Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำยังไงเราถึงจะรู้ตัวเองสักที !!?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีจ้าา น้องๆทุกคน   พี่ชื่อ พี่บาส นาจ้าา เป็น dek63 ปีล่าสุดเลยจ้าา

พี่ขอออกตัวก่อนนะว่า พี่ไม่ได้เรียนเก่ง แต่แค่มีอะไรดีๆอยากมาแชร์ต่อเท่านั้นละจ้าาาา อะไป ไป ไป !!

วันนี้กระทู้ของพี่เนี่ยจะมา ตอบคำถามของน้องๆหลายคนว่าเออ พี่ทำไงดีอะพี่ยังไม่รู้เลยจะเรียนอะไรอะ พี่ทำไงถึงจะเรียนได้เกรดดีๆอะ พี่ทำไงถึงจะสอบติดที่นี่ๆๆๆ พี่ทำไงถึงได้นู้น ได้นี่ ได้นั้น อะน้อง stop ละฟังพี่ กระทู้พี่ พี่ทำมาเผื่อเด็กรุ่นหลังๆทุกคนที่ต้องการหาคำตอบให้ตัวเองว่า เราต้องการที่จะเรียนอะไร แล้วเราต้องการที่จะเป็นใคร ทำยังไงถึงจะได้เป็นอย่างที่เราใฝ่ฝันในทางของแต่ละคนเอง ซึ่งพี่ขอบอกก่อนนะว่า กระทู้ของพี่จะแยกเป็น  4  part   หลักๆ ซึ่งทำ ( 1 part  ต่อ 1 กระทู้* )  ซึ่งจะแยกได้ว่า  

1 )  ทำยังไงเราถึงจะรู้ตัวเองสักที !!? 

2 ) How to  พิชิต Grade   & สอบทุกสนาม

3  )   The Worth of Book  

ข้อสุดท้ายคือข้อที่ถามคนพี่เยอะที่สุดแล้วพี่ตอบยากที่สุด คือ......

4 ) How to สมัครค่ายมหาลัย

ฮั่นแหน่ะ  พี่ว่าหลายๆคนคงอยากรู้ล้ะละว่า เออว่า วิธีของพี่จะช่วยพวกเราได้จริงมั้ย งั้นเราไปดูกันอ่านกันเลยป่ะ

***การเขียนพี่จะเขียนยังไงก็ได้ให้เราอ่านแล้วเพลินที่สุดให้เราไม่เบื่อเนื้อหาของพี่นาจ้า



พี่ขอเล่าตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยละกัน   สมัยพี่อยู่ ประถมพี่ก็ไม่เคยคิดนะว่าพี่อยากจะเป็นอะไรพี่ก็เรียนๆเล่นๆ มาตลอดจนกระทั่งพี่อยู่ ป.4 พี่ก็ได้ไปดูการ์ตูนเรื่อง 1 ชื่อ Rio  หลายๆคนอาจจะรู้จักเป็น cartoon  ซึ่งพี่ติดแบบหนักมากดูทั้งวี่ทั้งวันจำคำพูดตัวละคนได้หมดเป็นวิๆนาทีและที่สำคัญ เป็นเรื่องที่จุดประกายความหลงใหลในตัวเรื่องจนนำไปสู่ การอยากเรียน สัตวแพทย์ งงม่ะ เพราะเนื้อเรื่องบอกว่านกพันธุ์นี้กำลังสูญพันธุ์เลยอยากเรียนไปรักษานก 555555555555  จากนั้นอ่านหนังสือหนักเลยจ้า หาข้อมูลสอบเข้านู่นนี้นั้นบลาๆๆๆ เพื่อจะเข่้าสัตวแพทย์ให้ได้จน ถึงจุดๆนึงพี่ก็รู้สึกว่า พีี่ทรมาน จนพี่กลับมาคิดใหม่ เออ เราแค่อยาก แต่เรา ไม่ได้รักในอาชีพนี้ เราแค่รักนก   พี่เลยอะพอ เพราะความบ้าเรียนตอนนั้นทำให้เสียอะไรไปหลายๆอย่างโดยเฉพาะ  การลืมมองสิ่งรอบข้างว่าอะไรที่เราทำแล้วมันมีความสุข   จากนั้นพี่ก็เลยเลิกบ้าเรียนมาเรียนแล้วหัวกลับมาแบบมีความสุขดีกว่า 



จากนั้น ม.3 ก็ได้ไป open house  CU ก็ไปกับรุ่นพี่ที่รู้จัก ก็ไปเดินคณะนู้นคณะนี้  จนไปกับพี่อีก 2 คน ไปคณะ จิตวิทยา เออ เราว่าแปลกดีก็เลย ไปล้วยฮะ เพ่ๆ จากนั้นก็เดินตาม ดุ่มๆๆ ไปก็ไปนั่งเดินนอนกลิ้ง   แถวนั้นเที่ยงจน 5 โมงเย็น 5555555  แต่สิ่งที่ได้จากคณะคือ เออ  qualification  กับ attitude  กับคณะนี้เออ เราตรงในหลายๆจุดเราเลยแบบอะจะลองเดินทางสายนี้ดู ก็เลยกลับมาอ่านหนังสือเพราะจะขึ้น ม.4 แล้ว เลยอ่านตั้งแต่วันนั้นแบบอ่านให้มีความสุขอะ ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นแบบเมื่อก่อน จากนั้น พอ ม.5 เทอม 1 ป๊าม๊า ไม่ให้เรียนเด้อจ้าา ตอนนั้นแบบ ห๊ะอะไรนะ พูดอีกทีสิ     ⊂((・⊥・))⊃  ( อะเฮืออออออออออ ขอ potion &  ใบชุบด่วน ) ฝันสลายรอบที่ 2 เลยจ้าาาแม่แรงมากแม๊ ( เพราะ ออกมาหางานยาก ) จิดใจพี่นี่เหี่ยวเลยจ้าา     (´°̥̥̥̥̥̥̥̥ω°̥̥̥̥̥̥̥̥`) ฮรื้ออออ 



จากนัั้น คือแบบหมดหวังกับชีวิตเลยจากไม่รู้จะไปทางไหนจะไปยังไง ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อแบบไม่รู้จริงๆ จน ม.5 เทอม 2  แม่ก็บอกลองดู เภสัช มั้ยซึ่ง พี่ไมไ่ด้ชอบ way  นี้อะ  พี่เลยพยายามหาข้อเหตุผลให้ได้ที่จะไม่เรียนเภสัช ทำให้เขารู้ว่าเออ  เราจะไปทางในทางของเราได้ดีกว่าสิ่งที่พ่อแม่กำลังจะยื่นให้้  จนไปเจอ    ค่ายๆนึง ทำให้ ชีวิตพี่ตั้งแต่วันนั้นเปลี่ยนพี่มาเป็นแบบนี้ทุกวันนี้ ทำให้พี่มาเขียนเรื่องนี้ให้เราอ่าน  อะต่อปาย  มันเป็นจุดเริ่มต้นพี่ทำให้เปิดเส้นทางไปเจอตัวของพี่จริงๆว่าพี่ต้องการจะเป็นใคร   เรียนเพื่ออะไร  และเกิดมาเพื่ออะไร   เพราะพี่สมัครค่ายไปต่อ  สิริ (รวม )  8  ค่ายจ้าาา  สรุป  คือ 

ค่าย  1  จุดประกายพลังงานชีวิตกลับมาใหม่ให้  เกิดการสมัครค่ายต่อไป  

ค่าย  2  ค่ายที่ทำให้เกิดการรู้ตัวเองจริงๆว่าต้องการเรียนอะไร  และไม่มีใครติดปัญหากับคณะนี้ทุกคน

ส่วนค่าย  3 - 8  เป็นค่ายที่เสริมประสบการณ์ชีวิตที่เอามาบอกต่อกับทุกคนได้ดีจริงๆ

เลยทำให้พี่หาเหตุหผลที่จะไปเรียนคณะของ ค่ายที่ 2  เนี่ยได้ จนพ่อแม่พี่ยอมให้เรียนในสิ่งที่พี่ชอบได้

ขอ   ref    เบาๆว่า ค่ายมหาลัยคือ  1   ใน  3  วิธีที่ทำให้ให้เรารู้ตัวเองว่าเราอยากเรียนอะไร จริงๆ  สำหรับชีวิตพี่เลยนะจะบอกให้ ไม่บอกใน part นี้หรอก คิ้กค้ากกกกกกกกก 



อะมาสรุปกันดีกว่า อ้อขอบอกก่อนว่า นี่คือการย่อแบบที่สุดเท่าที่พี่เคยย่อมาแล้วจริงๆ 555555  อะต่อๆๆ  ถ้าน้องอ่าน(ถึง)ตรงนี้นะ   น้องจะบอกแบบพี่ว่าเปลี่ยนอะไรเยอะแยะวะ เออจริงน้องพี่เปลี่ยนมาเนอะ จริงๆพี่มีอยากมากกว่านี้อีกแต่พี่เอาแบบหลักๆให้เรามาดูว่า  บางทีสิ่งที่เราอยากเป็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับสภาพตลาดแรงงานเรา  หรือ  สิ่งที่เราอยากเป็นอาจจะโดนปฎิเสธจากทางบ้าน     หรือ  เราอาจจะโดนบังคับให้เรียนในสิ่งที่ไม่อยากให้เรียน  แต่พี่อยากให้เรา ลองเปิดใจในหลายๆแบบ  และอาจจะต้องยอมรับบ้างในบางสิ่ง...........? อย่างเราอาจจะเปิดใจคุยกับพ่อแม่เรื่องเรียนต่อว่าทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ๆ จึงไม่อยากเรียนคณะที่พี่แม่เสนอมาให้ หรือ เปิดใจเรื่องคณะที่พ่อแม่หยิบยื่นมาให้ หรือ เปิดใจที่จะลองหาคณะใหม่ๆดูเพื่อตัดปัญหาระหว่างเรากับทางบ้าน และเราก็ต้องยอมรับในสื่งที่เราเลือกหรือรับมาเราอาจจะไม่ได้ perfect  เว่อร์วังปาจิงโก๊ะอะไรก็ตามเพราะมันไม่มีทางที่ชีวิตนี้จะมีแต่ถนนเส้นตรง  เพราะ อย่าลืม  เรามีปัญหาชีวิตไม่เหมือกัน ทุกคนมีโอกาส standardชีวิต สังคม สภาพแวดล้อม ครอบครัว โรงเรียน เพื่อน ไม่เหมือนกัน   แต่เราเลือกที่จะเป็นแบบเราได้

"    เราสามารถฝื่นชะตาชีวิตตัวเองที่มีน้อยกว่าคนอื่นให้มีเท่าหรือมากกว่าคนอื่นได้ ชีวิตคนเราไม่ไ่ด้อยู่ที่ว่ามีแค่นี้ทั้งชีวิตฉันจะต้องอยู่แค่นี้   พ่อแม่ฉันบังคับแบบนี้ฉันต้องทำตามพ่อแม่แบบนี้   ค่านิยมแบบนี้ฉันต้องเป็นแบบนี้  เพื่อนเรียนอย่างนี้ฉันต้องเรียนตามเพื่อน " No!! น้องฟังพี่ไว้นะ ไม่มีใครมาบังคับชีวิตน้องได้ตลอดทั้งชีวิต   ไม่มีใครจะตามชี้ทางเราไปได้ตลอดเวลา และ ไม่มีใครจะมาหยุดการพัฒนาชีวิตของน้องได้แน่นอน ยกเว้น ตัวของน้องเอง สุดท้ายโลกจะสอนให้เราพึ่งพาตัวเองให้รู้จักทำอะไรด้วยตัวเองตลอดจนการเอาตัวรอด จนกว่าเราจะแก่ละนอนโลงไปเลยจ้าแม่ 555555555

( *** บางทีเวลาที่เรากำลังหาตัวเอง อาจเป็นบางสิ่งที่จะอยู่ใกล้ตัวเราจนเราลืมไปว่ามันคือตัวตนของเราก็ก็เป็นหรือ  มันอาจจะอยู่ไกลตัวเราไปเลยก็ได้นะจ้ะ อิ_อิ )



อะก็นะจบไปละกับ part 1 นะพี่ก็ไม่รู้ว่า พี่เขียนออกมาได้พอใจกับอารมณ์ของพวกเราแค่ไหน หรือ เนื้อหาอะไรพวกนี้มาดีแค่ไหน  เพราะ part 1  เป็นสิ่งที่รู้ได้ด้วยเฉพาะตัวเองเท่านั้น ไม่ออกไปรู้ไม่ออกไปเจอ ก็ไม่มีวันได้เปิดหูเปิดตารับรู้สิ่งใหม่ๆแน่นอน เพราะบนโลกนี้มีงานมากมายที่เราไม่รู้จัก งานที่เหมาะกับเราอาจจะเป็นเป็นงานที่ทุกคนรู้จักทั่วๆไป  ไม่ก็เป็นที่นิยม หรือ   อาจจะเป็นงานที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก  ไม่มีใครเขาอยากจะเป็นมันอาจจะเหมาะกับเราก็ได้ ไม่มีใครตอบได้ว่าเราเหมาะกับอะไร เพราะถ้าเราไม่ออกไปเจอมันด้วยตัวเอง เราก็จะไม่มีทางรู้เลยว่า " ที่จริงแล้ว ตัวเรานะเกิดมาเพื่ออะไร ทำอะไร   และ เป็นใคร "  นะขอรับกระผม 



สิ่งที่พี่อยากให้พวกเราได้จาก  กระทู้นี้เนอะ

1 ) อยากให้น้องคนไหนที่ยังไม่รู้ตัวเอง   ก็หาตัวเองได้แล้วตอนนี้

2 )  อยากให้น้องมีทางเดินเป็นของตัวเองไม่ต้องไปตามใคร

3 )  อยากให้น้องทุกคน happy ทุกๆสิ่งไม่ว่าจะเรียน หรือ ใช้ชีวิตประจำก็ตาม



สุดท้ายจริงๆละขออีกนิดๆ ขออวยพรหน่อย 5555555 ก็ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดีนาจ้าาาา พี่ก็ขอให้ part 1 ของพี่เป็น  ส่วนที่ทำให้น้องๆ เกิดกำลังใจอยากออกไปหาตัวเอง หรือ กลับมามีพลังในการใช้ชีวิตต่อหลังจาก fail  มาจากเรื่องอะไรก็ตาม   พี่ขอให้พวกเราได้พบ  ได้เจอ ในสิ่งที่เราใฝ่ฝัน และ ใฝ่หา  ไม่ว่าจะกำลังหาอยุ่ หาเจอแล้ว หรือ ยังหาไม่เจอ  พี่ก็ขอให้เจอกันทุกคนในเร็ววันด้วยนาจ้าาาา แจกันใน part ถัดไป


 " Write Your  life Story Youself "

 
 
*ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม

Other   Parts 
Part 2   How to พิชิต Grade & สอบทุกสนาม 2
 https://www.dek-d.com/board/view/3966468/
Part 3 The Worth of book 
  https://www.dek-d.com/board/view/3972097/
Part 4 How to สมัครค่ายมหาลัย
https://www.dek-d.com/board/view/3982834/
 

 









 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

B_Chawit 21 มี.ค. 63 เวลา 10:27 น. 2-1

Ep. จะทำให้ดีกว่านี้เด้อออ รออ่านได้เลยจ้าา


0
horseboy 23 มี.ค. 63 เวลา 19:27 น. 3

ไม่ไหวแล้ว อ่านแล้วจะร้องไห้มันเหมือนจุดประกายไฟจริงๆนะว่าควรเรียนอะไรยังไง :—;

1
B_Chawit 23 มี.ค. 63 เวลา 19:32 น. 3-1

Part ต่อไปพี่จะบอกวิธีลัดฉบับพี่เอง รออ่านได้เลยนาจ้าา


0