Spoil
- ลัทยอมมาแข่ง MasterChef Thailand เพราะหมอดูบอกให้มา!
- ตอนแข่งทำหางจระเข้ ลัทเป็นคนเดียวที่กล้าชิมเนื้อมันแบบดิบๆ
- ตอนแข่งทำเนื้อ A5 หมอตั้มแอบหั่นเก็บไว้กินเองส่วนนึงด้วย เพราะหากินยาก
_____________________________
ถึงแม้ว่ารายการจะจบไปแล้ว แต่ความฮอตของ MasterChef Thailand Season2 ยังไม่จบ ทั้งเชฟทั้งผู้เข้าแข่งขันเดินสายตอบคำถามรัวๆ เพราะหลายคนอยากรู้มากๆ ว่าเบื้องหน้ารายการสนุกขนาดนี้ เบื้องหลังจะแซบขนาดไหน #dekdLive ก็เลยคว้าตัวหมอตั้มกับลัท มานั่งคุยด้วยซะเลย
1. หมอตั้มมาสมัครแข่งขัน เพราะอยากจะทำตำราอาหารเพื่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะได้เอาไปทำตามที่บ้านได้ง่ายๆ และถูกหลักโภชนาการด้วย
2. หมอตั้มไม่กินผักสีเขียว! ถึงจะเป็นหมอ และอยากดูแลเรื่องโภชนาการคนไข้ แต่หมอตั้มบอกว่าถ้าเลือกได้ก็กินผักสีอื่นๆ ดีกว่า เช่น แครอท หรือฟักทอง ที่ไม่กินผักสีเขียวเพราะรู้สึกว่ามันขม ยิ่งเป็นคะน้าจะเบือนหน้าหนีทันที
3. ลัทมาสมัครแข่งขัน เพราะหมอดูบอกให้มา! ซึ่งหมอดูบอกว่าดวงลัทมีทางเลือกให้ 2 ทาง คือไปเป็นเชฟในโรงแรมหรือไปสมัครมาสเตอร์เชฟซะ ลัทบอกเป็นเชฟน่าจะยาก งั้นมาสมัครแข่งดีกว่า!
4. ลัทกินได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ขนาดเนื้อจระเข้ดิบก็ชิมมาแล้ว ทำเอาผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆช็อกไปเลย แอบบอกด้วยว่ารสชาติเหมือนเนื้อไก่ แต่เด้งกว่า ใครอยากลองชิมก็ไปซื้อมาทำกันได้ แค่หางละ 40,000 บาทเอง
5. วัตถุดิบที่ช็อกที่สุดสำหรับหมอตั้มคือ หางจระเข้ เพราะว่าตอนเห็นครั้งแรกกล่องมันใหญ่มากๆ แถมยังสูงกว่ากรรมการทั้งสามท่านอีกต่างหาก เลยกลัวว่าถ้าเอาจระเข้ทั้งตัวมาให้จะทำยังไงดี
6. วัตถุดิบที่ช็อกที่สุดสำหรับลัทคือ ไก่บ้าน ครั้งแรกที่เห็นวัตถุดิบนี้ก็รู้สึกว่ามันน่ากลัวมากๆ แต่ก็โชคดีที่ในรอบนั้นได้ปลาดุกไปแทน ลัทบอกว่าถ้าได้มาก็คงจะนั่งคุยกับไก่บ้านว่า ทำไมเธอขนเยอะจัง!
7. ผู้เข้าแข่งขันที่ทั้งสองคนกลัวที่สุดคือจ๋า ในรอบที่วัตถุดิบเป็นกุ้งแม่น้ำ คนอื่นๆ จะใช้แค่เนื้อส่วนหางเท่านั้น แต่จ๋าใช้ทั้งตัว! หมอตั้มถึงกับบอกว่าทำใจตกรอบตั้งแต่ตอนนั้นเลย
8. หมอตั้มเคยเข้าใจว่าลัทอายุน้อยกว่าตัวเอง เพราะหน้าเด็กมาก แถมยังเคยเรียกว่า น้องลัทด้วยนะ กว่าจะถึงบางอ้อว่าลัทอายุมากกว่าก็ตอนได้ยินมินเรียกลัทว่าพี่
9. ที่ปรึกษาในรายการของหมอตั้มและลัทคือ จ๋า เพราะจ๋ามีความรู้เกี่ยวกับอาหารเยอะมาก จุดที่มักจะไปปรึกษากันบ่อยๆคือห้องอุปกรณ์เพราะที่นั่นกล้องจะตามไปไม่ได้
10. ลัทจะแฮปปี้มากถ้าเกิดว่าเปิดกล่องปริศนาออกมาแล้วเป็นผลไม้ ต่อให้ได้ทุเรียนที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกก็โอเค
11. วัตถุดิบในรายการที่หมอตั้มชอบที่สุดคือ เนื้อ A5 เพราะชอบกินเนื้อมากๆ แถมยังแอบหั่นไว้กินเองอีกต่างหาก หมอบอกว่าต่อให้ตกรอบก็ไม่เป็นไร เพราะได้กินของดีแล้ว
12. ตั้งแต่รายการเริ่มออกอากาศชีวิตของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปมาก เพราะเริ่มมีคนจำได้ ลัทถึงกับบอกว่า ตอนนี้ถ้าไม่แต่งหน้า ออกจากบ้านไม่ได้แล้ว ส่วนหมอตั้มถ้าไปออกตรวจที่โรงพยาบาลแล้วไม่เซ็ตผม คนไข้ก็จำไม่ได้ บางคนจะลังเลว่าเอ๊ะ ใช่มั้ยนะ หมอก็เลยรอดตัวไป
13. คอสตูมในรายการทางทีมงานเป็นคนเลือกให้ตามคาแรคเตอร์ของแต่ละคน เพื่อให้คนดูจำได้ แต่ในชีวิตจริงทั้งสองคนบอกว่าไม่แต่งแบบนี้หรอกนะ
14. ตอนไปแข่งทำอาหารให้ลูกเสือที่ทะเลนั้นอากาศร้อนมาก แดดแรงสุดๆ กลับบ้านไป ลัทถอดเสื้อออกมาเป็นรอยไหม้ขาวดำตามเสื้อเลย ต้องใช้เวลาตั้ง 3 เดือนกว่าจะหายไป
.jpg)
15. หมอตั้ม จ๋า และกอล์ฟ มารวมตัวเป็นแก๊งไก่บ้านได้เพราะเป็นขาเมาท์ระดับท็อปประจำรายการ! ส่วนชื่อแก๊งไก่บ้านก็มาจากที่กะปอมเลือกไก่บ้านให้ทั้งสามคนใน Ep.6 นั่นเอง
16. ลัทบอกว่าในแก๊งไก่บ้าน กอล์ฟเมาท์เก่งที่สุด! ส่วนคนที่โดนกอล์ฟเมาท์บ่อยๆ คือเบลล่า เรียกว่าถ้าหันหลังให้เมื่อไหร่ จะเริ่มเมาท์ทันที
17. ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะมีกล้องตามประกบอยู่คนละตัว พร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ซึ่งจับตาดูตลอดเวลา บางทีไฟไหม้ที่สเตชั่น เชฟยังรู้ก่อนผู้เข้าแข่งขันเลย
18. นอกจากทีมกล้องตามประกบ ยังมีทีมเสียงที่คอยฟังตลอดเวลา ครั้งนึงหมอตั้มอุทานเบาๆ ว่า ชิบหายแล้ว เท่านั้นแหละ ทีมก็ส่งเชฟมาทันที น่ากลัวจริงๆ
เบื้องหลังของหมอตั้ม ลัทและรายการ MasterChef Thailand ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ถ้าอยากรู้ว่าทั้งสองคนมาแอบมาเมาท์อะไรไว้อีกบ้าง ก็ไปดูกันแบบเต็มๆ ได้ที่ #dekdLive ในเพจบันเทิงดารา : Dek-D Entertainment ได้เลย น้องๆ ชาว Dek-D.com อยากให้เราชวนใครมาเมาท์อีกก็คอมเมนต์กันได้เลยนะ
1 ความคิดเห็น
โอ๊ยยยยย พี่กอล์ฟขาเม้าท์ แด๊ดดี้ของนุ๊