สวัสดีค่ะชาวเด็กดี ที่เก่าเวลาเดิมกับคอลัมน์พบปะพูดคุย อย่างที่บอกไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าสัปดาห์นี้เราจะพามาทำความรู้จักกับนักเขียนสยองขวัญ ซึ่งเชื่อว่าถ้าเป็นนักอ่านสายนี้ตัวจริงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ 
RabbitRose เป็นนักเขียนแนวสยองขวัญที่ตอนนี้มีผลงานมาแล้วมากมาย ล่าสุดในงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 44 ก็มี  ‘Death Li(n)e โกหกต้องตาย’ แล้วก็ ‘13 หลอน ฆ่า อาฆาต’ มาให้แฟนๆ นักอ่านได้ติดตาม แต่ถ้าใครไม่ได้ไปงานสัปดาห์หนังสือเพื่อพูดคุยกับเธอคนนี้ตัวเป็นๆ พี่อรก็สัมภาษณ์มาเผื่อแล้วเลื่อนตามลงมาได้เลย
 

นักเขียนสยองขวัญ เจ้าของนามปากกา 'RabbitRose' 
 

RabbitRose: ตอนนี้มีผลงานล่าสุดก็คือเรื่อง ‘Death Li(n)e โกหกต้องตาย’ กับสำนักพิมพ์โซฟาค่ะ และมีอีกเล่มที่เป็นรวมเรื่องสั้นกับนักเขียนอีกสิบสองท่านคือ ‘13 หลอน ฆ่า อาฆาต’ ค่ะ
 

RabbitRose: เป็นโปรเจ็คหนังสือสยองขวัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Social media ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันค่ะ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะนำมาซึ่งความสะดวก แต่หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงได้เช่นกัน
 

หน้าปกทั้ง 4 ของเซต Social Die 
 

RabbitRose: เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งซึ่งค่อนข้างจะเกเรพอสมควร วันหนึ่ง อดีตเพื่อนร่วมชั้นที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกับพวกเขาสมัยชั้น ม.4 ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในห้องไลน์ เธอคนนั้นได้ชักชวนให้เพื่อนๆ ทุกคนเล่นเกมจับโกหก หากถูกจับได้จะต้องลงโทษ และแน่นอนว่าพวกเด็กเกเรกลุ่มนั้นถูกถามและจับโกหกถึงเรื่องความผิดที่เคยก่อไว้ในอดีต ซึ่งพวกเขาก็ต้องชดใช้ด้วยความตายอย่างลึกลับค่ะ
 

ปกเต็ม ของ  Death Li(n)e โกหกต้องตาย กับสำนักพิมพ์โซฟา
 

RabbitRose: นึกถึง ‘คนไม่ดี’ ค่ะ เวลาที่พูดถึงเรื่องของความสยองขวัญผู้คนมักจะกลัวและคิดถึงผี แต่แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่น่ากลัวกว่าผีก็คือ ‘คนเรา’ นั่นแหละค่ะ คนที่หลอกลวงกันซึ่งๆ หน้า คนที่พร้อมจะฆ่าเราได้ทั้งที่ยังมีรอยยิ้มมอบให้กับเรา คนที่เราไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ คนเหล่านี้แหละค่ะที่น่ากลัวกว่าผีเยอะเลย
 

RabbitRose: ทุกทางที่หาได้ค่ะ การดู การอ่าน การสอบถาม จากผู้รู้และแหล่งข้อมูลที่หาได้ ซึ่งมีเยอะมาก อยู่ที่เราเอง ว่าจะขวนขวายมากพอหรือไม่
 

RabbitRose: นักเขียนอาชีพ ถ้าไม่เขียนก็อดตายค่ะ อย่างไรก็ต้องหาวิธีเขียนออกมาให้ได้ (หัวเราะ) แต่ก็ต้องคำนึงถึงคุณภาพในงานเขียนด้วย ใช่จะสักแต่ว่าจะเขียนๆ ไปเพื่อส่งเพียงอย่างเดียวเราต้องไม่ดูถูกผู้อ่าน เพราะเขาคือคนที่สนับสนุนเรามาโดยตลอดค่ะ
 

RabbitRose: บ่อยค่ะ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่นักเขียนทุกคนต้องเจอ ถ้าหากคิดไม่ออกจริงๆ สิ่งที่เราควรจะทำก็คือ หยุดเขียน และไปทำกิจกกรมอย่างอื่นก่อน อย่าฝืน เพราะถ้าฝืน เราก็จะได้ผลงานที่ไม่ดี เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะได้ความคิดดีๆ ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำโดยไม่รู้ตัวก็ได้
 

RabbitRose: รู้สึกว่าตนเองพัฒนามากขึ้นหลายๆ ด้าน แต่ก็ยังไม่ดีพอ ทุกครั้งที่ย้อนกลับไปอ่านนิยายเล่มที่เคยเขียนมา ก็มักจะพบจุดที่เราอย่างจะทำการแก้ไขอยู่บ่อยครั้ง เพราะประสบการณ์ที่มากขึ้น มันทำให้เรามองเห็นข้อผิดพลาดได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน และนำไปปรับใช้กับผลงานเรื่องใหม่ๆ ค่ะ
 

RabbitRose: ผีค่ะ เพราะเรื่องสยองสำหรับคนไทยที่ชอบอ่านกันก็คือเรื่องผีๆ สางๆ
 

RabbitRose: เริ่มเขียนค่ะ เรามีความคิดอะไรก็เขียนออกมาก่อน จากนั้นก็หาคนอ่านและให้เขาช่วยตัดสิน ทุกคำวิจารณ์คือสิ่งที่มีค่าสำหรับผู้เริ่มงานเขียน บางครั้งมันอาจจะรุนแรงและเหมือนยาขม แต่ถ้าเราอยากเป็นนักเขียนจริงๆ นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องเจอและลุกขึ้นมาก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ค่ะ
 

แฮร่... RabbitRose กับ มงมง
 

RabbitRose: อ่านอยู่แค่ไม่กี่เล่มค่ะเช่น เดอะลอร์ดออฟเดอะริงก์ กับ แฮรี่พ็อตเตอร์ แต่มักจะดูหนัง ดูซีรี่ย์ต่างชาติมากกว่า เพราะฉะนั้นใครจะว่าไปลอกพล็อตเล่มนี้เล่มนั้นมาก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่ไม่ค่อยอ่านนิยายค่ะ (หัวเราะ) แต่อยากจะบอกว่า ในช่วงเริ่มต้นของการเขียนนั้น การอ่านจะช่วยให้เรารู้ระดับการใช้ภาษา ว่าควรเขียนอย่างไร ใช้ภาษาระดับไหน แต่ถ้าหากมากจนเกินไป มันก็อาจจะทำให้เราสับสนจนไม่สามารถหาภาษาของตนเองได้
 

RabbitRose: เหนื่อยค่ะ แต่มีความสุขมากๆ ทุกครั้งที่มีคนชมชอบนิยายของเรา เราก็ยิ่งมีความสุข
 

RabbitRose: เป็นคนทำงานช้า และส่งไม่ค่อยตรงเวลาค่ะ มักจะสายจนถูกตำหนิอยู่เสมอ ทุกวันนี้ก็ยังหาทางแก้ไม่ได้เลยค่ะ
 

RabbitRose: อยากให้คนรู้จักนิยายของ RabbitRose ให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ค่ะ ^^
 

กับอีกหนึ่งสิ่งที่เธอคนนี้รัก 
 

RabbitRose: ขอขอบคุณ และฝากผลงานไว้กับพี่ๆ น้องๆ นักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ หากสงสัยหรือมีคำถามอะไรเกี่ยวกับนิยาย ก็สามารถถามมาได้เลย แต่ไม่รับทำการบ้านหรือตรวจงานให้นะคะ ^o^

 

เข้าใจตรงกันเนอะ พี่เขาไม่รับทำการบ้านหรือตรวจงานให้นะจ๊ะ แต่ถ้าสงสัยเกี่ยวกับนิยายของพี่เขาละก็เติมที่เลยจ้า และนี่ก็คือีกหนึ่งนักเขียนที่พี่อรอยากให้ชาวเด็กดีได้รู้จัก เชื่อว่าคงจะพอช่วยเหล่านักอ่านที่ติดตามผลงานของเธอให้ได้คลายคิดถึงกันบ้าง ส่วนครั้งหน้าบอกอีกทีไม่อยากให้สาววายต้องพลาด ส่วนเป็นใคร เขียนเรื่องไหน รอติดตามนะคะ สุดท้ายนี้สุขสันต์วันเสาร์ขอให้ทุกคนมีความสุขในสิ่งที่ทำ และได้ทำในสิ่งที่รักนะคะ บ๊ายบาย