อันยองฮันกุก! รวม 10 ทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัยใน "เกาหลี" มอบให้ชาวต่างชาติแบบฟรีๆ

อันยองครับชาว Dek-D … มีน้องๆ คนไหนอยากได้ทุนไปเรียนต่อเกาหลีกันมั้ย? วันนี้ พี่วุฒิ แวะมาเปิดวาร์ป 10 ทุนเรียนต่อที่เกาหลีซึ่งมอบให้กับชาวต่างชาติได้ไปเรียนต่อแบบฟรีๆ และไม่ต้องใช้ทุนด้วย รายละเอียดแต่ละทุนจะเป็นยังไง และมีทุนจากที่ไหนมอบให้บ้าง ตามไปดูกันเลย!    

....

1.ทุนรัฐบาลเกาหลี  (GKS)

ถ้าพูดถึงทุนเรียนต่อเกาหลีชื่อแรกๆ ก็ต้องนึกถึงทุน Global Korea Scholarship (GKS) หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ทุนรัฐบาลเกาหลี’ นั่นเองครับ ถือว่าเป็นทุนที่หลายคนตั้งตารอในแต่ละปี เพราะสิทธิที่จะได้รับจากทุนนี้ก็คืออลังการมากกกก เรียกว่าครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าเดินทาง ค่าตั้งรกราก ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าประกันสุขภาพ และยังมีคอร์สภาษาเกาหลีให้เรียนฟรีอีก 1 ปีอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยหากจะบอกว่าทุนนี้มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากๆ และแต่ละปีก็มีโควตามอบให้ไม่เยอะด้วย ดังนั้น คนที่ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลีก็ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติพร้อมและมีเป้าหมายในการศึกษาที่แน่วแน่

• ทุนรัฐบาลเกาหลี ระดับป.โท/เอก มักเปิดรับสมัครช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมีนาคม
• ทุนรัฐบาลเกาหลี ระดับป.ตรี มักเปิดรับสมัครช่วงเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม

...

University Scholarships

นอกจากทุนที่มอบโดยรัฐบาลเกาหลีแล้ว น้องๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าความจริงแล้วในแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีทุนที่มอบให้นักศึกษาต่างชาติโดยตรงอีกด้วยนะ โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาจาก GPA หรือเกรดเฉลี่ยเป็นหลัก ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องรอสมัครทุนรัฐบาลแค่อย่างเดียวเสมอไป หากน้องๆ อยากจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหนก็ตาม พี่แนะนำว่าให้เข้าไปดูรายละเอียดทุนในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรงได้เลย (คลิกที่แถบบาร์เว็บไซต์หัวข้อ Scholarships ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ) โดยปกติแล้วทุนที่มอบโดยมหาวิทยาลัย จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.ทุนประเภท A : ทุนมหาวิทยาลัยเอกชน ตั้งอยู่ในกรุงโซล 

2.ทุนประเภท B : ทุนมหาวิทยาลัยเอกชน ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในกรุงโซล 

....

2. ทุน Seoul National University 

'มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล' หรือ SNU ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในฝันของชาวเกาหลีใต้ ที่นี่ก็มีหลากหลายทุนมอบให้ทั้งนักศึกษาใหม่และนักศึกษาปัจจุบันทุกระดับ และยังรวมไปถึงนักศึกษาแลกเปลี่ยนและนักศึกษาวิจัยอีกด้วย 

โดยมูลค่าทุนที่มอบให้นั้นมีทั้งทุนเต็มจำนวนที่ครอบคลุมค่าครองชีพ และยังมีทุนการศึกษาบางส่วน ซึ่งมูลค่าที่ได้รับนั้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครนั่นเอง ส่วนวันเปิดรับสมัครก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทุนการศึกษา หากน้องๆ คนไหนสนใจ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในหน้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรงได้เลย

....

3. ทุน Yonsei University

มหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศในเครือ SKY อย่าง Yonsei University  ก็เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติ ที่นี่เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอก ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี  ในหลากหลายสาขา และก็มีทุนเรียนต่อมอบให้ทั้งแบบเต็มจำนวนและทุนสนับสนุนบางส่วนมอบให้กับชาวต่างชาติที่มีผลการเรียนดีอีกด้วย 

และสำหรับน้องๆ คนไหนที่ไม่มีคะแนนภาษาเกาหลีแต่อยากเรียนต่อม.ยอนเซ ที่นี่มีวิทยาลัยนานาชาติหรือที่เรียกกันว่า Underwood International College (UIC) ซึ่งเปิดรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ และความดีงามคือมีทุนฟรีเต็มจำนวนมอบให้ด้วย โดยปกติแล้วทุนนี้จะเปิดรับสมัครปีละ 3 รอบ หากใครเล็งๆ ไว้ว่าอยากเรียนต่อป.ตรี หลักสูตรอินเตอร์ที่เกาหลี ก็เตรียมตัวสมัครทุน UIC กันได้เลย 

....

4. ทุน Korea University

มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศอย่าง Korea University หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "ม.โคแด / ม.โคเรีย"  ก็มีทุนเรียนต่อให้ทั้งนักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทขึ้นไป เป็นทุนส่วนลดค่าเรียน 50% จนถึงทุนยกเว้นค่าเล่าเรียน 100% ซึ่งพิจารณาจากผลการเรียนของเราเป็นหลัก โดยทุนนี้จะเปิดรับสมัครช่วงเดียวกันกับการรับสมัครนักศึกษาใหม่ในแต่ละปี แบ่งเป็น 2 รอบ 

• เทอม Spring เปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม
• เทอม Fall เปิดรับสมัครช่วงเดือนกรกฎาคม

และเช่นเดียวกันกับที่ยอนเซ ที่ม.โคเรียก็มีวิทยาลัยนานาชาติ (GSIS) ซึี่งมีทุนมอบให้กับนักศึกษาระดับป.โท/เอกเช่นเดียวกัน ทั้งทุนการศึกษาบางส่วนและทุนเต็มจำนวน  และยังมีทุนสนับสนุนให้กับนักศึกษาวิจัย/นักศึกษาช่วยสอน (TA) อีกด้วยครับ  

...

5. ทุน Ewha Womans University

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาหญิงหลายคนใฝ่ฝันอยากเรียนต่อ ต้องมีชื่อของ "มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา" รวมอยู่แน่นอน เพราะนอกจากบรรยากาศน่าเรียนแล้ว ระบบการเรียนการสอนของที่นี่ก็ไม่เป็นสองรองใครเลยล่ะ และความดีงามก็คือมีทุนเรียนต่อมอบให้กับชาวต่างชาติทุกปี และเปิดรับสมัครปีละ 2 รอบ ตามเทอม Spring และ เทอม Fall นั่นเอง โดยทุนที่มอบให้แบ่งออกเป็น 2 ประเภททุน ดังต่อไปนี้     

1. ทุน EGPP (Ewha Global Partnership Program)

• ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (รวมค่าสมัคร) ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
• ทุนมอบให้ระดับปริญญาตรีสูงสุด 8 เทอม, ปริญญาโทสูงสุด 4 เทอม ปริญญาเอกและหลักสูตรต่อเนื่อง 6 เทอม

2. ทุน ISS (International Students Scholarship)

• ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (รวมค่าสมัคร)
• ทุนจะมอบให้ 1 เทอม, 1 ปี, 2 ปี หรือ 4 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางมหาวิทยาลัย

ความจริงแล้วนอกจาก 2 ทุนที่กล่าวไปด้านบน ที่อีฮวายังมีทุนอีกเยอะมากกก  เกณฑ์ในการสมัครก็จะแตกต่างกันไป หากน้องๆ คนไหนสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดในหน้าเว็บของมหาวิทยาลัยได้เลย

...

6. ทุน KAIST

ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยียุคนี้เราก็ต้องยกให้เกาหลีใต้จริงๆ ครับ เรียกว่าพัฒนาไม่หยุด ไปต่อไม่รอใครแล้วจริงๆ 555555 และสำหรับน้องคนไหนหาทุนเรียนต่อด้านนี้อยู่ พี่ก็ขอแนะนำ Korea Advanced Institute of Science and Technology หรือ KAIST สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลีที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก และได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศ!  

ในทุกปีทาง KAIST ได้มอบทุนเรียนต่อสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ซึ่งครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ประกันสุขภาพ และค่าตอบแทนเพิ่มเติมสำหรับผู้ช่วยวิจัย โดยช่วงเวลาเปิดรับสมัครทุนก็จะอยู่ช่วงเดียวกับการรับสมัครนักศึกษาใหม่ในเทอม Spring และ Fall เช่นกันกับมหาลัยอื่นๆ  

...

7.  ทุน Sogan University

เวลาใครถามว่าถ้าจะไปเรียนภาษาที่เกาหลีควรไปเรียนที่ไหนดี? หนึ่งในคำตอบยอดฮิตก็จะต้องมี 'มหาวิทยาลัยซอกัง' รวมอยู่ในลิสต์ (สอนดีมากกก) และสำหรับน้องๆ คนไหนที่อยากไปเรียนต่อในระดับปริญญา บอกเลยว่าที่ม.ซอกัง ก็มีทุนมอบให้ชาวต่างชาติเช่นกัน มีทั้งทุนเต็มจำนวนและทุนสนับสนุุนบางส่วนทั้งระดับป.ตรี และบัณฑิตศึกษา หากใครสนใจก็ตามไปศึกษารายละเอียดในหน้าเว็บไซต์ของซอกังได้เลย มีทุนเยอะมากกกก

...

8. ทุนเรียนต่อ K-Arts

สำหรับสายอาร์ตคนไหนที่อยากเรียนต่อสาขาเฉพาะทางที่เกาหลี ขอแนะนำทุนเรียนต่อที่  Korea National University of Arts  หรือ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติเกาหลีเลยครับ ที่นี่ถือว่าเป็นสถาบันชั้นนำทางศิลปะชั้นนำของประเทศ  เปิดสอนทั้งในระดับป.ตรี-ป.เอก รวมทั้งหมด 6 วิทยาลัย โดยแบ่งย่อยออกเป็น 26 สาขาวิชา ทั้งสาขาดนตรี, การแสดง, ฟิล์ม, โทรทัศน์และมัลติมีเดีย, การเต้น,  ทัศนศิลป์ และศิลปะเกาหลีดั้งเดิม

ในทุกๆ ปีทางมหาวิทยาลัยจะมอบทุน "AMA+ Scholarship" เพื่อสนับสนุนชาวต่างชาติให้เข้าเรียนต่อหลักสูตรปริญญาตรี/โท  โดยมูลค่าทุนก็คือจัดเต็ม ครอบคลุมค่าเล่าเรียน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่าใช้จ่ายรายเดือน คอร์สปรับพื้นฐานภาษาเกาหลีระยะเวลา 4 เดือน และประกันสุขภาพ (ปกติเปิดรับสมัครช่วงเดือนพ.ค.- มิ.ย.)

...

9. ทุน Kyung Hee University

เวลาไปเที่ยวเกาหลี อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องไปถ่ายรูปให้ได้ก็ต้องมีพิกัดของ 'มหาวิทยาลัยคยองฮี' เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในประเทศ หากน้องๆ คนไหนอยากตามไปสัมผัสบรรยากาศการเรียนในม.สวยๆ ของเกาหลีใต้  แต่ละปีที่คยองฮีมีทุนเรียนต่อมอบให้สำหรับนักศึกษาต่างชาติหลากหลายทุน ทั้งทุนเต็มจำนวน ทุนการศึกษาบางส่วน  ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือก็จะดูจากผลการเรียนของเรา รวมถึงคะแนนสอบวัดระดับภาษาเกาหลี TOPIK อีกด้วย  ใครสนใจก็เตรียมคะแนนสอบไว้ให้พร้อมก่อนสมัครกันได้เลย! (มุนแจอิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ก็เป็นศิษย์เก่าของที่นี่) 

• บัณฑิตศึกษา: เปิดรับสมัครช่วงเดือนเม.ย.  – พ.ค. และ  ต.ค. – พ.ย.
• ปริญญาตรี: เปิดรับสมัครช่วงเดือนส.ค. – ก.ย. และ ต.ค. – พ.ย.

10. ทุน POSCO Asia Fellowship

มาถึงทุนสุดท้ายที่แนะนำให้รู้จักกัน นอกจากมีทั้งทุนจากรัฐบาลและทุนจากมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีทุนที่มอบโดยมูลนิธิ POSCO TJ Park อีกด้วย ซึ่งทุนนี้มอบให้ชาวเอเชียโดยเฉพาะเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่เกาหลี  โดยน้องๆ จะสามารถเลือกมหาวิทยาลัยและสาขาที่อยากเรียนได้ตามใจชอบถึง 3 แห่ง (สมัครด้วยตัวเองหลังจากประกาศว่าได้รับทุนแล้ว)

ต้องบอกว่ามูลค่าของทุนที่ได้ก็คืออลังการไม่แพ้ทุนอื่นเลย เพราะครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพรายเดือน ค่าตั้งรกราก ค่าประกันสุขภาพ และโอกาสในการฝึกงานที่เกาหลี ถือว่าเป็นอีกทุนที่สายเกาไม่ควรพลาดเลย! (ของปี 2022 เปิดรับสมัครช่วงเดือนพฤษาคม)

เกาหลีใต้นั้นมีนโยบายที่ค่อนข้างสนับสนุนชาวต่างชาติโดยเฉพาะเรื่องการศึกษามากเลยครับ และความจริงแล้วนอกจากที่ลิสต์มาในวันนี้ ยังมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเกาหลีอีกมากมายรอน้องๆ อยู่นะ ลองเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่ตัวเองสนใจกันได้เลย 

และหากใครอยากได้ทุนจริงๆ พี่เองก็อยากแนะนำให้ศึกษารายละเอียดให้ดีๆ เช็กกำหนดการรับสมัครเอาไว้ล่วงหน้าและเตรียมเอกสารต่างๆ รวมถึงคะแนนสอบวัดระดับภาษาเอาไว้ให้พร้อม เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นทุนเรียนฟรียังไงอัตราการแข่งขันก็ย่อมสูงแน่นอน (บางทุนมีโควตาที่จำกัด) ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยแต่ละที่ก็มักเลือกจากคนที่พร้อมที่สุดเอาไว้ก่อน แต่ถ้าเราเตรียมทุกอย่างเป๊ะแล้วก็เตรียมแพ็คกระเป๋าบินไปเกาหลีกันได้เลย ^^