สี่ดรุณี หนึ่งในวรรณกรรมอมตะของโลกกับ 10 เบื้องหลังที่เราอาจไม่เคยรู้!


สี่ดรุณี หนึ่งในวรรณกรรมอมตะของโลก
กับ
10 เบื้องหลังที่เราอาจไม่เคยรู้!


สวัสดีน้องๆ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคนนะคะ เนื่องจากบทความก่อนหน้านี้พี่ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของการนำวรรณกรรมอมตะของโลกมาพิมพ์ใหม่อีกครั้งของทางนานมีบุ๊คส์ ซึ่งหนึ่งในวรรณกรรมจำนวน 5 เล่มที่ถูกนำกลับมาพิมพ์ใหม่นั้นก็ได้แก่ สี่ดรุณี ที่เป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวน้องสาวจำนวน 4 คน (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสี่ดรุณี) ที่ต้องมาช่วยกันดูแลแม่และบ้านในระหว่างที่พ่อของพวกเธอออกไปรบในสงครามกลางเมือง ด้วยหน้าที่ที่พวกเธอต้องทำมันเลยได้ทำให้เกิดเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องขึ้นมา โดยพวกเธอจะต้องช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรค เฝ้ารอวันที่พ่อกลับมาและครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง รับรองว่าถ้าน้องๆ ได้อ่านจะต้องสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่แนบแน่นและการฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ อีกทั้งยังมีเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอคอยให้เราอ่านอัดแน่นอยู่ในวรรณกรรมเรื่องนี้ และหลังจากนี้เราจะได้มารู้ไปพร้อมๆ กันว่า เบื้องหลังวรรณกรรมสุดอมตะเรื่องนี้นั้นมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง


 

หลุยซา เมย์

 

1. หลุยซา เมย์ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องสี่ดรุณีตั้งแต่แรก 


หลุยซา เมย์ นักเขียนเรื่องสี่ดรุณีแท้จริงแล้วไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่แรก สืบเนื่องมาจากโทมัส ไนลส์ บรรณาธิการของสำนักพิมพ์ Roberts Brothers ได้แนะนำให้เธอไปเขียนหนังสือสำหรับเด็กผู้หญิงดู หลุยซาในตอนนั้นได้ตอบกลับไปว่าเธอจะพยายาม แต่เธอไม่ได้รับปากว่าจะเขียน เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เธอสนใจตั้งแต่แรก แต่สุดท้ายเธอก็ได้เขียนเรื่องขนาดสั้นออกมา โดยในตอนนั้นตัวเรื่องได้ถูกจัดอยู่ในหมวดหนังสือสอนใจสำหรับเด็ก
 
หลังจากนั้นได้ไม่นาน ไนลส์ ได้เสนอให้มีการพิมพ์ออกมาอย่างจริงจังครั้งแรก โดยเขาได้ติดต่อผ่านทางพ่อของหลุยซา ซึ่งดูเหมือนว่าความต้องการของไนลส์จะได้ผล เพราะหลังจากติดต่อกับพ่อของหลุยซา หญิงสาวก็ได้เริ่มเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงขึ้นมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เธออ้างอิงมาจากชีวิตส่วนตัวของตนเอง ซึ่งภายหลังในชื่อว่า Little Women หรือสี่ดรุณีในภาษาไทยของเรานี่เอง



 

 

2. สี่ดรุณีใช้เวลาเขียนเพียงแค่ 10 สัปดาห์


หลุยซาได้เริ่มต้นเขียนเรื่องสี่ดรุณีนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 1868 เธอได้ใช้เวลากับมันตลอดทั้งเช้าจรดเย็น จากตอนแรกที่เขียนขึ้นมาจากการแนะนำของผู้เป็นพ่อ จู่ๆ เธอก็ได้รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งกับเรื่องนี้ขึ้นมาซะงั้น คิดดูว่าเธอใช้เวลาหมดไปกับการเขียนจนไม่ได้กิน ไม่ได้นอน กระทั่งวันที่ 15 กรกฏาคม เธอได้ตัดสินใจส่งต้นฉบับจำนวน 402 หน้าให้กับบรรณาธิการ หลังจากส่งต้นฉบับไปเวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนเข้าเดือนกันยายน ซึ่งนับได้ 4 เดือนพอดิบพอดี ในที่สุดสี่ดรุณีก็ได้ถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ และใครจะเชื่อล่ะว่ามันได้กลายเป็นหนังสือขายดี จนทำให้หลุยซาร่ำรวยและกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงขึ้นมาทันที


 

สี่ดรุณีเวอร์ชันของ BBC

 

3. ต้นฉบับของสี่ดรุณีนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหนาของเนื้อหา หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เนื้อหาของเรื่องสี่ดรุณีถูกแยกพิมพ์ออกมาเป็น 2 ช่วง โดยเนื้อหาช่วงแรกได้ถูกตีพิมพ์ออกมาในปี 1868 ในชื่อสี่ดรุณีที่เรารู้จักกัน ซึ่งเนื้อหาได้จบลงด้วยฉากที่จอห์น บรู้คขอเม็กแต่งงาน หนึ่งปีหลังจากนั้น (1869) หลุยซาได้ตีพิมพ์เนื้อหาส่วนหลังออกมา โดยใช้ชื่อว่า Good Wives ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนในการเขียนเท่านั้น


 

4. ตัวละคร เม็ก เบธ เอมี่ และโจ ได้แรงบันดาลใจมาจากพี่น้องของหลุยซา


สำหรับตัวละครเม็ก ได้สร้างขึ้นมาจากพี่สาวของหลุยซา แอนนา ผู้ตกหลุมรักกับสามีอย่างจอห์น บริดจ์ ระหว่างชมการแสดงของเขาบนเวที คำอธิบายฉากแต่งงานของเม็กก็ได้อ้างอิงมาจากงานแต่งงานของแอนนาในชีวิตจริง ส่วนตัวละครเบธ ได้อ้างอิงมาจากลิซซี่ที่เสียชีวิตไปเมื่อตอนอายุ 23 เหมือนเบธ เอมี่ ได้อ้างอิงมาจาก เมย์ ศิลปินที่เสียชีวิตไปเมื่ออายุ 39 ปี และเมย์ก็เป็นศิลปินคนแรกที่ได้จัดแสดงผลงานศิลปะของตัวเองที่กรุงปารีสด้วย
 
และสำหรับโจ แน่นอนว่ามันต้องอ้างอิงมาจากตัวของหลุยซาเองอย่างแน่นอน!


 

สี่ดรุณีเวอร์ชันคลาสสิก

 

5. หลุยซาเคยประสบกับความยากจนเหมือนครอบครัวมาร์ชมาแล้ว


ครอบครัวของหลุยซาเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยความช่วยเหลือจากพี่น้องและเพื่อนบ้านมาแล้ว ในช่วงที่หลุยซานั้นเป็นเด็ก เธอไม่ได้กินอะไรนอกจากขนมปัง น้ำ กับแอปเปิ้ลนานๆ ครั้งเท่านั้น
 
เมื่อเธอโตขึ้น เธอได้เข้าทำงานทุกอย่างด้วยความพยายามและไม่เกี่ยงงานเหมือนอย่างที่โจทำในเรื่อง ถึงแม้ว่าเธอจะโตพอรู้เรื่องรู้ราวแต่ก็นับว่ายังอายุน้อยไปสำหรับการมาทำงานในลักษณะแบบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้พาครอบครัวรวมถึงตนเองให้อยู่อย่างสุขสบายมากขึ้นจากความประสบสำเร็จของนวนิยายเรื่องนี้


 

6. หลุยซาปฏิเสธที่จะให้โจแต่งงานกับลอรี่


หลุยซา ผู้ที่ไม่เคยผ่านการแต่งงานมาเลยสักครั้งในชีวิต ต้องการจะทำให้โจ อยู่ในสถานะเดียวกับเธอ แต่ในระหว่างที่เธอพยายามอย่างหนักสำหรับเนื้อหาส่วนที่สองของเรื่องนี้ ได้มีแฟนๆ เรียกร้องให้เธอเขียนฉากให้โจแต่งงานกับชายหนุ่มข้างบ้านอย่างลอรี่ โดยสถานการณ์ตลกๆ นี้หลุยซาได้เขียนลงในบันทึกส่วนตัวของเธอด้วยว่า “ได้โปรดเถอะทุกคน ฉันไม่อยากให้โจแต่งงานกับลอรี่”
 
ด้วยความประนีประนอมหรือต้องการตอบสนองแฟนๆ ในที่สุดหลุยซาก็ได้จัดการให้โจได้แต่งงาน แต่มันไม่ได้เป็นการแต่งงานที่เป็นไปอย่างโรแมนติกสักทีเดียว ออกจะเป็นการแต่งงานในแบบฝืนใจมากกว่าระหว่างโจกับปิแอร์


 

7. มีทฤษฏีเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับที่มาของตัวละครลอรี่


คนอ่านต่างตีความไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับที่มาของตัวละครลอรี่ บ้างก็มีตั้งแต่ทอโร นักเขียนและนักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ จนกระทั่งถึง จูเลี่ยน ลูกชายของนักเขียนนวนิยายชื่อดังอย่าง แนแธเนียล ฮอว์ธอร์น แต่มันก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ไปซะทีเดียว จนเราได้ค้นพบข้อมูลสำคัญที่เกิดขึ้นในปี 1865 ในปีนั้นหลุยซาได้มีโอกาสพบกับนักดนตรีคนหนึ่ง ซึ่งหลุยซาได้ใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ด้วยกันกับเขาในกรุงปารีส โดยนักดนตรีคนนั้นมีชื่อว่าเลดดี้ (ซึ่งชื่อนี้ถูกตั้งโดยหลุยซา) หรือนี่อาจจะเป็นที่มาระหว่างชื่อเลดดี้กับลอรี่ก็เป็นได้


 

บ้านของหลุยซาสมัยยังเด็ก

 

8. เราสามารถไปเยี่ยมเยือนสถานที่ที่หลุยซาเขียนเรื่องนี้ได้นะ


Orchard House คือสถานที่ที่หลุยซาใช้เวลาในการเขียนเรื่องสี่ดรุณี ซึ่งเคยเป็นบ้านของครอบครัวเธอมาก่อน ซึ่งถ้าใครสนใจจะเข้าไปเยี่ยมชมก็สามารถไปกันได้แล้วนะ สิ่งที่พิเศษเมื่อเราไปเหยียบ ณ บ้านหลังนั้นแล้วเราจะได้พบกับศิลปะบนกำแพงของเมย์ รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กที่หลุยซาเคยใช้เขียนหนังสือจากที่นี่อีกด้วย


 

สี่ดรุณีเวอร์ชันวิโนนา ไรเดอร์

 

9. สี่ดรุณีได้ถูกนำไปสร้างเป็นสื่อมาแล้วหลายรูปแบบ


ไหนจะทีวีซีรีส์เอย ละครเวทีเอย ภาพยนตร์เอย เรียกได้ว่าสี่ดรุณีถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นสื่อมาแล้วนับไม่ถ้วน ถ้าจะเอาที่บูมสุดๆ ก็คงจะเป็นปี 1933 ที่ได้ แคทารีน เฮปเบิร์น มาแสดงนำ หรือจะเป็นปี 1949 ของ จูน แอลลิสัน หรือถ้าเข้าใกล้เราอีกนิดก็คงจะเป็นปี 1994 ที่ได้ วิโนนา ไรเดอร์ นักแสดงหญิงที่กำลังเป็นที่พูดถึงในยุคสมัยนั้นมารับบทนำ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่สามารถหยิบนำมาทำใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยได้เรื่อยๆ แถมทุกคนก็ยังคงรักและชื่นชอบสี่ดรุณีนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นวรรณกรรมอมตะไปแล้วก็ตาม


 

Clip



 

10. ในปี 1980 ทางประเทศญี่ปุ่นได้มีการสร้างสี่ดรุณีในรูปแบบอนิเมชันด้วยนะ!


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อย่างที่บอกไปแล้วในข้อก่อนหน้านี้ว่าสี่ดรุณีได้ถูกนำไปสร้างเป็นสื่อมาแล้วหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นก็เป็นอนิเมชันของทางญี่ปุ่นเขานั้นแหละจ้ะ โดยความยาวของอนิเมชันเรื่องนี้นั้นอยู่ที่ 48 ตอน มีความยาวตอนละครึ่งชั่วโมง อย่างคลิปด้านบนนี้ก็เป็นตัวอย่างสั้นๆ กับ 2 ตอนแรก ถ้าน้องๆ อยากรู้ว่าทางญี่ปุ่นเขาจะทำออกมายังไง ก็ลองดูตัวอย่างกันได้เลย

 

----------------------
 

เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ สำหรับ 10 เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับวรรณกรรมเรื่องสี่ดรุณี ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเอามากๆ เลยใช่ไหม รู้สึกยังไง ไหนลองแสดงความคิดเห็นให้ได้อ่านกันหน่อยซิ ไว้เรามาเจอกันได้ใหม่ในบทความหน้า หวังว่าวันนี้น้องๆ ทุกคนคงจะสนุกกัน ได้เวลาที่พี่ต้องไปแล้ว บ๊ายบายจ้า

 
พี่นัทตี้ :)


 
ขอบคุณที่มาที่น่าสนใจจาก
http://mentalfloss.com/article/56706/10-things-you-may-not-know-about-little-women 
https://en.wikipedia.org/wiki/Louisa_May_Alcott 
https://www.biography.com/people/louisa-may-alcott-9179520 
https://en.wikipedia.org/wiki/File:Orchard_House_from_Little_Women.jpeg


พี่นัทตี้
พี่นัทตี้ - Columnist บุคคลผู้เสพติดการดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น