สาวน้อยรองเท้าแดง : เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของใคร...?


สาวน้อยรองเท้าแดง : เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของใคร...? 
 
เชื่อว่าชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดี น่าจะเคยได้ยินชื่อของ ‘คาเรน’ หรือ ‘สาวน้อยรองเท้าแดง’ มาบ้างไม่มากก็น้อย แอดมินเคยอ่านเรื่องนี้ตอนเด็กๆ ความรู้สึกในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็คิดแค่ว่า ไม่ควรใส่รองเท้าแดงเท่านั้น แต่พอโตขึ้นมา ได้อ่านซ้ำอีกครั้ง ก็ได้เห็นค่านิยมหลายๆ อย่างจากเทพนิยายเรื่องนี้ค่ะ 
 
ผู้เขียน ‘สาวน้อยรองเท้าแดง’ ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าพ่อสายดาร์ค ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นั่นเอง ถ้ายังจำไม่ได้ เราขอขยายความให้ว่า เขาเป็นคนเขียนเรื่องเงือกน้อย ที่ตกหลุมรักเจ้าชายและพยายามทำทุกทางให้พระองค์หันมามอง สำหรับสาวน้อยรองเท้าแดง เป็นเรื่องที่ถ้าอ่านผ่านๆ เหมือนจะเกี่ยวข้องสีของรองเท้า แต่ถ้าอ่านให้ลึกแล้ว จะพบว่า... การตีความรองเท้าสำคัญกว่านั้น  
 
สาวน้อยรองเท้าแดงถูกทหารแก่สาปแช่งให้ต้องเต้นรำไปจนตาย
 
ความหมายของ ‘สาวน้อยรองเท้าแดง’
เรื่องราวของคาเรน เด็กสาวฐานะยากจน ผู้หลงใหลในรองเท้าแดง แม่ของเธอรักและสงสารลูกสาวที่ไม่ค่อยจะมีข้าวของดีๆ ใช้ จึงตัดเย็บรองเท้าแดงให้กับลูก น่าเสียดาย นางป่วยไข้และต้องตายจากไป แทนที่จะระลึกถึงแม่ คาเรนเอาแต่ตื่นเต้นกับรองเท้าแดง และสวมใส่มันทั้งๆ เป็นวันศพของแม่ตัวเอง โชคดีของคาเรน สุภาพสตรีชราผู้เมตตาขับรถผ่านมาเห็นเธอเข้า จึงรับเธอไปเลี้ยงดู อย่างไรก็ตาม สุภาพสตรีชราไม่ชอบรองเท้าแดงและไม่อนุญาตให้คาเรนสวมใส่ เพราะคิดว่ามันไม่เหมาะสมโดยเฉพาะเรื่องใส่ไปเข้าโบสถ์ แต่คาเรนกลับไม่เชื่อฟัง ความหลงใหลรองเท้าแดงทำให้เธอแอบใส่รองเท้าอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง คาเรนให้ทหารแก่ขัดรองเท้าให้ เขาเตือนเธออีกครั้งถึงความไม่เหมาะสมในการใส่รองเท้าแดงเข้าโบสถ์ แต่คาเรนกลับเยาะเย้ยเขา ทหารแก่จึงพูดว่า ‘ขอให้เธอสวมรองเท้าแดงและเต้นรำไปจนตาย’ คำพูดนั้นประหนึ่งคำสาปแช่ง เมื่อแอบใส่รองเท้าแดงอีกครั้ง คาเรนกลับบังคับมันไม่ได้ และต้องเต้นรำไปเรื่อยๆ จนเมื่อทนไม่ไหวเธอต้องขอร้องให้เพชฌฆาตฟันขาของเธอขาด และหลังจากนั้น เธอก็กลายเป็นคนที่ใส่ใจศาสนา จนในที่สุด เธอล้างบาปสำเร็จและได้รับการให้อภัยจากทูตสวรรค์  
 
เนื่องจากเรื่องนี้เนื้อหาค่อนข้างฮาร์ดคอร์และน่ากลัวมาก แถมยังเกี่ยวข้องกับเรื่องความเชื่อและศาสนาด้วย แอดมินจึงขอพูดกลางๆ แล้วกันค่ะ ส่วนตัวคิดว่าแอนเดอร์สันเขียนเรื่องนี้ในยุคที่ศาสนามีอิทธิพลอย่างสูง เขาคงอยากให้คนเชื่อในศาสนาคริสต์ เชื่อในพระเจ้า และอยากให้ทุกคนเป็นคนดี จึงได้สร้างเทพนิยายที่เกี่ยวพันกับความเชื่อนี้ออกมา มีข้อห้ามหลายๆ ประการ ไม่ให้คนลบหลู่พระเจ้า และยึดมั่นในการทำตามความดี ส่วนตัวแอดมินขอพูดถึงแค่เฉพาะเรื่องความไม่หลงใหลในความสวยความงามจนมากเกินไปและเรื่องของอีโก้ที่รุนแรง เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะคาเรนยึดติดแต่ความงามของรองเท้าแดง จนไม่สนใจคำเตือนของคนรอบตัว ผลสุดท้ายเธอเลยต้องเจอกับหายนะดังนี้
 
รองเท้าแดงกลายเป็นสัญลักษณ์ของตัวแทนสิ่งที่เธอขาดเรื่อยมา 
 
แล้วสรุปว่าใครเป็นคนผิด...?
เปิดเรื่องมา นักเขียนพูดถึง ‘คาเรน’ สาวน้อยตกยากที่มีแค่รองเท้าไม้หยาบๆ เพียงคู่เดียวสำหรับสวมใส่ในฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนเธอต้องเปลือยเท้า และมันทำให้เท้าของเธอหยาบและสกปรก จนกระทั่ง เพื่อนบ้านวัยชราได้ยินเรื่องนี้เข้า จึงมอบรองเท้าแดงให้กับเธอ แม้รองเท้าจะธรรมดาๆ และราคาไม่แพง แต่คาเรนผู้ไม่เคยมีรองเท้าก็ชอบมันมาก และตัดสินใจสวมมันไปที่งานศพของแม่ตัวเอง เป็นโชคดีของคาเรนที่ได้รับการอุปการะจากเศรษฐินีสูงวัย ซึ่งแทนที่คาเรนจะคิดว่าเป็นเพราะความเมตตาของนาง เธอกลับมองว่า ตัวเองโชคดีเพราะสวมรองเท้าแดง ในสายตาของคาเรนแล้ว รองเท้าคู่นี้ไม่ใช่มีค่าแค่การสวมใส่ แต่มันมีค่ายิ่งกว่านั้น ความงามของมันร่ายเวทมนตร์ทำให้เศรษฐินีชราหันมามองเธอ จากเด็กสาวหมดหวัง ไร้ค่า ก็ได้อะไรดีๆ เข้ามาเพราะรองเท้าแดงคู่นี้เอง 
 
รองเท้าแดงเก่าๆ คู่นั้น เป็นรองเท้าคู่แรกของคาเรน และต่อมา เธอก็ได้รองเท้าใหม่อันงดงามจากเศรษฐินีชรา รองเท้าคู่นี้สวยงามเหนือกว่าคู่เดิมมากมายนัก คำบรรยายที่แอนเดอร์สันใช้คือ “ไม่มีอะไรจะงดงามเทียบเท่ารองเท้าแดงคู่นี้” คาเรนกลายเป็นคนเสพติดและติดอกติดใจรองเท้าแดงมาก เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่เมื่อลองวิเคราะห์ดูแล้ว เด็กสาวมองว่า มันได้มอบสิ่งที่ล้ำค่าให้กับเธอ ชีวิตใหม่ สิ่งใหม่ๆ ดังนั้นรองเท้าแดงจึงเป็นตัวแทนของบางอย่างที่เธอไม่เคยมี... ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรไม่ใช่หรือ ในเมื่อเธอไม่เคยได้รับอะไรเลย สิ่งนี้ทำให้เธอเปลี่ยนไป... แต่น่าเสียดาย แทนที่คาเรนจะพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี เธอกลับหลงระเริงกับมัน เธอเต้นรำในรองเท้าแดงคู่สวย และตื่นเต้นไปกับมัน และแม้ในโอกาสที่ไม่เหมาะสม เธอก็ยังสวมมัน เพื่อความมั่นใจในตัวเอง และด้วยความหวังว่า... เธอจะได้โอกาสใหม่ๆ อีกครั้ง เธอไม่ยอมถอดรองเท้าแดง และไม่ยอมใส่รองเท้าไม้เก่าๆ อีกต่อไปแล้ว และฉากที่แสดงถึงความเห็นแก่ตัวเองอย่างสูงสุดของคาเรนก็คือ เมื่อเศรษฐินีชราผู้ใจดีต่อเธอเกิดล้มเจ็บ เธอกลับเลือกที่จะสวมรองเท้าแดงไปงานเต้นรำ และทิ้งให้นางนอนป่วยอยู่บ้านคนเดียว  
 
จะเห็นว่าท้ายที่สุดแล้ว เทพนิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยความผิดบาปและการลงโทษ คาเรนต้องเสียเท้าของเธอไป ก็เพราะเอาแต่คิดเรื่องรองเท้าแดงในเวลาที่ไม่เหมาะสม ถ้าหากคาเรนวางตัวไม่ต่างจากตัวละครอื่นๆ ในเทพนิยาย คือขยันขันแข็ง อดทนและมีน้ำใจต่อผู้อื่น เธอก็จะได้สิ่งดีๆ ตอบแทน เช่น เจ้าชาย ฐานะมั่นคง แต่เมื่อเธอไม่ทำตาม ผลลงท้ายที่เธอได้ก็คือความตาย 
 
รองเท้าแดงไม่เพียงแต่ทำร้ายคาเรน แต่ยังทำลายเศรษฐินีชราด้วย เพราะคาเรนละเลยที่จะดูแลนาง นางจึงต้องเสียชีวิต จริงอยู่คาเรนทำผิด แต่เศรษฐินีชราก็เป็นคนหยิบยื่นมันให้กับเธอเอง เทพนิยายเรื่องนี้สอนอะไรได้บ้าง ในเมื่อนางอายุมากกว่าคาเรน และควรจะเป็นผู้ปกครองที่ดูแลเด็กสาวได้ ทำไมนางเลือกตัดสินใจมอบรองเท้าให้เด็กสาว การตัดสินใจนี้ผิดหรือถูกไม่มีใครตอบได้ เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คนทั้งคู่ต้องเจอกับเรื่องร้ายแรงจนถึงชีวิต 
 
และนั่นแหละคือประเด็นที่เราสงสัย... “เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของใคร” และเราจะโทษใครได้ในสถานการณ์นี้...? คำถามนี้ก็เหมือนเหตุการณ์ที่เราพบเจอทั่วๆ ไปนั่นแหละ นั่นคือ... เวลาปัญหาเกิดขึ้น เราไม่อาจโทษใครคนใดคนหนึ่งได้ แต่มันคือการรวมความผิดของทุกคนเอาไว้นั่นเอง   
  
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
https://www.worldoftales.com/fairy_tales/Hans_Christian_Andersen/THE%20RED%20SHOES.html
https://www.tor.com/2017/05/04/guilt-and-a-lack-of-social-mobility-the-red-shoes/ 
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Red_Shoes_(fairy_tale) 
http://www.eastoftheweb.com/short-stories/UBooks/RedSho.shtml
 
 
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
POPWW Member 23 มี.ค. 61 15:48 น. 3

อันนี้ที่เราคิดนะ เราว่าที่เด็กสาวใส่รองเท้าแดงอยู่ตลอดเวลาเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่มีค่าและไม่อาจมีไรมาเทียบได้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด