้ายร่างกาย ภาษาหยาบคาย หรือแม้แต่เรื่องเพศในแบบที่วรรณกรรมสำหรับเด็กไม่มี ซึ่งเขาก็จะไม่เขียนออกมาตรงๆ หรือเน้นเรื่องพวกนี้ แต่จะพยายามบรรยายให้รุนแรงน้อยลงมาหน่อย เช่น ถ้าในเรื่องนั้นมีฉากข่มขืน เขาจะไม่บรรยายการกระทำต่างๆ แต่จะเน้นไปที่ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำมากกว่า เพราะประเด็นของเรื่องอยู่ที่ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศรู้สึกอย่างไร ไม่ใช่ถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยวิธีการอะไรบ้าง

            มาดูตัวอย่าง YA Literature ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ก็คือ Harry Potter (เอาเรื่องนี้แหละ จะได้พอนึกภาพออก)
 

Harry Potter ในฐานะ Young Adult Literature


            Harry Potter ไม่ใช่ YA แบบสุดโต่ง (ประเภทหดหู่ทั้งเรื่อง ตัวเอกตาย ตัวร้ายได้ดิบได้ดี) มันยังคงเป็นโลกแห่งจินตนาการที่เด็กๆ ทุกคนใฝ่ฝัน แฮร์รี่ยังคงเอาตัวรอดได้ทุกภาค และก็จบสวยแบบที่ตัวละครสำคัญยังมีชีวิตรอดอยู่

            แต่เรื่องนี้ก็มีเนื้อหาหนักๆ ที่เด็กวัยเล็กอาจจะยังไม่เข้าใจ เช่น ปัญหาการเลี้ยงลูกแบบผิดๆ ของครอบครัวดัดลีย์จนทำให้เด็กอ้วนเป็นหมู เอาแต่ใจตัวเอง และชอบแกล้งคนอื่น

            ปัญหาความขัดแย้งภายในกระทรวงเวทมนตร์เอง มีคนที่ทำผิดแต่ยังรอดพ้นจากเงื้อมมือกฎหมายได้ มีคนที่ยอมหลับหูหลับตาเพราะไม่อยากถูกเด้ง มีคนที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย แต่กลับได้ตำแหน่งใหญ่โต แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการปกครองและการบังคับใช้กฎหมาย

            ปัญหาการปิดกั้น ไม่ยอมนำเสนอความจริง ไม่ยอมให้นักเรียนเรียนเวทมนตร์เพื่อการป้องกันตัวในสมัยที่อัมบริดจ์เข้ามา เพราะไม่อยากให้นักเรียนคิดว่าลอร์ดโวลเดอมอร์ทกลับมาแล้ว อาจารย์บางท่านไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน

            แรกๆ Harry Potter จะดูเป็นหนังสือสำหรับเด็ก เพราะอายุแฮร์รี่ในเล่มแรกก็ยังเด็กอยู่เช่นกัน เราอ่านแล้วจะรู้สึกว่าโห โลกนี้น่าอยู่จัง แต่มีใครสังเกตไหมว่ายิ่งขึ้นปีการศึกษาใหม่ เรื่องมันจะยิ่งเข้มข้นขึ้น ประเด็นมันไม่ได้จับอยู่แค่ "แฮกริดเอามังกรมาเลี้ยง" หรือ "ห้องนี้มีความลับ" แต่ประเด็นมันขยายไปเป็นเรื่องซับซ้อนอย่าง "กระทรวงเวทมนตร์ยังมีคอร์รัปชั่น" หรือ "คนโดนฆ่าตายกันง่ายๆ โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้" ทีนี้เราจะเริ่มคิดแล้วว่า โห นี่คือความจริงของโลกใบนี้หรือเนี่ย ทำไมมันเละเทะอย่างนี้ ทำไมผู้ใหญ่ไม่แก้ปัญหานี้

            ปัญหาของเล่มหลังๆ มันเป็นปัญหาที่แก้ยาก และเป็นปัญหาของผู้ใหญ่ ซึ่งมันก็เข้ากับวัยของแฮร์รี่ ที่กำลังจะเรียนจบและต้องไปเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน เรื่องของแฮร์รี่จะทำให้คนอ่านได้คิดว่า "เราเห็นปัญหาตรงนี้แล้ว เมื่อโตไปเป็นผู้ใหญ่ เราจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี"

            แค่พูดเรื่อง Young Adult Literature ก็ยาวเหยียดขนาดนี้ แต่พอจะเข้าใจภาพรวมของวรรณกรรมแนวนี้แล้วใช่ไหมคะ

            คราวหน้าพี่น้องจะมาเจาะลึกเรื่องพล็อตแนว Dystopia ที่กำลังเป็นพล็อตยอดนิยมในกลุ่มนักเขียน YA Literature เผื่อใครจะได้ไอเดียไปเขียนนิยายเรื่องใหม่กันนะคะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.thereader.ca/2008/08/songs-and-literature.html
http://bookriot.com/category/young-adult-literature/
http://greenteantoast.blogspot.com/2011/12/ambition-laid-bare_23.html
http://theinappropriatehomeschooler.blogspot.com/2013/09/the-key-to-successfully-homeschooling_19.html
http://blogs.etruth.com/takefivewithhaley/tag/seven-books-in-the-harry-potter-series/
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

soul_kin Member 11 ธ.ค. 56 15:22 น. 5

จะบอกว่าชอบอ่านแนวนี้มากเลยค่ะ บางสำนักพิมพ์ในไทยก็เริ่มเอามาตีพิมพ์เยอะขึ้นแล้ว ส่วนตัวคิดว่าต่อให้โตขึ้นอ่านวรรณกรรม YA นี้ก็ยังได้ข้อคิดดีๆ เห็นมุมมองที่หลากหลายขึ้นนะคะ

อยากให้มีตีพิมพ์ออกมาเยอะๆนะคะ วรรณกรรมต่อจากวรรณกรรมเด็กที่ให้เด็กมองเห็นโลกของความเป็นจริง เชือว่าถ้าเด็กหรือผุ้ใหญ่คนไหนได้อ่านแนวนี้ ต้องได้อะไรอีกเยอะแน่นอนค่ะ

0
กำลังโหลด
Seesor Member 9 ธ.ค. 56 20:21 น. 2

ความจริงแนวนี้บ้านเราก็มีนะคะ แต่แค่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไร

และมันก็เน้นสาระ มากกว่าการเน้นความสนุกสนานเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์

ของบ้านเราก็เช่น แว้งที่รัก เรไรไลลา อะไรทำนองนี้

มันดูไม่ค่อยสนุกเท่าไรถ้าเทียบกับวรรณกรรมต่างชาติ :3

0
กำลังโหลด
editor_nong Member 13 ธ.ค. 56 21:54 น. 8-1
พวกวรรณกรรมแปลที่เข้ามาในบ้านเราตอนนี้ส่วนใหญ่เป็น YA หมดเลยค่ะ ทั้ง Hunger Games, Ender's Game, จอมโจรหนังสือ, Percy Jackson, Eragon, สี่ดรุณี, อาร์ทิมิส ฟาวล์, Princess Diaries ฝรั่งหันมาแต่งแนวนี้มากขึ้นเพราะมันขายดี ผู้ใหญ่อ่านได้ เด็กอ่านดี เนื้อหาเข้มข้น ไม่จืดไปเหมือนวรรณกรรมเด็ก แต่ก็ไม่แรงเกินไป เพียงแต่บ้านเราจะเรียกเป็นแนวนิยายรัก นิยายแฟนตาซีมากกว่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

16 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Seesor Member 9 ธ.ค. 56 20:21 น. 2

ความจริงแนวนี้บ้านเราก็มีนะคะ แต่แค่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไร

และมันก็เน้นสาระ มากกว่าการเน้นความสนุกสนานเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์

ของบ้านเราก็เช่น แว้งที่รัก เรไรไลลา อะไรทำนองนี้

มันดูไม่ค่อยสนุกเท่าไรถ้าเทียบกับวรรณกรรมต่างชาติ :3

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
ladymewmew Member 10 ธ.ค. 56 05:45 น. 4

Dystopia -_- วิชาอังกฤตกำลังเรียนเรื่องนี้อยู่เลย อ๊ากกกกก มันตามมาหลอกหลอนถึงในนี้เลยหรือนี่!!!

2
กำลังโหลด
soul_kin Member 11 ธ.ค. 56 15:22 น. 5

จะบอกว่าชอบอ่านแนวนี้มากเลยค่ะ บางสำนักพิมพ์ในไทยก็เริ่มเอามาตีพิมพ์เยอะขึ้นแล้ว ส่วนตัวคิดว่าต่อให้โตขึ้นอ่านวรรณกรรม YA นี้ก็ยังได้ข้อคิดดีๆ เห็นมุมมองที่หลากหลายขึ้นนะคะ

อยากให้มีตีพิมพ์ออกมาเยอะๆนะคะ วรรณกรรมต่อจากวรรณกรรมเด็กที่ให้เด็กมองเห็นโลกของความเป็นจริง เชือว่าถ้าเด็กหรือผุ้ใหญ่คนไหนได้อ่านแนวนี้ ต้องได้อะไรอีกเยอะแน่นอนค่ะ

0
กำลังโหลด
jade Member 12 ธ.ค. 56 08:02 น. 6

Dystopia ก็แนวฮังเกอร์เกมสินะคะ เราเข้าใจว่ามันคือแนวโลกอนาคตที่ผิดพลาด แต่ตอนหน้าจะรอดูว่าเราเข้าใจถูกไหม ^^"

ถ้าเจ้าตำนานแห่งแนวนี้ก็คงต้อง Brave New World เราเคยเรียนเป็นนอกเวลาตอน ม. ปลาย และมันเป็นอะไรที่หลอนมากกกกก

เรายังไม่ขยับไป YA เท่าไหร่...ทุกครั้งที่แวะร้านหนังสือ เราจะพุ่งเข้าไปหา Juvenile (วรรณกรรมเยาวชน) เท่านั้น 

เพราะเท่าที่ดูเหมือน YA ที่วางขาย จะมีแต่แนวรักๆ ไม่ก็แวมไพร์ หมาป่า ซอมบี้ เป็นส่วนใหญ่

- -"  สาวๆ เดี๋ยวนี้ไม่ชอบมนุษย์แล้วสินะ 5555+ (เราไป Kinokuniya อ่ะค่ะ)

เราเลยนึกว่า YA คือแนวนั้น เพิ่งจะเข้าใจใหม่ตอนอ่านบทความนี้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ความจริงเป็นคนที่อ่านอะไรก็ได้นะคะ นอกจากแนวรัก อ่านได้หมด ถ้าภาษาดีจะชอบมากกก

แต่ชอบสุดต้องแฟนตาซีเท่านั้น!!!!  อายุปูนนี้แล้ว ยังคงชอบมังกร พ่อมด พระราชา เวทมนตร์ ขโมย นักเดินทาง จอมมาร อยู่ไม่เสื่อมคลาย คือโลกความเป็นจริงเราก็รับรู้มันแจ่มแจ้งชัดพอแล้ว จะอ่านหนังสือก็ขออ่านโลกสวย ขอการผจญภัย รักแท้ มิตรภาพอันงดงาม วีรบุรุษกู้โลก เอาชนะฝ่ายร้าย บ้างเหอะ 5555

อ้อลืม ต้องจบแฮปปีเอนดิ้งด้วย

เยี่ยม

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
editor_nong Member 13 ธ.ค. 56 21:54 น. 8-1
พวกวรรณกรรมแปลที่เข้ามาในบ้านเราตอนนี้ส่วนใหญ่เป็น YA หมดเลยค่ะ ทั้ง Hunger Games, Ender's Game, จอมโจรหนังสือ, Percy Jackson, Eragon, สี่ดรุณี, อาร์ทิมิส ฟาวล์, Princess Diaries ฝรั่งหันมาแต่งแนวนี้มากขึ้นเพราะมันขายดี ผู้ใหญ่อ่านได้ เด็กอ่านดี เนื้อหาเข้มข้น ไม่จืดไปเหมือนวรรณกรรมเด็ก แต่ก็ไม่แรงเกินไป เพียงแต่บ้านเราจะเรียกเป็นแนวนิยายรัก นิยายแฟนตาซีมากกว่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
คะเน Member 15 ธ.ค. 56 22:03 น. 10

ชอบบทความนี้จังครับ

หวังว่าจะได้อ่านบทความแนวนี้อีกเยอะๆ เลยนะครับ

ขอบพระคุณที่นำความรู้มาแบ่งปันครับผม

ว้าว

0
กำลังโหลด
Ludwig Member 21 ธ.ค. 56 23:06 น. 11

การินก็แนวนี้นะครับ(คิดว่านะ)แน่นอน 

เป็นความโหดร้ายของโลกที่มีความโลภ ความแค้น แต่ตัวนางเอกก็ยังมีความหวัง มองโลกในแง่ดี เฟลเป็นครั้งคราว... ทั้งๆที่ตัวเธอเองมีส่วนฆ่าคนมาเยอะแยะมากก พระเอกก็มาแนวเข้าใจโลกมากเกินไป มองไปทางไหนก็แง่ร้ายไปซะหมด มีปัญหากับครอบครับ แล้วก็ไม่ชอบแม่ พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว รู้สึกลงตัว~~รักเลย ทางPunicaหมวดBlack Fantasyก็จะเป็นแนวนี้แหละครับ พอมาแนวนี้กลับไปแนวรักไม่ลงครับ......

ชอบการินพูดอ่า......"บาปใครๆก็มีทั้งนั้นแหละ มัวแต่ร้องขอไม่อยากเจอก็ไปตายซะ!!" ฮิๆฮ่าๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด