“นางสิบสอง” เรื่องราวที่เป็นต้นแบบการเอาชีวิตรอดในถ้ำ!!


“นางสิบสอง” วรรณคดีพื้นบ้านไทย
กับการ
เอาชีวิตรอดของเด็กสาวทั้ง 12 คน


สวัสดีน้องๆ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคนนะคะ เรียกได้ว่าข่าวสารที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ พี่นัทตี้เชื่อว่าคงจะหนีไม่พ้นข่าวของน้องๆ จากทีมฟุตบอลเยาวชนและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย หลายคนคงส่งกำลังใจ และเอาใจช่วยน้องๆ กับโค้ชกันใหญ่ ซึ่งพี่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่รีทวิตติดตามข่าวสารทุกสิบวินาที เพราะลุ้นเหลือเกิน อยากให้เจอตัวเร็วๆ แต่ตอนนี้เชื่อว่ากำลังใจของทุกคนเริ่มจะเห็นผล เพราะน้องๆ หมูป่าทยอยออกจากถ้ำกันมาได้แล้วถึง 8 คน!! เอาเป็นว่าเรามาส่งกำลังใจ และเอาใจช่วยทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ให้ผ่านพ้นจากเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้เร็วๆ นะจ๊ะ


 

 
เมื่อพูดถึงเรื่องการติดอยู่ในถ้ำ และการเอาชีวิตรอด ไม่รู้ทำไมพี่ถึงได้นึกถึงวรรณคดีพื้นบ้านของไทยอย่าง ‘นางสิบสอง’ ขึ้นมา โดยนางสิบสองนั้นเป็นเรื่องราวของเด็กสาว 12 คน ที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ให้เผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ตามลำพัง โดยพวกเธอทั้ง 12 คนนั้นจะต้องช่วยเหลือกัน ฝ่าฟันกับอุปสรรคทั้งหลายแหล่ไปด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วนั้นเรื่องราวจะจบลงยังไง เรามาติดตามอ่านต่อไปพร้อมๆ กันได้เลยจ้ะ

 


 
นางสิบสอง เป็นหนึ่งในวรรณคดีพื้นบ้านของไทย โดยเป็นเรื่องราวของเด็กสาวทั้ง 12 คน ลูกของเศรษฐีและภรรยาคู่หนึ่ง ที่ได้ไปบนบานศาลกล่าวขอลูกจากเทวดา เทวดาจึงส่งลูกสาวมาให้ถึง 12 คน! และด้วยความที่มีจำนวนมากเช่นนี้ ได้ส่งผลทำให้ทรัพย์สินของเศรษฐีและภรรยาร่อยหรอลงทุกวันๆ จนสุดท้ายแล้วเศรษฐีเกิดทนไม่ไหว จึงวางแผนว่าจะนำตัวลูกสาวทั้ง 12 คนไปปล่อยทิ้งไว้ในป่า
 
โชคดีที่ ‘เภา’ น้องคนสุดท้องได้โรยข้าวตากตลอดทางเดินที่ผ่านมา นางเภาเลยพาพี่ๆ ทั้ง 11 คนของเธอกลับมายังบ้านได้สำเร็จ เมื่อเศรษฐีเห็นดังนั้นจึงเกิดความคิดที่จะนำลูกของตนไปปล่อยในป่าอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้นางเภาไม่ได้นำข้าวตากติดตัวมาด้วย เลยทำให้เธอกับพี่ๆ ทั้ง 11 คนติดอยู่ในป่าเป็นเวลาหนึ่งคืน! พอรุ่งขึ้นนางเภาก็ได้คิดหาทางพาพี่สาวกลับบ้านเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ แถมยังต้องมาเจอกับนางยักษ์ชื่อ ‘สันตรา’ นางยักษ์สันตราพอได้เห็นนางทั้งสิบสองจึงเกิดความรักใคร่ขึ้นมา อยากรับมาเลี้ยงดู เนื่องจากตนไม่มีลูก แถมสามีก็ได้ตายจากไปนานแล้ว นางยักษ์สันตราจึงคิดจะนำนางสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวัง โดยสั่งให้ทุกคนในเมืองแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมด เพราะกลัวว่าถ้าเกิดนางทั้งสิบสองรู้ความจริงขึ้นมา จะหวาดกลัวและไม่มีใครกล้าเข้าหาตน หลังจากนั้นมานางทั้งสิบสองก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในวังอย่างสงบสุข จนกระทั่งเวลาได้ล่วงเลยจนทุกคนโตเป็นสาว...


 

 
‘นางเภา’ ได้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมเมืองที่ตนอยู่นั้นถึงไม่มีสัตว์โผล่มาให้เห็นเลยสักตัว แถมพี่ๆ ของเธอยังได้บังเอิญไปเจอเข้ากับกองกระดูกปริศนาอยู่ที่ท้ายวัง จนพากันหวาดกลัวไปกันใหญ่ นางเภาจึงเกิดความคิดที่จะพาพี่สาวของเธอหนีออกมาจากเมืองๆ นี้ โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากเทวดา นางเภาและพี่สาวทั้ง 11 คนของเธอจึงหนีออกมาจากเมืองยักษ์ได้สำเร็จ!
 
นางเภาได้พาพี่สาวทั้ง 11 คนเดินทางมาถึงเมืองกุตลนครที่มี ‘ท้าวรถสิทธิ์’ เป็นผู้ปกครองเมืองอยู่ในขณะนั้น เมื่อท้าวรถสิทธิ์ได้เห็นนางทั้งสิบสองคนก็เกิดความรักใคร่ขึ้นมา โดยเฉพาะนางเภา ท้าวรถสิทธิ์เลยแต่งตั้งนางทั้งสิบสองเป็นมเหสี และอยู่กินด้วยกันจนกระทั่งนางทั้งสิบสองตั้งครรภ์ ซึ่งเรื่องราวที่ดูเหมือนจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง กลับไม่เป็นเช่นกัน เพราะทางด้านนางยักษ์สันตรานั้นโกรธมาก ที่ถูกเด็กสาวทั้ง 12 คนที่ตนประคบประหงมมาอย่างดี กลับทรยศหักหลังเธอได้ถึงขนาดนี้! นางเลยใช้มนต์วิเศษส่องดูภาพของนางทั้งสิบสองคนผ่านทางกระจก นางสันตราจึงได้พบว่าในเวลานี้นางทั้งสิบสองนั้นอยู่ที่เมืองกุตลนคร แถมยังได้เป็นมเหสีของท้าวรถสิทธิ์ นางเลยตามไปถึงเมืองกุตลนครและได้พบกับท้าวรถสิทธิ์ นางยักษ์สันตราจึงเป่ามนต์สะกดให้ท้าวรถสิทธิ์เกิดความรักใคร่และแต่งตั้งให้ตนให้เป็นมเหสีเอกแทน เมื่อนางสิบสองรู้ว่ามเหสีเอกคนใหม่ของท้าวรถสิทธิ์นั้นเป็นนางยักษ์สันตรา พวกนางเลยต่างพากันตกใจกลัว
 
เมื่อนางสันตรารู้ดังนั้นจึงเป่ามนต์ให้ท้าวรถสิทธิ์เกลียดนางทั้งสิบสอง แถมยังสั่งให้ทหารพาตัวนางทั้งสิบสองไปขังไว้ในถ้ำอีกต่างหาก แต่นางยักษ์สันตรายังไม่หยุดแค้น นางจึงออกอุบายว่าตนป่วยเป็นโรคประหลาด และบอกกับท้าวรถสิทธิ์ว่าต้องใช้ลูกตาของนางทั้งสิบสองมาทำยากินถึงจะหาย ท้าวรถสิทธิ์ซึ่งกำลังถูกมนต์สะกดอยู่ดันหลงเชื่อจึงสั่งให้ควักลูกตาของนางทั้งสิบสองคนออกมา โดยนางยักษ์ได้สั่งให้วิรุฬและจำบัง สมุนเอกของตนรับหน้าที่นี้ เมื่อมาถึงถ้ำทั้งสองตนได้ควักลูกตานางสิบสองโดยเรียงลำดับจากพี่โตสุดไปยังน้องเล็กสุด เว้นแต่นางเภาที่โดนควักลูกตาออกไปเพียงข้างเดียว วิรุฬและจำบังจึงนำลูกตาของนางทั้งสิบสองใส่โถไปถวายนางยักษ์สันตราต่อไป


 

 
นี่อาจเป็นเพราะเวรกรรมของนางทั้งสิบสองที่ตอนเด็กนั้นเคยควักลูกตาปลาออกมาเล่นกัน มีแต่นางเภาที่ควักออกมาเพียงแค่ข้างเดียว จึงทำให้นางไม่โดนควักลูกตาทั้ง 2 ข้างออกไป หลังจากนั้นมานางทั้งสิบสองต้องทนทุกข์ทรมานทั้งปวดตาและทั้งท้องแก่จวนจะใกล้คลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไป พี่สาวรวมถึงนางเภาก็ได้คลอดลูกออกมา แต่โชคร้ายที่ลูกๆ ของบรรดาพี่สาวของนางเภาได้ตายกันไปหมด ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากความอดอยาก พวกนางจึงกินลูกของตัวเอง เหลือเพียงแต่นางเภาที่ให้กำเนิดพระโอรสก่อนจะตั้งชื่อให้ว่า ‘รถเสน’ ที่กลายเป็นตัวละครเอกในวรรณคดีพื้นบ้านเรื่องพระรถ-เมรีต่อไป…

 

 

ถือว่าเป็นวรรณคดีพื้นบ้านที่สนุก แถมยังมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ อ่านแล้วทำให้รู้ซึ้งถึงเรื่องกฏแห่งกรรมได้เป็นอย่างดี เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินกันมาว่า ‘กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง’ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตราบใดที่เรามีชีวิตรอดมาได้ เราก็ต้องใช้ชีวิตหลังจากนั้นให้ดีที่สุด เหมือนอย่างนางเภาที่คอยดูแลพี่ๆ ดูแลลูกของเธอต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับผลกรรม แต่เธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ผลกรรมเหล่านั้นมาทำร้ายตัวเอง แถมยังเดินหน้าสู้ต่อ ไปพร้อมๆ กับเหล่าพี่สาวรวมถึงลูกน้อยของเธอ ซึ่งพี่เชื่อว่าวรรณคดีเรื่องนี้เป็นที่รู้จักและเป็นที่พูดถึงกันอยู่แล้ว น้องๆ หลายคนคงจะทันดูการ์ตูน ทันดูละครจักรๆ วงศ์ๆ กันมาก่อน (ซึ่งพี่เองก็เคยเหมือนกัน) หวังว่าบทความในวันนี้จะทำให้น้องๆ ทุกคนได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตดีๆ กลับไป และที่สำคัญอย่าลืมส่งกำลังใจให้ทีมหมูป่ากันด้วยนะจ๊ะ

 
พี่นัทตี้ :)


ขอบคุณภาพประกอบจาก
https://teen.mthai.com 
https://tv.line.me 


 
พี่นัทตี้
พี่นัทตี้ - Columnist บุคคลผู้เสพติดการดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด