วินนี่เดอะพูห์ฉบับแคนาดา
เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหมีก่อให้เกิดมิตรภาพอันน่าประทับใจ!
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 92 ปีของ Winnie the Pooh ตัวละครหมีสุดน่ารักในหนังสือวินนี่เดอะพูห์ ที่สร้างขึ้นโดยเอ. เอ. มิลน์ แต่น้องๆ ทุกคนรู้กันหรือเปล่าจ๊ะ ว่าตัวละครวินนี่เดอะพูห์นี้มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในประเทศแคนาดา จนเอ. เอ. มิลน์ต้องขอบคุณทหารชาวแคนาดาที่ชื่อว่า แฮรี่ โคเลบรอน ที่สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรื่องวินนี่เดอะพูห์นี้ให้กับเขา
ครั้งแรกที่แฮรี่พบกับวินนี่
ทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นที่ไวท์ริเวอร์ รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ในตอนนั้นแฮรี่กำลังเดินอยู่แถวๆ สถานีรถไฟซึ่งเขาได้ไปเจอกับพ่อค้าที่กำลังขายลูกหมีอยู่ที่ทางเข้าสถานี ด้วยความสงสาร เขาเลยตัดสินใจซื้อลูกหมีตัวน้อยมาในราคา 20 เหรียญ โดยเขาได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า "วินนิเพกแบร์" (มาจากชื่อเมืองเกิดของเขาอย่าง วินนีเพ็ก) ซึ่ง “วินนี่” ได้กลายเป็นชื่อจริงๆ ของลูกหมีตัวนั้นในภายหลัง หลังจากเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ แฮรี่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังควิเบกเพื่อเข้าร่วมกับเพื่อนทหารนายอื่นๆ ในการเดินทางออกไปทำสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในตอนนั้น ซึ่งใครจะไปรู้ว่า แฮรี่ได้พาวินนี่เดินทางไปกับเขาด้วย และเขากับแฮรี่ก็ได้เผชิญเรื่องอันน่าตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันจนกระทั่งสงครามจบลงที่ประเทศอังกฤษ
ออกเดินทางไปด้วยกัน
ที่ประเทศอังกฤษ วินนี่ได้กลายเป็นตัวนำโชคให้กับกองพันทหารของแคนาดา โดยวินนี่ได้รับเกียรติให้เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมที่ได้รับความเอ็นดูจากนายทหารคนอื่นๆ อยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อกองพลทหารราบที่ 2 ของแคนาดาได้รับคำสั่งด่วนให้ออกเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้แฮรี่ไม่สามารถพาวินนี่ออกเดินทางไปพร้อมกับเขาได้ ดังนั้นแฮรี่จึงตัดสินใจว่าจะฝากฝังวินนี่ไว้ที่สวนสัตว์ลอนดอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำใจสำหรับเขา เพราะเขานั้นรู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับวินนี่เป็นอันต้องจบลงอย่างถาวรแน่นอน
สวนสัตว์ลอนดอน และ วินนี่เดอะพูห์
ที่สวนสัตว์ลอนดอนนั้น วินนี่ไม่ได้เป็นเพียงที่รัก แต่มันยังเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของสวนสัตว์ในช่วงเวลานั้น และความใจดีและคุ้นชินกับมนุษย์ของมันเลยทำให้เด็กๆ สามารถขี่หลังของมันได้ และนอกจากจะมาเยี่ยมชมแล้ว เด็กๆ ยังสามารถให้อาหาร ที่ไม่ใช่น้ำผึ้งอย่างที่เราเข้าใจ แต่เป็นน้ำเชื่อมข้าวโพดและนมข้นแสนหวานของโปรดของมันได้อีกด้วย! ซึ่งหนึ่งในผู้เข้าชมความน่ารักของวินนี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากเป็นเอ. เอ. มิลน์ กับลูกชายอย่างคริสโตเฟอร์ โรบินนั่นไงจ๊ะ!
วินนี่เดอะพูห์และผองเพื่อน!
หลังจากได้รับแรงบันดาลใจมาจาก วินนี่ เลยทำให้ เอ. เอ. มิลน์ตัดสินใจออกหนังสือที่มีชื่อว่า วินนี่เดอะพูห์ ในวันที่ 14 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1926 ขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะมีตัวละครของหมีอย่างพูห์แล้ว ยังมีพิกเล็ต, อียอร์ และแคงก้า ส่วนบรรดาของเล่นที่ปรากฎอยู่ในหนังสือก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากของเล่นในชีวิตจริงของคริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชายของเขา ส่วนตัวละครตัวอื่นๆ อย่าง นกฮูก, กระต่าย และทิกเกอร์นั้นได้ออกมาทักทายนักอ่านในหนังสือภาคต่อของวินนี่เดอะพูห์เล่มแรก โดยใช้ชื่อว่า The House at Pooh Corner
และหลังจากที่กลายมาเป็นตัวละครในหนังสือแล้ว วินนี่ หมีน้อยประจำสวนสัตว์ลอนดอนก็ได้รับความรักไม่แพ้กับวินนี่เดอะพูห์เลย แถมความรักที่คนมอบให้วินนี่ส่วนหนึ่งก็ได้มาจากบรรดานักอ่านที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ประเทศๆ เดียว แต่มันยังถูกแปลออกไปในหลายๆ ภาษาเลยแหละ!
เราจะเห็นได้ว่าความรักระหว่างคนกับสัตว์นั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ความรักระหว่างคนด้วยกันเองเลยนะ เพราะสัตว์มันก็มีหัวจิตหัวใจเช่นเดียวกันกับมนุษย์เรา แถมบางทีอาจจะอ่อนไหว และบอบบางมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าน้องๆ มีโอกาสได้เลี้ยงสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งแล้ว ก็ได้โปรดอย่าทอดทิ้ง ทำร้ายจนมันต้องบาดเจ็บ หรือทำให้มันต้องทุกข์ทรมานกันเลยนะจ๊ะ และพี่ก็หวังว่าบทความในวันนี้จะมอบความสุขและความเพลิดเพลินให้กับนักอ่านทุกคนกัน ไว้เรากลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีจ้ะ
พี่นัทตี้
แหล่งที่มา
https://www.cbc.ca/kidscbc2/the-feed/the-real-life-canadian-story-of-winnie-the-pooh
https://s.telegraph.co.uk/graphics/projects/winnie-the-pooh-real-story-AA-Milnes/index.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0-%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B9%8C
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ