คนดังเขาอ่านอะไร?
ชวนส่องหนังสือ 6 เล่มที่เอ็มม่า โรเบิร์ตชอบอ่าน
สวัสดีน้องๆ นักอ่านทุกคนค่ะ “เอ็มม่า โรเบิร์ต” เป็นหนึ่งในนักแสดงมากฝีมือที่คนส่วนใหญ่รู้จักเธอผ่านผลงานภาพยนตร์อย่าง Wild Child คุณหนูไฮโซ เปรี้ยวซ่าเกินร้อย, Scream 4 หวีด แหกกฏ, We're the Millers มิลเลอร์ มิลรั่ว ครอบครัวกำมะลอ หรือจะเป็นทีวีซีรีส์ชื่อดังอย่าง Scream Queen และ American Horror Story เองก็ตาม แต่ใครจะไปรู้ ว่านอกจากผลงานการแสดงแล้ว สาวเอ็มม่าของเรายังเป็นหนอนหนังสือที่รักการอ่านหนังสือเอามากๆ เลยด้วย
ในปี 2017 เอ็มม่ากับเพื่อนสนิทได้ก่อตั้ง Platform ที่ชื่อว่า Belletrist โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจะให้เป็นสังคมแห่งการพบปะกันของหนอนหนังสือจากทั่วทุกมุมโลก โดยเอ็มม่าได้มีส่วนร่วมในคอลัมน์ Belle Letter ที่จะมีการหยิบยกเอาหนังสือที่น่าสนใจมาบอกต่อ เชิญชวนให้หนอนหนังสือคนอื่นๆ ไปตามอ่านกัน แถมยังจะมีบทสัมภาษณ์ให้เราได้อ่านเป็นพักๆ แต่ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่พี่ลองเข้าไปสอดส่องดูแล้ว พี่ก็พบว่าเป็น Platform ที่คอหนังสืออย่างเราห้ามพลาดเลยทีเดียว
พูดคุยกันถึงสาวเอ็มม่า โรเบิร์ตกันพอหอมปาก หอมคอ เชื่อว่าตอนนี้น้องๆ ทุกคนคงอยากจะรู้กันแล้วว่าหนังสือ 6 เล่มที่เอ็มม่า โรเบิร์ตชอบอ่านนั้นจะมีเล่มไหน เรื่องอะไรกันบ้าง ถ้างั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เลื่อนลงไปอ่านต่อกันได้เลย…
Story of My Life โดย Jay McInerney
เอ็มม่า โรเบิร์ตเล่าว่า เธออ่านหนังสือเล่มนี้ในสมัยตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งความพิเศษของมันก็คือบทสนทนาที่ยาวยืด แต่ถึงแม้ว่าจะยาวแต่มันกลับแอบแฝงไปด้วยความตลก ทำให้เธอขำออกมาเสียงดังอยู่หลายครั้ง นอกจากความตลกแล้ว เนื้อหาก็ยังแอบมีความดาร์กๆ ปนอยู่ แถมเอ็มม่ายังกล่าวชื่นชมนักเขียนอย่างเจย์ ที่สามารถสร้างสรรค์บทสนทนาของผู้หญิงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ จนบางครั้งมันก็เนียนเกินไปจนทำให้เธอลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอกำลังอ่านผลงานของนักเขียนผู้ชายอยู่!
Stay With Me โดย Ayobami Adebayo
หนังสือเล่มนี้เคยถูกนำมาขึ้นในคอลัมน์แนะนำหนังสือที่ Belletrist มาแล้ว ซึ่งคนที่แนะนำก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ก็คือ เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยาคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไนจีเรีย ความรัก, การสูญเสีย และการทวงคืน เป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ จนกลายเป็นที่พูดถึงอยู่พักใหญ่ๆ เลย
The Light We Lost โดย Jill Santopolo
The Light We Lost เป็นมหากาพย์ของความรักที่เอ็มม่าใช้เวลาอ่านถึง 3 วัน! เพราะเธอไม่สามารถวางมันลงได้เลย คิดดูว่าเธอยอมยกเลิกนัดเพื่อนเพื่อใช้เวลาในการอ่านหนังสือเล่มนี้ แถมเธอยังบอกอีกด้วยว่า หนังสือเล่มนี้เป็นอะไรที่ดีมากกว่าดีมากซะอีก เพราะฉะนั้นจงไปตามหามาอ่านกันซะ!
The Hours โดย Michael Cunningham
หนึ่งในหนังสือเล่มโปรดตลอดกาลของคาร่า เพื่อนสนิทของเธอ โดยหนังสือเล่มนี้ได้ทำให้เธอนึกถึงผลงานสุดคลาสสิกของ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ ที่เล่าถึงผู้หญิง 2 คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอเมริกา แต่ทว่าต่างเวลากัน (ออกแนวโลกคู่ขนาน) ซึ่งมันเป็นอะไรที่สนุกมาก และจะสนุกมากกว่านี้ถ้าหากเราหยิบมันขึ้นมาอ่านตอนเลิกเรียน ส่วนเหตุผลนั้นคืออะไร ทำไมต้องตอนเลิกเรียน อันนี้น้องๆ ทุกคนต้องไปหาคำตอบในเล่มกันนะจ๊ะ
Affections โดย Rodrigo Hasbun
หนังสือของ Hasbún เล่มนี้จะพาเราเดินทางไปสู่โลกแห่งสีสันของครอบครัวๆ หนึ่งในโบลิเวีย ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างยุค 50 และ 60 ซึ่งความสนุกของมันจะทำให้เรานั่งติดเก้าอี้ ไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน เพราะมันควรค่าแก่การอ่านจริงๆ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวนักอ่าน เป็นอะไรที่เหมาะสุดๆ เพราะตัวละครในหนังสือเล่มนี้ล้วนขนมาหมดทั้งครอบครัว แถมเรื่องราวยังข้องเกี่ยวกัน จนเราไม่สามารถที่จะหยุดอ่านมันได้เลย
Rebecca โดย Daphne Du Maurier
หนังสือระดับตำนาน ที่พี่นัทตี้หยิบมาพูดถึงบ่อยมาก โดยสาวเอ็มม่า ได้ให้คำนิยามสั้นๆ เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ว่า หนังสือเล่มนี้เป็นต้นฉบับของ Gone Girl ยุคนี้ แต่ด้วยกลิ่นอายของความกอธิตนิดๆ ให้บรรยากาศคลาสสิกหน่อยๆ ช่างเหมาะกับการพกไปอ่านนอกบ้านเสียจริงๆ เอ็มม่า โรเบิร์ตยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า คงเป็นอะไรที่บ้าเอามากๆ ถ้าหากฉันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้!
ไม่รู้ว่าคนชื่อเอ็มม่านั้นเป็นอะไรกับการอ่านนักหนา เพราะนอกจากเอ็มม่า โรเบิร์ตแล้วยังมี เอ็มม่า วัตสันอีกคนที่ชื่นชอบอ่านหนังสือเอามากๆ ต้องนับถือใจจริงๆ เพราะแต่ละคนตารางงานต่างก็ยุ่งกันทั้งคู่ ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงสามารถหาเวลามาอ่านหนังสือกันได้อยู่ ไอดอลเลยนะเนี่ย โดยหนังสือแต่ละเล่มที่เธอแนะนำนั้นก็น่าสนใจ น่าตามเก็บมาก (แต่สำหรับพี่ ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นหนังสือภาษาอังกฤษแล้ว ไม่มีทางว่าจะอ่านจบได้ง่ายๆ แน่นอน ฮือ) หวังว่าบทความที่พี่นำมาฝากในวันนี้คงจะถูกใจน้องๆ ทุกคนกัน ไว้เรามาเจอกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้พี่ต้องไปแล้ว บ๊ายบายจ้า
พี่นัทตี้ :)
ขอบคุณแหล่งที่มาและภาพประกอบจาก
https://www.refinery29.com
https://belletrist.com/
https://www.allure.com
https://www.marieclaire.com
2 ความคิดเห็น
เรื่องสุดท้าย Rebecca น่าอ่านมากเลย :D
ไปดูภาษามา บรรยายแบบบุคคลที่หนึ่ง อ่านไม่ยากมากด้วยฮะ
ขอบคุณสำหรับบทความแนะนำหนังสือดีๆแบบนะฮํบ
เย้ๆ ดีใจที่ชอบนะคะ Rebecca น่าอ่านตรงที่มีความเป็น Gone Girl นี่แหละ คงจะซับซ้อน หลอกคนอ่านน่าดู
ขอบคุณ