Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

พยาบาลปี1เรียนอะไรบ้าง แชร์ประสบการณ์และความรู้สึก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เอาล่ะค่าา หลังจากที่ห่างหายไป1ปีเต็มๆ หรือปีกว่าๆเลยก็ว่าได้ วันนี้เรากลับมาอีกครั้งแล้ว จริงๆก็ตั้งใจว่าจะเขียนรีวิวให้ฟังตั้งแต่เรียนจบปี1แล้วแหละค่ะ แต่ว่ายุ่งมากกก กับการเรียนปี2แถมมีการฝึก ขึ้นวอร์ด สอบ บลาๆๆๆๆ เลยไม่ได้ว่างมาเขียนเลย

วันนี้ก็เลยถือโอกาสเอาซะเลย ก่อนอื่นถ้าเพื่อนๆหรือน้องๆติดตามเราจากกระทู้ก่อนๆก็จะรู้นะคะ ว่าเรามาจากไหน เอาเป็นว่าเราไม่ย้อนกลับละกันเนอะ ก็คือแนะนำตัวก่อนแป๊บบบบนึงนะคะ ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่2แล้วเนอะ ตอนนี้เราปิดเทอม1นะคะ กำลังจะเปิดเทอมเรียนเทอม2 เอ๊ะจะเรียกว่าปิดเทอมได้ไหมนะ เพราะตกกะปิเอ้ยย!! ปกติก็ไม่เคยมีหยุดยาวแบบนี้เลย เลยถือช่วงกลางเดือนธันวาถึงปีใหม่นี่ถือว่าเป็นปิดเทอมของเราละกันเนอะ

***หยุดค่ะ เราอยากจะบอกก่อนเข้าเรื่องว่า กระทู้นี้ยาวมาก อาจจะมีพร่ำเพ้อพรรณนาตามสไตล์ แต่ถ้าทุกคนตั้งใจอ่านจริงๆก็น่าจะมีประโยชน์ในการเตรียมตัวก่อนเข้ามาเรียนเลยแหละ เราจะพยายามนำเสนอออกมาให้ทุกคนเห็นภาพมั่กกกที่สุดนะค้าาา ><

ก็ต่อจากกระทู้ที่แล้วเนอะที่เราเขียนเกี่ยวกับเรารีวิวว่าต้องเตรียมตัวสอบยังไง เข้ามาเรียนแล้ว กับความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไง เหมือนหรือต่างกัน จริงหรือที่เขาว่าเรียนพยาบาลหนัก ไม่มีเวลา ไม่มีแฟน(แป๋วว)

จากการที่เรียนจบปี1ไปแล้วเรียบร้อยเนอะ ก่อนจะไปเจาะลึกแต่ละวิชาเราก็ขอพูดรวมๆคร่าวๆตอนนี้ก่อนนะคะว่า ที่เราจะนำเสนอข้อมูลต่อไปนี้ เป็นวิชาที่เรียนในส่วนของสถาบันที่เรากำลังศึกษาอยู่นะคะ มันอาจจะไม่คล้าย หรือคบ้ายกับสถาบันอื่น หรือที่คนอื่นเล่าให้ฟังนะคะ

ความรู้สึกที่ของปี1ที่จะมาบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจนะคะ นั่นก็คือว่า “เหนื่อย” คำเดียวเลย ไม่สิอีกคำ “ท้อ” มี2คำนี้ในหัวแทบทุกวัน ช่วงแรกของการมาเรียน มาใช้ชีวิตข้างนอกเองคือ เหนื่อยสุดๆ ส่วนตัวเราเองเป็นคนอยู่แต่บ้าน อยู่กับพ่อแม่ เอาแต่ใจบ้างบางครั้ง การมาเรียนพยาบาลทำให้เราต้องปรับตัว แน่นอนว่าการปรับตัวเป็นเรื่องปกติของการเข้ามาเรียนมหาลัย แต่สำหรับคณะนี้คือ มันผิดจากที่เราคาดหวังไปหมด เพราะเราต้องเรียนวิชาที่เกี่ยวกับร่างกายของคน การวางตัวต่างๆ การบริหารเวลา งานที่ถาโถม ใครอ่อนแอก็แพ้ไปก็ว่าก็ว่าได้ แต่ถามว่าผ่านมาได้ไหม เอาจริงๆตอนที่อยู่ปี1 [อุ๊ปปส์พูดเหมือนนาน เพิ่งจะจบปี1ไปตอนซัมเมอร์ปีนี้เอง แฮร่ๆ] ตอนที่อยู่ปี1มันเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ เหนื่อย แต่ตอนนี้พอมองกลับไป ตอนนั้นเราแค่อยากผ่านมันไป ไม่อยากจะจำ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นความทรงจำดีๆที่เราคิดถึงมันมาก […เพราะปี2เหนื่อยม๊วกกกก]

ท้าวความมาเยอะ เรามาพูดถึงวิชาเรียนกันเลยดีกว่า…………
ก็วิชาที่เรียนนะคะก็จะแบ่งเป็น วิชาในคณะ และวิชานอกคณะ วิชาในคณะก็คือเป็นวิชาที่ ช้ในวิชาชีพเรานี่แหละ ส่วนวิชานอกคณะก็คือเป็นวิชาที่เราต้องเรียนเพราะต้องนำมาต่อยอดกับวิชาในคณะ หรือไม่ก็คือเรียนให้ครบหน่วยกิตอะไรงี้อะค่ะ

ในช่วงของการเรียนปี1เราจะเล่าให้ฟังเป็นเทอมๆไปนะคะ เอ่อเราอาจจะเล่าวกไปวนมาบ้าง เพื่อนๆพี่ๆน้องๆต้องใช้ความสามารถมากๆให้เข้าถึงเรานะคะ อิอิ

เทอม1 วิชาที่เราได้เรียนนะคะ คืออออ ——

-ภาษาไทยเพื่อพัฒนาความเป็นผู้รอบรู้
-ภาษาอังกฤษเพื่อการนำตน
-ความเป็นสวนดุสิต
-สังคมอารยชน
และ……วิชา
-Anatomy and physiology หรือที่เรียกว่าวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยานั่นเอง

โอ้โหพี่คะ ฟังจากชื่อวิชาแล้วน่าจะชิวนะคะ ใช่แล้วค่ะ ปี1เทอม1คือสบายสุดละ เรียนชิวๆให้เราสบายใจไว้ก่อน55555ล้อเล่นนะคะ จะเห็นว่าวิชาคณะจะมีวิชาเดียวคืออนาโตมี่

ก่อนจะพูดถึงวิชาในคณะขอพูดถึงวิชานอกคณะก่อนนะคะ ก็เป็นงงๆว่าทำไมต้องเรียนวิชาภาษาไทย วิชานี้เนี่ย 6หน่วยกิตค่ะทุกคน ก็คือเหมือนเป็นตัวตัดสินเกรดเทอมนี้เลยก็ว่าได้ ที่ต้องเอามาเรียนเทอม1เพราะว่า คิดดูถ้าเอาไปเรียนเทอม2หรือ ปี2,3,4นะก็คงจะยุ่งๆหน่อยละมั้ง นก.มันเยอะด้วย(อันนี้คิดเองเออเอง) ในส่วนของวิชาภาษาไทย อิ้ง สังคม ก็เบๆ(แต่เกรดไม่เบนะจ๊ะ) เหมือนเราเรียนมัธยมแค่มหาลัยก็จะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาหน่อย ได้ทำอะไรเปิดกว่าเรียนมัธยม บางวันคือ เลิกเรียนเที่ยงงี้ โคตรดีอะ หอก็เดิน2นาทีถึงห้อง คือชีวิตดีอะตอนนั้น55555 ส่วนวิชาความเป็นสวนดุสิตนี่เป็นวิชาของมหาลัยเลยนะคะ น้องปี1ทุกคณะ ทุกสาขาจะต้องเรียน อารมณ์เป็นวิชาประวัติศาสตร์ของมอไรงี้อะค่ะ สนุกดี(ถือโอกาสตรงนี้แอ๊วหนุ่มเลย เพราะปกติไม่ค่อยเจอใครเรียนแค่กับคณะตัวเอง5555)

มาพูดถึงวิชาคณะก็คือวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยานี่แหละ แต่จะขอเรียกสั้นๆเป็นชื่อวิชาอิ้งว่า วิชาอนาก็แล้วกันนะทุกคน วิชาก็เป็นที่เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกายของสัตว์และมนุษย์ และก็หน้าที่การทำงานของอวัยวะต่าง ๆของร่างกาย จำได้แค่นี้แหละ ส่วนถ้าอยากไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายก็เสิร์จเลยนะคะ ทางเราคืนความรู้ให้อาจารย์แล้ว ก็นั่นแหละพูดตามเข้าใจก็คือวิชานี้เป็นการเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างของอวัยวะ เยื่อเนื้อ ระบบ เยอะแยะไปหมด เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างแล้วก็ต้องมาเรียนเกี่ยวกับการทำงานอีก ว่าโอเคเราจำได้หมดแล้ว มาต่อที่การทำงานปกติทำงานกันยังไง ถ้าผิดปกติจะเป็นยังไง(อันนี้เรียนคร่าวๆส่วนพวกความผิดปกติจะเน้นตอนปี2) แต่ปี1 จุดมุ่งหมายของวิชานี้ก็คือ จำทุกอย่างที่ปกติในร่างกายได้

ฟังดูก็ค่อนข้างยากเหมือนกันนะเนี่ย ใช่ค่ะ ก็ใช่ย่อยอยู่น้าา เล่นเอาซะกุมหัวกันเลยทีเดียว จะเรียนเริ่มตั้งแต่ ร่างกายเราแบ่งยังไง การเคลื่อนที่ การเหยีดแขนงอแขนอะไรยัง คือสิ่งที่ในวิชานี้อีกนิดก็คือ เราจะต้องจำศัพท์ของอนาโตมี่เอง เอ๊ะ งง ใช่จ้า เป็นภาษาอังกฤษนี่แหละ แต่มันต่างจากอิ้งคือ เป็นศัพท์เฉพาะ เช่น คำว่ากระดูก ภาษาอังกฤษเราจะใช้คำว่า bone แต่ถ้าเราจะเฉพาะเจาะจงว่าเป็นกระดูกตรงไหนล่ะของร่างกาย เพราะกระดูกเรามีตั้ง 206 ชิ้นใช่ไหมล่ะ อ้ะยกตัวอย่างคำศัพท์กระดูกง่ายๆที่เป็นศัพท์ของอนาโตมี่นะคะ เช่น Tibia Fibula Humerus ไม่ต้องงงว่ามันคือกระดูกส่วนไหน ไปหากันเอง

สิ่งที่เราต้องเข้าใจในวิชานี้ก็คือวิชานี้ถ้าเราจำได้เราจะจำตลอดไป (รึป่าววะ) เป็นวิชาพื้นฐานที่เราต้องรู้ เพราะต้องนำไปใช้เรียนต่อในปีต่อๆไปและก็ตลอดจนการทำงานเลย

เราจะได้เรียนทุกอวัยวะ ทุกระบบไล่จากง่ายไปยากซับซ้อนขึ้น ซึ่งวิชานี้แต่ละสถาบันก็สอนต่างกันไปอีกนะ เคยถามเพื่อนที่เรียนพยาบาลบางที่ เพื่อนบอกว่า เทอม1เรียนแค่ส่วนของ กายวิภาค เทอมสองก็เรียนแค่ส่วนของสรีรวิทยา แต่ที่นี่คือ สมมติว่าเรียนกายวิภาคของเรื่องกล้ามเนื้อเสร็จ คาบต่อไปก็จะมีเรียนสรีรวิทยาต่อเลย พร้อมกับเข้าแลปต่อ แต่เอาจริง ขนาดเรียนกายวิภาคคาบที่แล้ว อาทิตย์นี้อาจารย์สอนสรีระ ถามกลับเรื่องกาย ยังลืมเลย แฮร่ๆ ก็มันความรู้ใหม่นี่นา

การสอบวิชานี้คือ หลังการเรียนจบแต่ละหน่วยแต่ละบทก็จะมีสอบควิซ เก็บคะแนน เอ้อลืมบอก การที่เราจะจำได้มันก็ต้องใช้ความพยายาม ซึ่งอาจารย์ก็จะให้เราคุ้นชินกับมัน คือการ วาดรูปอนาโตมี่แล้วชี้ลูกศรออกมาว่าอันนี้ชื่ออะไรๆ แต่อาจารย์ไม่ซีเรื่องความสวยงาม ทางเราก็จัดเลยค่ะ สรุปคือ การวาดรูปของเราเป็นแค่การทำงานส่งอะ เราว่ามันไม่ตอบโจทย์เราเท่าไหร่ คือศิลปะแย่มาก5555 แต่ละคนก็จะมีการจำที่ต่างกัน ส่วนนี่จะเป็นคนที่ หลับตาแล้วจำรูปไหนก็ได้รูปนึง แล้วก็จะเขียนศัพท์คำนั้นบ่อยๆให้เราชิน

การสอบก็เป็นวิชาที่ค่อนข้างแฮปปี้นะคะ เพราะกายวิภาคคือจำได้ก็ทำได้ ส่วนสรีระก็ต้องเน้นเข้าใจด้วย บวกกับจำต้องแม่นด้วย สิ่งเดียวที่ช่วยได้มากกับการเรียนวิชานี้แล้วเข้าใจคือ ต้องใจเรียนในห้อง เทอมนี้คือเราหลับในห้องบ่อยมาก หลับแบบหลับ ต้องกลับมาอ่านเอง บางครั้งก็ให้เพื่อนติวให้ เทอม1เราได้แค่B+ ซึ่งวิชานี้นี่ มันมีเรียนเทอม2ด้วย เราเลยว่าจะตั้งใจใหม่ ผลจะเป็นยังไง อ้ะอ่านต่อไปค่าา5555

มาถึงการสอบที่เราจะตื่นเต้นกับการได้ยินชื่อของมัน นั่นก็คือ การสอบแลปกริ๊งนั่นเอง ใช่ค่ะเรียกว่า สอบแลปกริ๊ง คือการที่เราเนี่ยต้องสอบดูชิ้นส่วนของอวัยวะ หรืออาจจะเป็นคำถาม อะไรก็ถาม โดยที่สอบพร้อมกันเต็มห้องเลย มีกระดาษคำตอบให้ ให้เวลาข้อละ40วินาที เราก็ต้องเขียน เป็นภาษาอังกฤษศัพท์อนาโตที่หมดเลย ห้ามเขียนผิด เขียนผิดก็ไม่ได้คะแนนอีก วนๆกันไป กริ๊งปุ๊บหมุนค่ะ จนครบข้อ

สปอยวิชานี้เยอะไปแล้ว มาที่เทอม2กันดีกว่า วิชาที่เรียนในเทอมนี้ก็คือ
-พลเมืองไทยและพลโลกที่ดี
-วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
-วิทยาศาสตร์กายภาพสำหรับพยาบาล
-หลักชีวเคมี
-กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 2
-จุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา
-การพยาบาลพื้นฐาน
บอกได้เลยว่าหยักจะล้องห้ายย มีวิชาคณะ 2 วิชานั่นคือ อนาโตมี่2และก็การพยาบาลพื้นฐาน วิชานี้เราขอเรียกชื่อวิชาสั้นๆว่าวิชาฟันดาละกันนะคะ

พูดถึงวิชานอกคณะก่อน คือมาเยอะมากกกก จำได้ตอนสัมภาษณ์มาเรียนอาจารย์บอกมาเรียนคณะนี้เรียนวิทยาศาสตร์ไหวแน่นะ เชื่อแล้วค่ะ เอาจริงๆทุกวิชาคือบูรณาการได้กับอาชีพกับการเรียนเราหมดเลย แต่จะขอพูดหลักๆคือวิชา ไบโอเคม กับจุลแล้วกันเนอะ ซึ่งเป็นวิชาที่เราว่ามันสนุกมาก เราได้เรียนรู้สิ่งมีชีวิตเล็กๆจากที่เราเรียนมอปลายมาบ้างแล้ว คราวนี้เจาะลึกเลย คุณสมบัติน้องเป็นยังไง เป็นประเภทไหน แกรมบวก แกรมลบ ถ้าน้องๆเข้ามาในร่างกายเราจะเป็นยังไง แนวทางการรักษาด้วยยาพอคร่าวๆ (อันนี้นะขึ้นปี2เรียนเกี่ยวกับพยาธิสภาพกับวิชาเภสัชถ้าจำได้ก็ดีนะ) น้องพยาธิ น้องโปรโตซัว น้องอะมีบ้า น้องแบคทีเรีย น้องไวรัส บลาๆๆ ทำให้เราไม่กินเส้นไปนานเลยอะ หลอนภาพน้องๆ นี่ได้เป็นคนเลี้ยงโปรโตซัวด้วยแหละ เอามาส่องกล้องเข้าแลปเอย ย้อมสีเอย นั่นนี่นู่นสนุกมากก ไบโอเคมก็คล้ายๆกัน เอาง่ายๆสองวิชานี้เราชอบมากๆเลย ส่วนวิชาอื่นๆก็เฉยๆ

พูดถึงวิชาคณะ แน่นอนมลเรารู้จักอนาโตมี่แล้ว เทอมนี่ก็คือ เรียนเหมือนเดิม(เพราะเรียนเทอมเดียวไม่จบนะจ๊ะ55555) ก็เรียนต่อให้จบทุกอย่างในร่างกาย การเรียนการสอนก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ได้ไปศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่จริงๆด้วย คือมอเราอะไปเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ มธ.รังสิตทุกปีเนอะ ปีนี้เราก็ได้ ดูอาจารย์ใหญ่ต่างกับหุ่นที่เราเรียนมาก ของจริงคือไม่ได้สวยงามเหมือนที่เรียน แต่ก็คล้าย บอกได้เลยว่าสนุกมากๆ
อ้อลืมบอก เทอมนี้เราไม่หลับในคาบแล้วนะคะทุกคน และก็ที่สำคัญเราได้ A วิชานี้ด้วย

มาถึงส่วนวิชาฟันดา อันนี้เป็นการเรียนวิชาการพยาบาลพื้นฐาน ที่มีทั้ง เรียน เข้าแลป สอบแลป ฟังดูงงๆนะคะ ก็คือ สมมติว่าวันนี้เราเรียนในห้องเรียนเรื่องการดูดเสมหะ อาจารย์ก็จะสอนทฤษฎีให้เรา สอนเสร็จคาบต่อไปก็แบ่งกลุ่มนักเรียน 5-6คน ต่ออาจารย์1คน ในห้องแลปที่มีหุ่นจำลองเหมือนจริง มีอุปกรณ์จริงทุกอย่าง อาจารย์ก็จะทำให้ดู แล้วก็ให้เราทำนั่นเอง วิชานี้ก็สรุปมากๆ อาทิตย์ถัดไปก็สอบแลปปฏิบัตินั่นเอง ชีวิตวนๆอยู่แบบนี้แหละ อะไรที่เป็นการพยาบาลพื้นฐาน จรรยาบรรณ หัตถการ เราก็ต้องเรียนรู้ในวิชานี้

เทอมสองผ่านไปไวเหมือนโกหก มาถึงซัมเมอร์ ไม่ได้ปิดเทอมนะจ๊ะ นักเรียนพยาบาลเขามีเรียนซัมเมอร์กันเน้อทุกคนน
วิชาเรียนในช่วงซัมเมอร์ระยะเวลา2เดือนกว่า มี3วิชา ก็คือ
-พัฒนาการมนุษย์
-แนวคิดพื้นฐานและทฤษฎีการพยาบาล
-โภชนาการและสุขภาพ

เป็นวิชาที่ยากสำหรับเรามาก โดยเฉพาะวิชาทฤษฎีการพยาบาล อันนี้คือเรียนตั้งแต่รากเหง้าของการพยาบาล ใครตั้งทฤษฎีอะไรบ้าง เพื่ออะไร บลาๆ ปวดหัวไปหมด เช่น ทฤษฎีการปรับตัวของรอยด์ ทฤษฎีสิ่งแวดล้อมไนติงเกล และอื่นๆอีกเยอะ เป็นวิชาที่จะทำให้เราเข้าใจวิชาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี และก็เหมือนเป็นวิวัฒนาการ การพัฒนาปรับปรุงการพยาบาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ทุกคนมีการบริการพยาบาลที่ดีเหมือนในทุกวันนี้ไงคะ [เชรดดดเราพูดออกได้ไงได้อ่าา ขอมงด้วยค่าา5555]
วิชาพัฒนาการมนุษย์ก็เหมือนกัน เราจะได้เรียนรู้พัฒนาการของคนตั้งแตปฏิสนธิจนตายเลย เรียนควบคู่กับทฤษฎีคนนั้นคนนี้กล่าวว่ายังไง คนที่บุคลิกแบบนี้ตอนเป็นเด็กถูกเลี้ยงมาแบบไหน บลาๆ ทำให้เราเข้าใจแต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดีเลยแหละ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจคนอื่น และให้การพยาบาลกับเขาได้เหมาะสมนั่นแหละค่ะ พยาบาลต้อวเจอคนหลายรูปแบบ วิชานี้ก็ทำให้เราความคิดเปลี่ยนไปเยอะเลย เรามองบวกขึ้นมาก คิดมีเหตุผลขึ้น(มั้ง นิดนึงแหละ) เราเข้าใจละว่าทำไมที่เขาเรียกพยาบาลว่านางฟ้าชุดขาว ส่วนนึงก็มาจากการที่เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้นนี่แหละ

มาถึงวิชาโภชนาการเป็นวิชาที่บับบบ บับว่า เหนื่อยกับการคำนวณแคลอรี่ การจำกัดโซเดียม จำกัดน้ำ บลาๆ ถเาคนไข้โรคนี้กินอะไร ห้ามกินอะไร ก็สนุกดีนะคะ คาบสุดท้ายได้เข้าแลป ทำอาหารของจริงเลย ที่ตึกของคณะเชฟ บางกลุ่มก็คือ ได้ทำอาหารฟีด บางกลุ่มทำอาหารคนไข้เบาหวาน ไม่ก็คนไข้โรคไต คนไข้โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ

เมื่อยนิ้วมาก ก็จบไปแล้วแหละ กับการรีวิววิชาเรียนพยาบาลในปี1 ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละว่า แต่ละที่ก็เรียนแตกต่างกัน หมายถึงการจัดการเรียนการสอน แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ได้เรียน และทำในสิ่งที่วิชาชีพเราต้องรู้ ต้องทำกันทุกคน

รีวิวชีวิตปัจจุบันคือ เรามีหมวกพยาบาล มีชุดพยาบาลแล้ว เหนื่อยมากๆเลย คิดถึงตอนปี1สุดๆ การไปขึ้นฝึก การทำจริง ความกดดัน ความรู้ ความเหนื่อยมันเพิ่มขึ้นมาก เหนื่อยกันคนละแบบ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจในการอยากเข้ามาเรียนพยาบาลก็ขอให้สู้ๆนะคะ อ่านจบทุกบรรทัดไหม อย่าพึ่งท้อในการเตรียมสอบนะคะ เพราะเข้ามาอาจจะท้อมากกว่าเดิมก็ได้ และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านการแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกของเราเองนะคะ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วย ที่เรามาแชร์เพราะตัวเองเหมือนได้ระบายไปด้วย ให้คนที่อยากอื่นเข้ามามีกำลังใจด้วย

ยังไงเราจบปี2เราจะมีรีวิวอีกนะคะ เพื่อนๆพี่ๆหรือน้องๆอยากแชร์อะไร ก็คอมเม้นกันได้เลยนะคะ ส่วนน้องๆถ้ากำลังท้อก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สำหรับวันนี้ ไปแล้วนะคะ บะบายย

Edit: ขอเพิ่มเติม กระทู้ๆเก่าให้อ่านเพิ่มเติมนะคะ

https://www.dek-d.com/board/view/3868071/

รีวิวสอบสัมภาษณ์

https://www.dek-d.com/board/view/3892049/

เข้ามาเรียนใหม่ๆ ช่วงการปรับตัว

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

dewiranc 1 ม.ค. 63 เวลา 17:49 น. 3

เป็นคณะที่น่าสนใจมากๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณพี่ว่าที่พยาบาลรวมถึงเพื่อนๆที่กำลังจะสอบคณะนี้นะคะ สู้ๆค้าบ><

1
Dearsir 9 ก.พ. 63 เวลา 19:18 น. 4-1

เทอมแรก 48000 เทอมต่อไป 41000 ค่ะ ไม่รวมค่าหอค่าชุดค่ะ ค่าหอจ่ายเป็นเทอม 12500 แต่ถ้าจ่ายเป็นเดือนตกเดือนละ2700 ค่ะ

0
Dearsir 18 เม.ย. 63 เวลา 09:56 น. 5-1

สมัครออนไลน์ค่ะ ติดตามข่าวในเพจได้นะคะ

-คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

-SDUContactCenter

0
Xoxo 8 พ.ค. 63 เวลา 13:54 น. 6

อยากจะถามเรื่องหอพักค่ะ ต้องอยู่หอในจนเรียนจบเลยหรือเปล่าคะ เราสามารถออกไปอยู่ข้างนอก(บ้านอยู่ใกล้)ได้ไหมคะ

0
อยากเรียนพยาบาล 16 พ.ค. 64 เวลา 03:29 น. 7-1

ขอสอบถามหน่อยค่ะ คือเทอสอบติดแล้วใช่มั้ย ช่วยอธิบายค่าลงทะเบียนเรียน หน่อยได้มั้ย ว่ามันแยกจากค่าเทอม หรือป่าว หรือมันคือค่าเทอมเทอมแรกอะ ขอบคุณล่วงหน้าคับ สำหรับใครผ่านมาเห็นสามารถตอบแทนได้นะคะ

0
อยากเรียนพยาบาล 16 พ.ค. 64 เวลา 03:23 น. 8

พี่คะค่าลงทะเบียนเรียน41000 ในระเบียบการเขียน ค่าลงทะเบียนเรียนบวกค่าอุปกรณ์ นี้ใช้ค่าเทอมเทอมแรกไม่คะ

หรือแยกจากตัวค่าเทอมคะ ขอบคุณค่ะ

0