สวัสดีค่ะชาว Dek-D เชื่อว่าหลายๆ คนที่เป็นสาวกหนัง/ซีรีส์แนว High School ของฝั่งอเมริกา อาจมีความคิดแว่บขึ้นมาบ้างว่าอยากใช้ชีวิตแบบนั้นดูสักครั้ง จะได้รู้ว่าชีวิตในคลาส การคบเพื่อน และกิจกรรมในโรงเรียน มันสนุกและน่าตื่นเต้นเหมือนในหนังรึเปล่า?
และเมื่อไม่กี่วันก่อน เราได้คุยกับว่าที่เด็กนิเทศศิลป์ลาดกระบังคนนึงที่ละทิ้งความไม่มั่นใจ แล้วไปหาคำตอบเหล่านั้นด้วยตัวเองตอน ม.4 ซึ่งเธอคือ 1 ในคนที่เจอประสบการณ์ดีงามมากจากการแลกเปลี่ยน! ทั้งได้เรียนสิ่งที่ชอบเต็มที่ (เรียนวิทย์-คณิต แต่ควบวิชา art เพียบ) คนรอบข้างดี เที่ยวสถานที่ในฝัน และซึมซับบรรยากาศของเทศกาลแสนอบอุ่น ทั้งหมดนี้ไม่ต่างจากที่เธอเห็นในหนังเลยค่ะ
เพราะช่วงเวลาเกือบ 1 ปี
อาจทำให้เราเหมือนโตขึ้น 2-3 ปี
“สวัสดีค่า ชื่อ ‘วิป’ นิพินธร ธนเมธี อายุ 18 ปี เรียนสายวิทย์-คณิตที่ รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี ตอนนี้ใกล้จบ ม.6 แล้วค่ะ หนูเคยไปแลกเปลี่ยนที่ Windsor High School รัฐแคโรไลนา (Carolina) ในอเมริกาช่วง ม.4 เทอม 2 แล้วกลับตอน ม.5 เทอม 1 ช่วงนั้นวิปชอบศิลปินฝั่งอเมริกามากๆ แล้วรู้สึกว่าไฮสคูลที่นั่นดูเท่ดีเนอะ อยากลองไปสักครั้งจัง แต่ไม่ได้คิดต่อเพราะไม่มั่นใจที่จะทำอะไรนอกกรอบค่ะ ตอนนั้นเราก็เพิ่งอายุ 14-15 เอง แถมห่างบ้านตั้ง 10 เดือนแน่ะ"
"แต่สุดท้ายเพื่อนที่อยากไปเหมือนกันก็พูดจนเรากล้าขึ้น เรื่องภาษาถ้าดูจากคะแนน O-NET คงพอไหว มีเรียนอิ๊งเพิ่มตอนประถม และเรียนอยู่โรงเรียนสองภาษาด้วย กลายเป็นความคิดว่า ถ้าอายุ 15 แล้วได้ไปอเมริกาคงจะเจ๋งดีเนอะ ไปแค่ปีเดียวอาจเหมือนโตมา 2-3 ปีเลยก็ได้ เลยตัดสินใจสมัครโครงการแลกเปลี่ยนค่ะ ^^"
ช่วงแคมป์ปรับตัวก่อนเรียน
เปิดโลกทั้งที่เที่ยว & แฟชัน
“รัฐแคโรไลนาที่วิปไปจะเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักและปลอดภัยมาก อยู่ในชนบท เพื่อนบ้านสนิทกัน ถ้าช่วงวันสำคัญจะมีปาร์ตี้หรือคอนเสิร์ตตลอด ตอนเช้าตื่นมาก็เห็นภูเขา Rocky แต่จะมีก็แต่ปัญหาเรื่องอากาศที่แดดร้อนแบบแห้ง ซึ่งต่างจากไทยค่ะ มันจะทำให้แสบๆ ผิว ต้องทาโลชันเช้าเย็นและใส่แขนยาวตลอดเลย”
"ก่อนเริ่มเรียนหนูมีลงแคมป์ปรับตัวและปรับพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับอเมริกา ในแคมป์ก็มีเพื่อนๆ จากเยอรมัน สวีเดน เดนมาร์ก ฯลฯ ส่วนเมืองที่ได้ไปตอนนั้นคือนิวยอร์ก (New York) ค่ะ ในทริปจะมีพาไปหลายที่ดังๆ อย่างพวก Grand Central Terminal, Manhattan ฯลฯ เรามีโฮมซิกช่วงแรกเพราะนิวยอร์กเป็นเมืองที่ใหญ่มากกก แต่เที่ยวจนหายเศร้า เพื่อนก็คอยปลอบด้วย เขาน่ารักกันมากจริงๆ 555"
"ส่วนจุดที่ประทับใจสุดยกให้ New York Times Square เลยค่ะ เพราะเป็นเมืองคนทำงานที่มีแต่แหล่งการค้า เขาเลยแข่งจัดสถานที่แบบจัดเต็ม คนก็แต่งตัวแฟชันจ๋า ทำให้บรรยากาศตรงนั้นครึกคื้นมากๆ"
ลงวิชาได้ตามใจชอบ
และเมกเฟรนด์ทุกคลาส
"การเรียนที่นั่นให้อิสระมากๆ ลงเรียนได้ตามที่ชอบเลย วิปเองลงเรียนวิชาที่อยากเรียนไปทั้งหมด 8 ตัว เรียนวันละ 4 วิชา คาบละ 2 ชม. เลิกเรียนตอนบ่าย 3 ค่ะ หลักๆ มีวิชา Math, Biology, Japanese, Drawing, Painting, Fashion Design, Photography และ Mythology"
"ถ้าเป็นคลาสภาษาญี่ปุ่นจะสอนประโยคพื้นฐานกับโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน เช่น การทักทาย วันเวลา ฤดูกาล ฯลฯ ส่วนคลาสเลขกับชีวะ วิปเจอเนื้อหาที่เรียนผ่านมาแล้วตอนอยู่ไทย ทำให้สบายๆ ทีนี้ด้วยความที่ทำงานในคาบเสร็จไว เพื่อนๆ เลยมองด้วยความว้าว แต่วิปโดนกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มนึงหมั่นไส้ แกล้งแซะๆ แนวเหยียดให้เราได้ยิน แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนผู้หญิงคนนึงซึ่งเป็นคนอเมริกันเขาเดือดแทนเรา จนครูถึงกับต้องเข้ามาห้าม"
"ถึงจะเจอเหตุการณ์นี้ แต่ส่วนใหญ่เพื่อนที่นั่นน่ารักมากๆ วันแรกที่วิปแนะนำตัวว่าเป็นเด็กแลกเปลี่ยน ภาษายังไม่เป๊ะ เพื่อนๆ เขาก็เอ่ยปากว่าจะช่วยเราเต็มที่ แล้วอยากเล่าว่าตอนอยู่ไทย วิปไม่ใช่คนที่กล้าเข้าหาคนอื่นก่อนเลยนะ แต่พอมาที่นี่กลายเป็นเมกเฟรนด์ทุกคลาส ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีเพื่อน 555 (โครงการฯ แนะนำว่าอาจเอาของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปให้เพื่อนด้วยก็ได้ค่ะ)"
ลงมือทำ + เก็บเทคนิคในคลาสอาร์ต
ได้งานใส่พอร์ตยื่นมหา'ลัย
ถ้าถามถึงคลาสชอบมากที่สุดในการมาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ คำตอบของสาวนักวาดแฟนอาร์ตอย่างเธอคงหนีไม่พ้น Drawing, Painting, Fashion Design และ Photography ซึ่งดีงามทั้งวิธีสอนและครูผู้สอนเลยค่ะ เธอเล่าให้ฟังว่า "แต่ละคาบครูจะฉายโปรเจกเตอร์ให้เรียนทฤษฎีก่อน ยกตัวอย่างประเภทงานนั้นๆ แล้วให้เราลงมือทำ ตอนอยู่ไทยวิปเคยเรียนแค่ทฤษฎี อย่างเช่นสีน้ำมันก็รู้แค่ว่ามันเรียกแบบนี้นะ แต่ไม่เคยเห็นหน้าตา ผลงานออกมาแบบไหนก็ไม่รู้ แต่พอมาที่นี่ได้ลงมือทำจริง ถ้าอยากเล่นสีอะไรบอกได้เลย อุปกรณ์มีพร้อมให้ใช้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และที่ประทับใจอีกอย่างคืออาจารย์ เขาใส่ใจมากๆ คอยสังเกตว่าเราเข้าใจมั้ย ถ้าเราฟังไม่รู้เรื่องก็จะอธิบายพวกศัพท์ยากๆ ให้เป็นภาษาพูดแบบง่ายๆ ตลอดเลยค่ะ ^^"
"สิ่งที่เรียนมาทำให้วิปได้เทคนิคมาต่อยอดใช้จริงถึงทุกวันนี้ แม้กระทั่งตอนจะเข้ามหา'ลัย เรายังมีชิ้นงานเยอะมากไปใส่ลง Portfolio ที่ไปใช้ยื่นนิเทศศิลป์บางมดและลาดกระบัง หรืออย่างตอนสอบปฏิบัติของบางมด วิปก็เจอโจทย์ที่ให้ใช้เทคนิคที่เคยเรียนตอนไปแลกเปลี่ยน ช่วยชีวิตมากๆ เลย"

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120
“วิชาแฟชันดีไซน์ก็น่าสนใจมากก ตอนแรกเห็นชื่อก็อยากเรียนแล้วค่ะ เรียนตั้งแต่การใช้จักร การเย็บผ้า ช่วงแรกคือเหนื่อยมากก ไม่เคยทำมาก่อน ทำไม่เป็นเลย สุดท้ายผ่านมาได้แถมมีผลงานใส่พอร์ต งานที่ทำได้ก็มีชุด recycle ซึ่งใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่ทำแล้วทิ้ง ส่วนวิชาถ่ายภาพ ครูก็ใจดีเหมือนกัน เขามีพาไปทัศนศึกษาให้เราได้ถ่ายสถานที่จริง บางคาบเขาก็พาเดินรอบโรงเรียน สอนใช้ photoshop ด้วย ใช้เทคนิคนั่นนี่ edit ภาพ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เราเอามาใช้กับงานวาดได้”
“ถ้าให้รีวิววิชายากสุด คือวรรณกรรม (Literature) ที่ถึงกับต้องถอนเลยค่ะ T_T รองลงมาก็คือ ประวัติศาสตร์อเมริกา ครูสอนสนุก + ใช้วิธีเปิดคลิปประกอบ ทำให้วิปสนใจทุกเรื่องจนมาหาข้อมูลต่อเลยค่ะ หลายคนอาจคิดว่าครูต้องเนิร์ดๆ ใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ เขาเป็นผู้ชายติสต์ๆ สนิทกับเด็ก ตอนคิดถึงบ้านแล้วร้องไห้ในคาบ ก็มีเดินมาให้กำลังใจด้วย”
ห้องฮีลใจของนักเรียนซึมเศร้า
เล่าสู่กันฟังบนกระดานดำ
“นอกจากเรื่องเรียน วิปประทับใจตรงที่โรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตมากๆ ตอนนั้นหนูอยู่โหมดโฮมซิก คิดถึงเพื่อน พ่อแม่ กับอาหารไทยพอดี แล้วเขามีจัดกิจกรรมแจกการ์ดสายด่วนจิตแพทย์ ลูกอม พร้อมกระดาษ 2 แผ่น แผ่นนึงเขียน quote ดีๆ กับอีกแผ่นนึง แบ่งเป็นหน้า-หลัง หน้านึงให้เขียนเรื่องที่มีความสุข อีกหน้าเขียนเรื่องทุกข์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราก็ต้องรักตัวเองนะ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องคอยยิ้มเพื่อปิดบังเรื่องแย่ๆ ในชีวิตก็ได้”
“แล้วน่าสนใจตรงที่เขามีห้องไว้ให้นักเรียนที่เป็นซึมเศร้าเข้ามาเล่นได้ มีทั้งของเล่นกับบอร์ดให้เขียนระบายว่าวันนี้ไปเจออะไรมา จากนั้นก็จะมีคนมาเขียนตอบ เช่น 'อย่าเศร้านะ เราเป็นกำลังใจให้' มีครั้งนึงหนูเคยไปวาดรูปทิ้งไว้บนบอร์ด แล้วเขียนว่า ‘วันนี้คุณยิ้มรึยัง’ เพราะหวังว่าคนที่มาเห็นจะยิ้มและได้กำลังใจเล็กๆ จากเรา"
บรรยากาศเทศกาลที่เหมือนฝัน
ในวันฮาโลวีน & คริสต์มาส
หนึ่งในพาร์ตประทับใจสำหรับเด็กแลกเปลี่ยนคือการสัมผัสกลิ่นอายในวันสำคัญของฝรั่งนั่นเองค่ะ เธอเล่าบรรยากาศสนุกๆ ให้ฟังว่า “ในวันฮาโลวีนจะไม่ได้มีแค่เคาะประตูขอขนม แต่ที่โรงเรียนจะกำหนดมาเลยว่าใน 5 วัน นักเรียนต้องแต่งตัวธีมไหน เช่น วันที่ 1 ใส่ชุดนอน วันต่อมาใส่ตามสีที่กำหนด อีกวันแต่งอะไรก็ได้ให้ต่างจากเดิม เช่น ถ้าเคยมัดผมมาตลอด ก็ต้องปล่อยผม ถ้าเคยใส่กางเกง ก็เปลี่ยนมาเป็นกระโปรง”
“หรืออย่างคริสต์มาสก็จะมีจุดพลุ ร้องเพลงคริสต์มาสด้วยกัน นั่งรถเลื่อนทัวร์รอบเมือง ปิ้งมาร์ชเมลโล รวมตัวที่บ้านใครสักคนแล้วดินเนอร์ ทำอาหาร กินขนม เล่นบอร์ดเกม ดูหนัง แล้วจับของขวัญ แล้วอีกสิ่งนึงที่ได้ทำที่นั่นก็คือเล่นสกีค่ะ ตอนแรกคือกลัวมาก อยากร้องไห้ เคยชนต้นไม้เพราะหยุดไม่เป็น หงอยเลยตอนนั้น เพราะเล่นไม่ได้เหมือนคนอื่น TT”
“นอกจากนี้โรงเรียนจะมีวัน International Day พรีเซนต์ประเทศให้เด็กประถมฟัง หนูตั้งใจเตรียมสไลด์อย่างดีและหาเรื่องที่เด็กฟังแล้วจะไม่เบื่อ เช่น ชื่อเมืองหลวงที่ยาวที่สุดในโลก กิจกรรมแปรสแตนด์ในโรงเรียนไทย ประเพณีสงกรานต์ (เอาคลิปฝรั่งที่เล่นน้ำในไทยมาเปิดให้ดู) แล้วมีสอนคำง่ายๆ ในภาษาไทยด้วย เช่น สวัสดี ขอบคุณ ฯลฯ หนูแปลกใจมากที่ตัวเองพูดลื่นไหล ยิ้มจนเด็กยิ้มตาม 5555 ที่น่ารักสุดคือเราต้องใส่ชุดไทยพรีเซนต์ พอสอนแล้วแฮปปี้ก็เริ่มคิดๆ แล้วว่าอยากเปิดเวิร์กชอปสีน้ำจัง เรียนไปเมาท์ไปต้องสนุกแน่ๆ”

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120
Work Hard, Play Hard
and Travel hardest!
“ตอนอยู่ที่นู่นนวิปเที่ยวเยอะมาก ตอนเรียนเราได้ไปแค่ South Carolina กับ New York แต่ช่วงใกล้ๆ จะกลับ คุณแม่มาหาที่นี่ แล้วมีคนรู้จักพาเที่ยวค่ะ วิปได้ไป Arizona เที่ยวเมืองคาวบอย และขึ้นไปจุดสูงสุดของแกรนด์แคนยอน ตอนนั้นรู้สึกภูมิใจมากยังกับได้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรส 555"
“ส่วน Las Vegas เมืองนี้ชอบมาก เลิฟเลย ทวิปได้พักโรงแรมที่ตกแต่งสไตล์ Paris ทั้งเมืองคนแต่งตัวแฟนซีจ๋า เจอศิลปะทั้งเมือง ถ่ายรูปสวยทุกมุม แล้วที่ดีใจมากคือได้ไป SeaWorld ที่ San Diego ค่ะ เพราะหนูชอบดูสารคดีสัตว์น้ำมากๆ”

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120
“สรุปว่าผลจากการกล้าออกจาก safezone ครั้งนี้มันเกินคุ้ม พอกลับมาแล้วไม่ใช่ได้แค่ความรู้และทักษะ แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม เปิดมุมมองใหม่ๆ มันเหมือนเราได้ปลดล็อกอะไรบางอย่าง ทำให้มั่นใจและเป็นตัวของตัวเองขึ้น ฟรีได้แต่ไม่แหกกฎ รู้วิธีจัดการเวลาและดูแลตัวเองดีขึ้นกว่าเดิม มันคือความรู้สึกที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ"
“สิ่งที่วิปอยากแนะนำคนที่ไปแลกเปลี่ยนคือ ให้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับตัวเอง เพราะเสียเงินแล้วเราจะกลับมามือเปล่าไม่ได้ สมมติไม่โอเคกับโฮสต์ ก็ให้คุยกับผู้ใหญ่ ไม่ต้องกลัวการเปลี่ยนโฮสต์นะคะ ^^”

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120

Photo Credit: Twitter @vmvida_0120 / IG @vmvida_0120
โอ้โห มั่นใจเลยว่าน้องวิปจะไม่ลืมประสบการณ์ 10 เดือนนี้แน่ๆ เพราะดีงามทั้งวิชาเรียน เพื่อน ครู อยู่ร่วมในเทศกาลสนุกๆ แถมเช็กอินจุดเที่ยวดังๆ เยอะมากกก เอาเป็นว่าถ้าน้องๆ กำลังตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี ก็อาจค่อยๆ เก็บข้อมูล ถามผู้รู้เกี่ยวกับเมืองที่จะไป แล้วค่อยตัดสินใจก็ไ้ดนะคะ และหากใครอยากรู้จักสาวเจ้าของประสบการณ์เรื่องนี้ ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ ‘วิป’ เด็ก ม.6 เจ้าของพอร์ตสีหวาน กับชีวิตมุมนักเรียน นักวาด และแฟนคลับ BTS #dek63 หรือเข้าไปติดตามผลงานสดใส made your day ได้ทาง Twitter @vmvida0102 หรือ IG @vmvida0102 ได้เลย มารับพลังบวกกันนะ :)





\








0 ความคิดเห็น