9 ตำนานรักหวานที่ลงเอยได้หักมุมจนน่าผวา

เผื่อไว้เป็นพล็อตนิยายรักสยองขวัญได้อยู่นะ  
แต่ละเรื่องจบแบบหักมุมทั้งนั้นเลย

 

สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาวไรเตอร์ทุกคน เรากลับมาพบกันเช่นเคย ครั้งนี้ บังเอิญว่า... พี่ตินได้อ่านบทความเกี่ยวกับตำนานรักพลิกล็อกจากบรรดาคู่รักหวานทั่วโลก ก็เลยลองเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าน้องๆ ฟังเรื่องราวแล้วจะเกิดแรงบันดาลใจ ช่วยกระตุ้นให้คิดพล็อตดีๆ ออกได้บ้าง
 
ลองอ่านกันดูนะ แล้วมาเม้าท์กันว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
 

เฮเลน ซิมม่อนส์ สาวออสซี่ที่เจ้าชายมุคคารามจาห์หลงรักสุดหัวใจ
 

Helen Simmons & Prince Mukkaram Jah

เรื่องราวของซินเดอเรลล่าอาจยังไม่ดราม่าเท่าเฮเลน ซิมม่อนส์ คนนี้ ในปี ค.ศ.1976 สาวออสซี่วัย 27 ปี ตกงาน และต้องใช้ชีวิตโดยพึ่งพาเงินทองจากรัฐบาล โชคมาหาเธอ เมื่อเลขาฯ ของสถาปนิก Yosse Goldberg ไม่สามารถร่วมทริปไปอินเดียกับเขาได้ ซิมม่อนส์จึงได้เดินทางไปแทน ที่อินเดีย ทั้งคู่ได้รับประทานมื้อค่ำร่วมกับเจ้าชายมุคคาราม จาห์
 
เพียงแค่แรกพบเจอ เจ้าชายทรงประทับใจในตัวซิมม่อนส์ ทั้งๆ พระองค์อภิเษกสมรสแล้ว... กับเจ้าหญิงชาวตุรกี งานเต้นรำในคืนนั้น งดงามราวกับความรักของพริ้นซ์ชาร์มมิ่งและซินเดอเรลล่า และเมื่อจบวัน ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันชนิดถอนตัวไม่ขึ้น
 
ความรักลับๆ ของทั้งคู่ดำเนินต่อมาอีก 4 ปี เจ้าชายก็เดินเรื่องหย่ากับพระชายา เพื่อมาอภิเษกกับซิมม่อนส์ เธอเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และดำรงตำแหน่งเจ้าหญิงของอินเดีย ทั้งคู่เดินทางไปยุโรปด้วยกันสม่ำเสมอ มีโอรสธิดาสองพระองค์ และมีฐานะร่ำรวยมหาศาล ทว่าตำนานรักนี้ ไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งอย่างที่ใครๆ คิด เมื่อ 7 ปีต่อมา เจ้าชายขอแยกทางกับพระชายาที่รัก ด้วยเหตุผลที่ว่า... ซิมม่อนส์คบชู้ เธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอื่น นอกจากจะต้องสูญเสียพระสวามี ซิมม่อนส์ยังโชคร้าย ติดเอดส์จากชายชู้
 
และนั่นคือจุดจบอันน่าเศร้าของเจ้าหญิงผู้ไม่ซื่อสัตย์ 
 

 

Lokesh & Amreen

Lokesh คือหนุ่มฮินดู ส่วน Amreen คือสาวมุสลิม ทั้งคู่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน คือ Phaphunda อินเดีย ครอบครัวของ Amreen ขายนมสด และ Lokesh ก็มาอุดหนุนเธอทุกวัน จนกลายเป็นความรักในที่สุด ทว่าความรักระหว่างฮินดูและมุสลิม ถือเป็นข้อห้าม ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย บังคับให้สองหนุ่มสาวเลิกกัน หรือไม่ก็ฆ่าตัวตายตามกันไปซะ ผลจากคำขู่ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแอบหนีตามกันไป
 
ครอบครัวของสองหนุ่มสาว ตามหาทั้งคู่จนพบ และประกาศไม่ยอมรับการแต่งงาน ผลคือ ทั้ง Lokesh และ Amreen เลือกทางออกตามแบบ “โรเมโอกับจูเลียต” วรรณกรรมเรื่องดังของเชคสเปียร์ นั่นคือกินยาพิษฆ่าตัวตาย... 
 

 

Bosko Brkic & Admira Ismic

ช่วงสงครามแบ่งแยกดินแดนของบอสเนียเฮอร์เซโกวีน่า Brkic และ Ismic คือคู่รักที่แตกต่างทางเชื้อชาติ Brkic เป็นเซอร์เบีย ส่วน Ismic เป็นมุสลิม พวกเขาคบหากันตั้งแต่ยังวัยรุ่น และรักกันมั่นคงยาวนานถึงเก้าปี ในช่วงปี ค.ศ. 1993 ซาราเยโว เมืองหลวงที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ เกิดปัญหาขัดแย้งทางเชื้อชาติอย่างรุนแรง คู่รักคู่นี้ตกลงใจหนีไปยังเมืองเบลเกรด ทว่าพวกเขาไปถึงแค่สะพาน Vrbanja Bridge ก็ถูกกระสุนของบรรดาสไนเปอร์เข้าเสียก่อน Brkic ตายก่อน Ismic ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็พยายามคลานไปยังร่างของคนรัก และกอดเขาไว้เป็นครั้งสุดท้าย ศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้บนสะพานนานถึง 8 วัน ทว่าการได้รู้ตัวคนยิงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะทั้งคู่ต่างก็จากไปแล้ว
 
หลังเรื่องราวของทั้งคู่เผยแพร่ออกไป ทั่วโลกเกิดคำวิจารณ์มากมาย หลักๆ ก็คือ ความอยุติธรรมในเรื่องความรัก ความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติ และความโหดเหี้ยมของสงคราม... ที่ทำให้คนบริสุทธิ์จำนวนมากต้องสังเวยชีวิต   
 

 

Mahmoud Ayazi & Kataun Safaie

ในปี ค.ศ. 1985 Mahmoud Ayazi ตกลงใจทำตามความฝันแบบอเมริกันดรีม เขาทิ้งงานที่อิหร่าน แล้วมุ่งหน้าไปสู่ซาคราเมนโต้ แคลิฟอร์เนีย เป็นเวลา 8 ปี ที่เขาทำงานให้กับบริษัท  Campbell Soup Company  Ayazi แต่งงานแล้วกับหญิงชาวอิหร่าน Kataun Safaie  
 
การสร้างโอกาสที่อเมริกา ไม่ใช่เรื่องง่าย สถานทูตไม่ยอมอนุมัติวีซ่าให้ Safaie สักที หลังพยายามหลายครั้ง ในที่สุด Ayazi และภรรยา คิดวางแผนที่ไม่สมควร ด้วยความที่ Safaie ตัวเล็กมาก สูงเพียงแค่ 150 เซนติเมตร เธอจึงเลือกซ่อนตัวในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไฟลท์นั้นยาว 11 ชม. และเธอไม่รอด  
 
เมื่อ Ayazi ได้รับกระเป๋า เขารีบเปิดออก และพบว่าภรรยาสุดที่รักเสียชีวิตแล้ว ความเจ็บปวดจากความผิดพลาดทำให้ Ayazi ทนไม่ไหว เขาทิ้งกระเป๋าพร้อมศพภรรยาไว้ที่สนามบิน และยิงตัวตายในรถ
 

 

Dave & Patti Stevens

เครดิตภาพ : thescoopblog.dallasnews.com
 
แพตตี้ สตีเว่นส์ ไม่เคยลืมความประทับใจแรกพบที่มีต่อ เดฟ สามีของเธอเลย “เขาเป็นคนเงียบ สุภาพ ถ่อมตัว และเอาใจใส่ผู้อื่น” ทั้งคู่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท ความสัมพันธ์เริ่มจากรอยยิ้มแรกพบ หลังจากนั้น ทั้งคู่ไม่เคยห่างกันอีกเลย เดฟทำงานหนัก แต่เขาไม่เคยกลับบ้านผิดเวลาเลยตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ดังนั้น แพตตี้จึงกังวลหนักมาก เมื่อพบว่าเลิกงานแล้ว สามีไม่กลับมาบ้าน
 
หลังจากออกตามหา แพตตี้ได้รู้ความจริงอันน่าเศร้า โธมัส จอห์นสัน อดีตนักอเมริกันฟุตบอลของมหาวิทยาลัย เกิดคุ้มคลั่งเนื่องจากถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย เขาถือมีดติดมือมาด้วย พร้อมจะฟันใครก็ได้ที่ผ่านเข้ามาในสายตา และเดฟก็คือคนคนนั้น ฆาตกรรมครั้งนี้โหดร้ายมาก ศพของเดฟถูกฟันเละ จนต้องยืนยันตัวด้วยลายนิ้วมือ
 
ด้วยความโศกเศร้า ทำใจไม่ได้กับความตายไม่คาดฝันของสามี วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบแพตตี้ฆ่าตัวตายในโรงรถ   
 

 

Bill & Dianne Bordeaux

ตั้งแต่วันที่บิลล์พบไดแอน เขาก็รู้ว่าเธอนี่แหละคือภรรยาในอนาคต ไม่นานต่อมา ทั้งคู่ก็แต่งงานกัน ทว่า หลังจากนั้น ชีวิตการงานของเขากลับตกต่ำลง บิลล์ต้องเผชิญปัญหาการเงินอย่างหนัก หนี้สินที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อครอบครัวบอร์โดรซ์ ทำให้ไดแอนเครียดและกดดัน อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกสาวเกิด ชีวิตของทั้งคู่ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง แต่... ระยะเวลานั้นก็สั้นๆ แค่สองเดือน!
 
เมื่อโคริ ลูกสาวของทั้งคู่อายุได้สองเดือน เหตุการณ์สะเทือนขวัญก็เกิดขึ้น เมื่อลูกสาวคนโตวัยสามขวบ ที่เกิดจากสามีเก่าของไดแอน จมน้ำ และเสียชีวิตในอ้อมแขนของแม่ ไดแอนคุ้มคลั่ง โทษว่าเป็นความผิดของบิลล์ที่ไม่ระวัง ทำให้ลูกสาวของเธอตาย ความรักที่เคยหวานกลายเป็นขม สองสามีภรรยาผลัดกันทำลายกัน หลายครั้งระหว่างนั่งรถไปด้วยกัน ไดแอนจะแย่งพวงมาลัยของสามี หรือพยายามกระโดดลงจากรถ วันหนึ่งหลังจากทะเลาะกันอย่างหนัก บิลล์ขึ้นรถครอบครัว ขับออกจากบ้าน ไดแอนพุ่งเข้ามาขวาง รถชนอย่างจัง เธอล้มหัวฟาดพื้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  
   

 

Mary & Earl Myatt

เครดิตภาพ : syracuse.com
 
เมื่ออายุ 17 ปี แมรี่ได้พบกับสามีในอนาคตที่งานปาร์ตี้ ทั้งคู่ทำงานที่ร้านหนังสือของมหาวิทยาลัยด้วยกัน แต่งงาน มีลูกและมีหลาน ทว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา 42 ปีต่อมา ความรักของทั้งคู่ถึงเวลาสั่นคลอน
 
แมรี่ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองโป่งพอง และต้องผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิต ระหว่างนั้น เอิร์ลคอยอยู่ข้างเตียงและดูแลเธออย่างใกล้ชิด จนกระทั่งในที่สุด แมรี่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด เธอลุกจากเตียงไม่ได้ เข้าห้องน้ำไม่ได้ เอิร์ลหมดหวัง และทุกข์หนักมาก จนกระทั่งบ่ายวันอาทิตย์ ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2014 เอิร์ลโทร. หาลูกชาย บอกรักลูกและวางสาย จากนั้นก็พาแมรี่ขึ้นรถ แล้วขับไปที่บริเวณทางรถไฟ เขาอุ้มร่างไร้สติของภรรยามาวางบนทางรถไฟ พร้อมนั่งข้างเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจศพและระบุว่าทั้งคู่ฆ่าตัวตาย
 

 

Arianne Willinger & Bunty Sharma

เครดิตภาพ : newseastwest.com   
 
ช่วงปลายปี ค.ศ. 2013 เอเรียน ครูสอนโยคะวัย 35 ได้พบกับบันตี้ วัย 32 ต่อมาทั้งคู่แต่งงาน และกลายเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง แต่... น้ำผึ้งพระจันทร์ก็หวานอยู่ได้ไม่นาน บันตี้เริ่มก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเอเดรียน ทั้งนิสัยชอบสูบบุหรี่ ออกจากบ้านบ่อย หรือแม้แต่การพูดคุยกับผู้ชายอื่น ส่วนเอเดรียนก็กล่าวหาว่าบันตี้นอกใจเธอ ชีวิตสมรสเริ่มบาดหมาง
 
ท้ายสุด เอเดรียนเลือกที่จะแยกทาง แต่บันตี้ไม่ยอมเลิกรา เขายังมารบกวนเธออยู่สม่ำเสมอ ต่อมาในปี ค.ศ. 2014 บันตี้เกิดคลั่งที่เอเดรียนไม่ยอมคืนดี เขาขับรถพาเธออกนอกเมือง จากนั้นก็จ้วงแทงด้วยมีด แล้วทิ้งศพไว้ข้างถนน ตามด้วยกลับบ้าน ฆ่าตัวตาย    
 

 

Zackery Bowen & Adriane Hall

ความรักของคนคู่นี้เหมือนนกปีกหักมาเจอกัน แซคเคอรี่เป็นหนุ่มรูปหล่อ ที่ผ่านสงครามโคโซโวและอิรักมาแล้ว ทำให้สภาพจิตใจของเขาไม่สมบูรณ์นัก ส่วนเอเดรียนหรือแอดดี้ เป็นผู้หญิงที่เจ็บปวดจากการถูกคุกคามทางเพศ ทั้งคู่เจอกันในคืนที่เฮอร์ริเคนแคทริน่าโหมกระหน่ำ แอดดี้กำลังต้องการที่พัก และแซคเคอรี่ก็เอื้อเฟื้อแก่เธอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรัก
 
คู่รักคู่นี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย วันหนึ่งทะเลาะกัน วันดีคืนดี ทะเลาะกัน พวกเขาก็เผาต้นไม้จนไหม้ แล้วก็ดื่มเหล้าที่โบเว่นขโมยมาจากบาร์ แต่พออารมณ์ดีก็จับมือปั่นจักรยานคุยกันกระหนุงกระหนิง
 
ไม่นานต่อมา ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเมนต์เหนือร้านขายของวูดู แอดดี้จับได้ว่าแซคเคอรี่นอกใจ ก็เลยไล่เขาออกจากบ้านที่เป็นชื่อของเธอ แน่นอนว่าแซคเคอรี่ไม่พอใจอย่างแรง ผลที่เกิดขึ้น ตำรวจได้รับจดหมายชี้แจงจากชายผู้กระโดดตึกตาย ที่บ้าน พวกเขาพบศีรษะของแอดดี้ต้มอยู่ในหม้อ ชิ้นส่วนร่างกายอบในเตาอบ รักที่เคยหวานซึ้ง จบลงด้วยความตายอันโหดร้าย
 
อ่านแล้วอึ้ง ทึ่ง เสียวมาก โหดทุกเรื่องเลยนะ ว่าไหม
 
อตินเอง  
 
ขอบคุณข้อมูลจาก
               
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กาแฟครีม Member 15 ก.พ. 59 20:01 น. 7

แพตตี้ กับ เดฟ เศร้าที่สุดแล้ว

คือรอคนรักกลับบ้าน ผลสุดท้ายแค่หน้าก็ยังไม่ได้เห็น

1
กำลังโหลด

10 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กาแฟครีม Member 15 ก.พ. 59 20:01 น. 7

แพตตี้ กับ เดฟ เศร้าที่สุดแล้ว

คือรอคนรักกลับบ้าน ผลสุดท้ายแค่หน้าก็ยังไม่ได้เห็น

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Te-amo Member 28 ก.ค. 60 09:13 น. 10

คู่แรกนี่ออกแนวกงกรรมกงเกวียนนะ เจ้าชายนอกใจพระชายามาคบกับผู้หญิงใหม่อยู่สี่ปีกว่าจะทำให้ถูกต้อง... และสุดท้ายพระชายาใหม่สุดที่รัก... ดันนอกใจไปมีชู้จ้าาา ติดโรคอีกต่างหาก

สงสารสุดคือลูก ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยแต่ชีวิตต้องมีรอยเปื้อนเพราะความผิดที่พ่อแม่ก่อ ยิ่งเป็นพวกเจ้าหญิงเจ้าชายเรื่องยิ่งขยายเป็นวงกว้าง คนรู้คนนินทาเยอะไปอีก

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด