จัดเต็มรีวิวแน่นๆ สำหรับคนอยากเรียนต่อ 'อังกฤษ' (สาขาแพทย์,กฎหมาย,IR,กราฟิก ฯลฯ)

สวัสดีค่ะชาว Dek-D วันนี้ขอรวมบทความที่น่าสนใจมาฝาก #ทีมอังกฤษ บ้าง เพราะประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานการศึกษา คุณภาพชีวิต เสน่ห์ของบ้านเมือง สถานที่ท่องเที่ยว และภาษาอังกฤษสำเนียง British วันนี้เรารวมมาให้ทั้งแนวกฎหมาย, รัฐศาสตร์, แพทย์, ภาษา, แอนิเมชัน, กราฟิกดีไซน์ ฯลฯ และในจำนวนนี้น่าจะมีมหาวิทยาลัยในฝันของใครหลายคนด้วย (ใครสาวกแฮร์รี่พอตเตอร์ มีทัวร์บรรยากาศที่ Cambridge  ด้วยนะคะ) เรามาเริ่มกันเลยค่ะ!

 

1
เด็กทุน ก.ต. เรียนต่อ IR
เล่าประสบการณ์เรียนระบบ A-Level

มาเปิดกันด้วยชีวิตนักเรียนทุนกระทรวงการต่างประเทศ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ระดับป.ตรี – โท)  ที่ประเทศอังกฤษ โดยสาขานี้จะผสมผสานกันทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง และเศรษฐศาสตร์  สำหรับรีวิวนี้จะเล่าตั้งแต่ process การขอทุนและสมัครมหาวิทยาลัย จนถึงพาร์ตปรับพื้นฐาน 3 สัปดาห์และหลักสูตร A-Level ค่ะ เล่าละเอียดชัดเจนเห็นภาพสุดๆ

 

"ตอนแรกขิมก็แอบกังวลเรื่องภาษา เพราะเราไม่เคยเรียนระบบอินเตอร์หรืออีพีมาก่อน แต่ความเป็นจริงคือปรับตัวได้เร็วมากค่ะ ด้วยความที่เราต้องเขียน essay ต้องพูด ต้องใช้อยู่แทบทุกวัน มันเลยค่อยๆ ชินค่อยๆ ซึมซับไปเอง อีกอย่างพอดูเนื้อหาการเรียนแล้ว บอกเลยว่ายากจนลืมความกังวลกับการใช้ภาษาไปเลย"

มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

2
เด็กทุน ก.พ. เรียนม.ปลาย(A-levels) 
ป.ตรี UCL และป.โท LSE

นักเรียนทุน ก.พ.  สาขานโยบายสาธารณะ (Public Policy) ในระดับมัธยมปลาย-ปริญญาตรี-โท ที่อังกฤษ ถ้ารวมระยะเวลาที่ใช้ชีวิตใน London ก็ประมาณ 6 ปีเลยค่ะ  เขาจะเล่าให้ฟังตั้งแต่การปรับตัวภายใต้หลักสูตร A-Levels ที่ต่างจากไทย, การเรียน ป.ตรี  สาขาสหวิทยาการ หรือ Arts and Sciences (BASc)  ที่ University College London (UCL) จุดเด่นคือ ม.นี้เก่าแก่ที่สุดในลอนดอนและคุณภาพการศึกษาติด Top10 ของโลก ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเขายังได้เรียนต่อ ป.โท อีก 1 ปีที่ London School of Economics and Political Science (LSE) ซึ่งเป็นอีกแห่งที่สาขาเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์โดดเด่นในระดับโลกเลยค่ะ

 

"ตัวอย่างวิชาตอนป.ตรีที่พี่ลงเรียนคือ Quantitative Methods, Migration and Health, Macroeconomics, Human Ecology from Geographical Perspective, Comparative Politics, Approaches to Knowledge แล้วยังลงจีนแมนดารินเป็นภาษาที่สามด้วย จะเห็นได้ว่าวิชาเรียนค่อนข้างกระจายไปหลายสาขามาก แต่นี่แหละเป็นจุดประสงค์ของหลักสูตรที่ต้องการให้เราคุ้นชินกับมิติขององค์ความรู้ที่หลากหลายและโลกของการทำงานในอนาคต"

มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

3
เรียนโทกฎหมาย 2 ใบ
อังกฤษ & สกอตแลนด์

เนื่องจากไทยได้นำต้นแบบจากระบบกฎหมายของเมืองนอกมาปรับใช้ บางคนจึงอยากไปศึกษาแบบลงลึกเพื่อเสริมความรู้ในการทำงาน และมองว่าเป็นประโยชน์เวลาต้องดีลกับต่างชาติ ถ้าใครอยากหารีวิวอ่านไว้ประกอบการตัดสินใจ ชวนมาอ่านเรื่องราวของคนไทยที่ไปต่อ ป.โทด้านกฎหมาย 2 ใบในหลักสูตร LL.M.  International Commercial Law University of Glasgow (สกอตแลนด์) และ  LL.M. Intellectual Property Law: Queen Mary University of London (อังกฤษ) กันค่ะ

แน่นอนว่านอกจากเรื่องเรียน ไฮไลต์คือการเทียบให้เห็นความแตกต่างของ 2 เมือง  รวมถึงคุณภาพชีวิตและสวัสดิการสุดดีงามที่เธอบอกเลยว่า เงินที่จ่ายภาษีไป  มันได้กลับมาคุ้มค่าในรูปแบบของสิ่งอำนวยความสะดวกจริงๆ

 

"สุดท้ายแล้วเราว่ามันก็คุ้ม ไม่มีอะไรมาแลกกับประสบการณ์ 2 ปีนั้นได้แล้ว มันสนุก ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และยังพูดอยู่เลยว่า ‘ถ้าเลือกได้ก็ยังอยากกลับไปอีก’ และเรารู้สึกได้อะไรจากการเรียนกฎหมายด้วย มันคือเรื่องสังคมศาสตร์ที่อยู่ใกล้ตัวเรามาตลอด และเปลี่ยนจากเราที่เคย suffer กับกฎหมาย ให้แฮปปี้กับสิ่งที่สอนในคลาสได้ และมีเป้าหมายว่าอยากกลับมาต่อสู้กับระบบเพื่อให้มันดีขึ้นเท่าที่เราจะทำได้"

 มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

4
กระโดดข้ามสาย
จากอักษรสู่วิทย์-คอมพ์ฯ ในนิวคาสเซิล!

เรื่องราวของนักศึกษา ป.โทคณะ Computer Science ใน Newcastle University ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น 'พี่พิซซ่า' อดีตคอลัมนิสต์ข้อมูลแน่นปึ้กแห่งหมวดเรียนต่อนอกนั่นเองค่ะ! ความน่าสนใจคือพี่เขาจบคณะอักษรศาสตร์ในไทย แล้วเลือกเรียนข้ามสายแบบไกลมาก หลักๆ ที่เลือกอังกฤษเพราะหลักสูตร ป.โทที่นั่นเรียน 1 ปี + เป็นสาวก Harry Potter ตัวยง เลยอยากเที่ยวสถานที่ถ่ายทำให้ครบนั่นเองค่ะ ในบทความนี้จะมีแชร์ทั้งมุมการเรียน ความท้าทายของการเรียนข้ามสาย ชีวิตความเป็นอยู่ แถมยังแชร์วิธีหาเงินที่ไม่ใช่ Part-time ด้วยนะคะ เก๋มากจริงๆ

“จริงๆ ถ้าคะแนน IELTS ถึงเกณฑ์คณะ ในแง่ภาษาพี่ว่าเรียนได้อยู่แล้ว แต่ถ้าตัวเนื้อหาเรียน แนะนำให้ดูคอร์สออนไลน์ฟรีที่สอนการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นไปล่วงหน้า นักศึกษาในสาขาที่พี่เรียนมี 20% ที่มีประสบการณ์ทำงานด้านโปรแกรมมิ่ง ส่วนคนที่เคยทำงานด้านอื่นหรือจบสาขาที่ไม่เกี่ยวเลยอย่างพี่เนี่ย มีประมาณ 10% ในชั้น แล้วที่เหลือคือจบตรีสาขาใกล้เคียงที่ไม่ใช่คอมพ์โดยตรง เช่น วิศวะ เลข ฟิสิกส์ ที่ยังต้องใช้ตรรกะค่ะ"

มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

5
เรียนโทและทำงานเป็น 
Animator ในอังกฤษ

อดีตเด็กวิทย์ห้องคิงที่เบนเข็มมาเรียนสายแอนิเมชันตั้งแต่ขึ้น ป.ตรีที่ศิลปากร  ยิงยาวจนถึง ป.โทด้าน Animation and Visual Effects ที่ Teesside University ในอังกฤษ (เกียรตินิยมอันดับ 1) แล้วจบมาก็ยังทำตามฝันตัวเองสำเร็จโดยการได้งานที่อังกฤษแบบฉิวเฉียดหลังจากยื่นมาแล้ว 60 ที่ในประเทศ สุดท้ายได้งานเป็น 3D Generalist ที่คล้ายๆ กองกำลังพิเศษของบริษัท  สังคมทำงานก็น่ารักมาก ส่วนเบื้องหลังความสำเร็จคือความพยายามและใจรักจนลบล้างคำพูดบั่นทอนว่า  "จบมาสายนี้ไม่มีอนาคตหรอก" เพราะที่ไหนได้ อนาคตสุดปังเลยต่างหาก! แถมยังได้สัมผัสคุณภาพสุดดีงามในอังกฤษด้วยค่ะ

 

"มีครั้งนึงเราเจอเด็ก 12-13 ขวบขี่รถแล้วถุยน้ำลายใส่ พอโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อนที่ออฟฟิศทั้งโทรทั้ง text หา แล้วยังเดินมากอดด้วย ที่พีคคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้ว่าการเสียภาษีคุ้มค่าก็คือพอทางเมเยอร์ทราบเรื่อง เขาขอโทษแล้วบอกเราว่า 'เราเป็นเหมือนเกสต์ของเมืองเขา เขาจะนำงบมาเพิ่มเจ้าหน้าที่ที่เดินตรวจตรารักษาความปลอดภัยในโซนนี้ + ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม 10 ตัวตามจุดบอด' แล้วเชื่อมั้ย เขาบอกทุกอย่างจะเกิดใน 7 วัน แล้วมันเกิดจริงๆ! แค่เราออกมาเดินเล่นก็เห็นตำรวจแล้ว "

 มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

6
ไปเรียนอังกฤษตั้งแต่อายุ 11
เรียนจบ Graphic Design

หนึ่งในคนไทยที่ต้องย้ายไปประเทศอังกฤษแบบไม่ทันตั้งตัว และเปลี่ยนมาถือสัญชาติอังกฤษ ช่วงแรกต้องปรับตัวหนักแน่นอน ทั้งเรื่องภาษา สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แต่ความดีงามคือระบบการศึกษาของอังกฤษช่วยให้ได้ค้นหาตัวเอง สามารถเลือกเรียนสายที่ชอบได้ตั้งแต่มัธยม ก่อนจะเรียนต่อด้าน Graphic Design ที่ York St John Univeristy วิวสวย บรรยากาศดี และมีทรัพยากรที่สนับสนุนการศึกษาเพียบพร้อมสุดๆ  แถมยังได้ไปแลกเปลี่ยนที่ State University of New York at Potsdam (SUNY) ในอเมริกาอีกต่างหาก เป็นอะไรที่เกินฝันมาก ตามไปดูแนวทางและเก็บแรงบันดาลใจกันค่ะ

York St John Univeristy
York St John Univeristy
Photo Credit: Yorksj.ac.uk
ผลงานออกแบบหนังสือพิมพ์ของอังกฤษ
ผลงานออกแบบหนังสือพิมพ์ของอังกฤษ

 

“ชีวิตแต่ละวันเราไม่ค่อยเหงาเพราะแอคทีฟตลอด ว่างๆ ก็เดินเล่นรอบๆ มหาวิทยาลัย ทานอาหารพื้นเมืองที่ไม่เคยลอง เรียนสูตรทำอาหารไทยจากยูทูบแล้วซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตจีนมาลองทำเอง หรือถ้าว่างจากเรียนก็ไปหางาน part-time เพราะเราฝันอยากเก็บเงินไปแลกเปลี่ยน แล้วยังได้ฝึกบริหารเวลาให้ไม่กระทบเรื่องเรียนด้วย (ตอนอยู่อังกฤษเราไม่เคยเจอปัญหาการ bully เราว่าคนที่นี่เทคแคร์ชาวต่างชาติมากๆ แอบคิดในใจว่าไม่เคยโดนเพราะฟังเขาพูดไม่ออกรึเปล่า 555)"

 มาเก็บข้อมูลกันค่ะ!

 

7
จากเด็กไฮสคูลสู่แพทย์หญิงในอังกฤษ

เริ่มต้นจากการไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศอังกฤษ แล้วขอเรียนต่อโดนเลือกโรงเรียนที่ Ranking ดี ติดอันดับท็อปๆ แล้วมาจบท่ี่ Ashford School โรงเรียนหญิงล้วนที่มีหอพักให้ พอจบก็ไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัย (ต้องจบ Year 13 + สอบผ่านหลักสูตร A-Level โดยเลือกเรียนวิชาที่สอดคล้องกับคณะที่อยากเข้า) ในที่สุดก็เป็นนักศึกษาแพทย์เต็มตัว (Medical student) ที่ University of Birmingham เป็นหลักสูตร 5 ปีค่ะ เรียนจบจะได้ MBChB (Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery)  แชร์ให้ทั้งแง่มุมการเรียนและการเป็นแพทย์ที่อังกฤษเลยค่ะ!

 

"สองปีแรกเป็น Pre-Clinical มาถึงปีแรกก็เริ่มเรียนวิชาทางการแพทย์เลย เช่น สรีรวิทยา จริยธรรมทางการแพทย์ กายวิภาคศาสตร์ ชีวเคมีทางการแพทย์ พอปี 2 ก็จะเรียนคล้ายๆ กัน โดยที่นี่เค้าจะให้นักศึกษาได้สัมผัสคนไข้ตั้งแต่ปีแรก และทุกๆ 2 อาทิตย์จะมี 1 วันที่เราจะได้ไปเรียนรู้และคุยกับคนไข้ ได้ฝึกเจาะเลือด วัดความดัน อะไรต่างๆ นานา ซึ่งอันนี้จะมีไปจนถึงปี 4 เลย"

มาเก็บข้อมูลกันเลย!

8
ฮอกวอตส์มีอยู่จริง!
เล่าบรรยากาศใน ม.เคมบริดจ์

โอ๊ยยยยไม่ไหว อ่าน+ดูภาพแล้วอิจฉาตาร้อนมากค่ะ เพราะเป็นรีวิวชีวิตนักศึกษา ป.โทหลักสูตร M.Phil in Advanced Chemical Engineering (วิศวกรรมเคมีระดับสูง) จาก University of Cambridge มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกนั่นเองค่ะ! ที่นี่ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยังมีระบบการดูแลนักศึกษาที่ดีมากๆ จนแทบไม่เชื่อว่ามีอยู่จริงเลยล่ะค่ะ ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง จะอลังการมากน้อยแค่ไหน ต้องมาอ่านเลยจ้า

 

"บรรยากาศของทางมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์นั้น  มันยิ่งใหญ่ตระการตามากค่ะ โดยชีวิตความเป็นอยู่ของนักศึกษาที่นี่จะเป็นระบบ College ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจำกันได้ว่า ฮอกวอตส์นั้นประกอบไปด้วย 4 บ้าน คือ กริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัฟ  เรเวนคลอ และสลิธีริน ที่เคมบริดจ์ก็เช่นเดียวกันค่ะ มีทั้งหมด 31 บ้าน เราสามารถเลือกได้ 2 บ้าน แต่ถ้าทั้งสองบ้านไม่รับเรา ก็จะมีระบบกลางที่ทำหน้าที่คัดสรรบ้านให้เราค่ะ และพยายามคละนักเรียนจากคณะต่างๆ เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยนความรู้กัน"

มาเก็บข้อมูลกันเลย!

 

9
บินไปเรียนภาษา 6 เดือนที่เมือง York
ช่วงสั้นๆ แต่ประทับใจยาวๆ

ปิดท้ายด้วยประสบการณ์จากคนไทยที่เคยบินไปเรียนภาษาอังกฤษใน สถาบันภาษาของ University of York เป็นเวลา 6 เดือน  ไปคนเดียวโดดๆ ไม่ชวนเพื่อนหรือใครๆ ทั้งสิ้นด้วยความติสต์และอยากลองท้าทายตัวเองสักครั้ง เชื่อว่าหลายคนมีความฝันอยากที่จะไปเผชิญกับโลกภายนอกเพียงคนเดียว เช่น เที่ยวคนเดียว หรือไปแลกเปลี่ยน เธอเองก็เช่นกันค่ะ มาดูกันค่ะว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าประทับใจแค่ไหน? 

 

"การเรียนของเราจะเรียนเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น pronunciation หรือการออกเสียงที่ถูกต้อง culture หรือวัฒนธรรม โดยจะเปรียบวัฒนธรรมอังกฤษกับไทย อาจารย์จะให้อภิปราย แลกเปลี่ยนความเห็นกัน employability ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์มาก สอนให้รู้จักการทำงานเป็นทีม การฝึกสัมภาษณ์งาน และยังมีการสอน IELTS ทั้งฟังพูดอ่านเขียน"

มาเก็บข้อมูลกันเลย!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรียนที่ไหนดีกว่ากัน? เทียบกันชัดๆ ความแตกต่างการเรียน ป.ตรี “อังกฤษ vs. อเมริกา”

https://www.dek-d.com/studyabroad/49656/ 

มารู้จัก A-Level หลักสูตร ม.ปลายของเด็กอังกฤษ ที่ทั่วโลกยกนิ้วให้ว่าเจ๋งมาก!!

https://www.dek-d.com/studyabroad/39056/

มาดู! ระบบการศึกษาของอังกฤษ ยอดเยี่ยมจนต้องอิจฉา

https://www.dek-d.com/studyabroad/24525/ 

จาะลึกระบบแอดมิชชั่น ณ อังกฤษ! ระบบนี้ดีติดอันดับโลก

https://www.dek-d.com/studyabroad/31484/ 

Like A Londoner: แนะนำ 7 ช่องยูทูบฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษแบบบริติช

https://www.dek-d.com/studyabroad/50741/ 

ฝึกสำเนียง 'British' ให้ชินกับ 6 ซีรีส์เทสวัยรุ่นใน Netflix เพื่ออัปสกิลภาษาพร้อมบินไป UK!

https://www.dek-d.com/studyabroad/57780/

Resource (flag) by www.slon.pics/  freepik
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น