พูดคุยกับ วงดนตรีน้องใหม่ “Yes Indeed” พร้อม 23 เรื่องจริงที่จะพาทุกคน “เลื่อนชั้น” ไปรู้จักกับพวกเขามากขึ้น

23 เรื่องจริง ที่จะพาทุกคน "เลื่อนชั้น" ไปกับ "Yes Indeed"

วินาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับวงดนตรีคนรุ่นใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์สยามแตก อย่าง “Yes Indeed” สมาชิกประกอบไปด้วย แพนเค้ก, พอร์ส, ทะเล, มังกร และตฤณ จากกลุ่มเพื่อนเล่นเปิดหมวกเอาสนุกใจกลางสยามสแควร์กลายเป็นกระแสฮอตเกินต้าน ในตอนนี้พวกเขาทั้ง 5 คน ได้ “เลื่อนชั้น” เป็นศิลปินเต็มตัวกับ ค่าย White Music ในเครือ GMM Grammy เป็นที่เรียบร้อย วันนี้พี่แป้งจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาเลื่อนชั้นไปพร้อมๆ กันเลยยย!!

1.ก่อนหน้านี้ยังไม่มีชื่อวงอย่างเป็นทางการ จนเหล่าผู้ติดตามและแฟนคลับพากันเรียกร้อง ซึ่ง ‘พอร์ส’ เล่าว่า ชื่อของวงได้มาจากคอมเมนต์ของแฟนๆ ที่บอกว่าวงนี้ “มันใช่เลย” ก็เลยเอาคำว่า Yes บวกกับด้วยคำว่า Indeed ที่เข้ามาขยายคำว่า ใช่ ให้มากขึ้น จนกลายเป็นชื่อวง “Yes Indeed” นั่นเอง

2.จุดเริ่มต้นของวงมาจาก ‘พอร์ส’ และ ‘แพนเค้ก’ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ทั้งคู่ร้องเพลง cover ลงในโซเชียล แต่ก็รู้สึกว่าอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง เลยอยากทำวงเล่นดนตรีสดออกไปเปิดหมวก แต่จะทำแค่ 2 คนก็คงเหงา เลยทักไปชวน ‘มังกร’ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยประถมของพอร์สเข้ามาแจมด้วย

3.พอมีกันอยู่ 3 คนก็ยังรู้สึกว่า ยังขาดอะไรไปอีก เลยทักไปชวน ‘ทะเล’ ที่เป็นเพื่อนของเพื่อนกับทางแพนเค้ก ให้มาช่วยเล่นกีตาร์ ส่วนน้องเล็กของวงอย่าง ‘ตฤณ’ เดิมทีไม่ได้รู้จักกับใครในวงเลย แต่เจ้าตัวเป็นแฟนคลับและมีโอกาสได้ดูวงนี้เล่นที่เอเชียทีค เลยทักไปขอร่วมแจมด้วยอีกแรง  

4.‘แพนเค้ก’ เล่าว่า ตอนเด็กๆ ตัวเองไม่ได้มีความคิดอยากจะเป็นศิลปินเลย เพราะที่บ้านเป็นนักดนตรีอยู่แล้ว ทำให้เคยชินและเบื่อกับด้านนี้ไปแล้ว เลยอยากลองทำสิ่งที่แตกต่างดูบ้าง แพนเค้กมีความฝันหลากหลายด้านมากๆ เช่น นักแสดง ทนายความ พยายามค้นหาตัวเองมาอีกเรื่อยๆ จนได้ออกมาร้องเพลงเปิดหมวกก็ทำให้ค้นพบว่า จริงๆ แล้วตัวเองนั้นชอบ และอยากที่จะส่งพลัง ความคิด และโชว์เสียงร้องไปให้ทุกคนได้ฟัง  

5.ต่อมา ‘พอร์ส’ บอกว่า ในวัยเด็กเจ้าตัวอยากเป็น นักบินอวกาศ ศิลปิน นักแสดง อยากทำอาชีพที่รู้สึกว่า ยากที่จะได้เป็น เพราะอยากลบคำสบประมาท และอยากก้าวข้ามอะไรบางอย่างในตัวเอง จนความฝันเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า อยากเป็นศิลปินก็ตอน ป.2 เพราะได้ดูหนังเรื่อง ‘SuckSeed ห่วยขั้นเทพ’ 

6.ทางด้าน ‘ตฤณ’ เล่าว่า เจ้าตัวไม่เคยคิดและไม่ได้มีความฝันว่าจะมาสายดนตรีเลย เพราะมองว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดาคนนึงที่เล่นดนตรีได้ แต่พอได้ลองมาจอยกับอีก 4 คน แล้วทุกอย่างมันไปในทิศทางที่ดี เลยทำให้รู้สึกมีความสุขและชอบเล่นดนตรีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความฝันของตฤณมีหลายอย่างมากๆ เคยอยากเป็นคนขับแท็กซี่ เพราะอยากขับรถไปในหลายๆ ที่ด้วย แต่ตอนนี้ก็เริ่มสนใจอยากจะเป็นวิศกร

7.จริงๆ แล้วช่วงประถม ‘มังกร’ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย ส่วนมากจะอยู่ในห้องสมุด แต่พอขึ้น ม.1 ทางโรงเรียนมีงาน Open House มีโอกาสได้ไปดูรุ่นพี่เล่นดนตรี ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะลองเล่นดนตรีดูบ้าง พอได้เล่นและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่า ตัวเองชอบและอยากที่จะทำสิ่งนี้ไปตลอด

8.ส่วน ‘ทะเล’ แรกเริ่มเดิมทีเจ้าตัวไม่ได้อยากเป็นนักดนตรีเลย เพราะอยากเป็นนักฟุตบอลมากกว่า แต่ด้วยความที่ทะเลเองก็พอเล่นกีตาร์ได้อยู่บ้าง คุณครูเลยพาไปประกวดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ทะเลเริ่มสนใจเรื่องดนตรีมากขึ้น และอยากเป็นนักดนตรีในที่สุด

9.ถามถึงไอดอลในดวงใจของแต่ละคน ‘แพนเค้ก’ มีไอดอลเป็น ‘แพท - วง KLEAR’ ในด้านการเล่าเรื่องให้เชื่อมกับเพลง การเอนเตอร์เทน และการเพอร์ฟอร์มบนเวที และมี ‘วี - วิโอเล็ต’ ที่ชื่นชอบในสไตล์การร้องที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการร้องเพลง

10.ต่อมา ‘พอร์ส’ บอกว่า ถ้าเป็นในด้านของการเพอร์ฟอร์มบนเวที จะมี ‘กิต - THREE MAN DOWN’ และ ‘เติร์ด - TILLY  BIRDS’  เป็นไอดอล เพราะเป็น  GEN ที่ไม่ห่างกับตัวเองมาก และบนเวทีพี่ๆ ทั้งสองคนก็แสดงได้สุดยอดมากๆ ส่วนเทคนิคการร้องและการเขียนเพลงจะชอบ ‘วง PARADOX’ และ ‘เอก - SEASON FIVE’  

11.ส่วนไอดอลของ ‘ตฤณ’ ก็คือ ‘โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์’ เพราะเป็นนักเปียโนที่บรรเลงเปียโนได้เก่งมากๆ แถมยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย นอกจากเรื่องการเล่นดนตรีแล้วก็ยังมีการทำธุรกิจ ซึ่งตฤณมองว่าเขามีความสามารถที่หลากหลายมากๆ เลยยกให้เป็นไอดอลในดวงใจ

12.ทางด้าน ‘มังกร’ ยกให้ ‘วง LOMOSONIC’ เป็นไอดอลในด้านการเพอร์ฟอร์ม แต่ถ้าเป็นพาร์ทดนตรีจะชอบ ‘ฟิลิปส์ - COCKTAIL’ เพราะว่าเป็นคุณครูที่ช่วยสอนกลองให้กับมังกรนั่นเอง

13.ส่วน ‘ทะเล’ มีไอดอลที่ชอบฟังเพลงบ่อยๆ ก็คือ ‘โป้ - โยคี เพลย์บอย’ ส่วนไอดอลด้านการเล่นกีตาร์เป็นที่ทะเลยกให้เป็นโรลโมเดลเลยคือ ‘Stevie Ray Vaughan’ ศิลปินชาวอเมริกัน  

14.พูดถึงเดบิวต์ซิงเกิลเพลง “เลื่อนชั้น” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อน ที่อยากเลื่อนชั้นเป็นมากกว่าเพื่อน ในดนตรีสไตล์ college pop เพลงนี้ได้ ‘กบ - BIG ASS’ มาเป็น Executive Producer และ ‘ณัฐ - KLEAR’ ไอดอลของทั้ง 5 คน มาควบคุมการผลิต, เขียนคำร้อง, ทำนอง, เรียบเรียง อีกด้วย

15.ก่อนที่เพลงนี้จะคลอดออกมา ทั้ง 5 คนและทีมโปรดิวเซอร์ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด รวมถึงศึกษา นิสัย และคาแรกเตอร์ส่วนตัวของแต่ละคน เพื่อให้ได้เป็นภาษา มุมมอง อารมณ์ ที่สะท้อนเอาตัวตนความเป็น Yes Indeed ออกมาให้มากที่สุด

16.นอกจากนี้ ทั้ง 5 คน ยังมีส่วนร่วมในการดีไซน์วิธีการร้อง และคิดไลน์ดนตรีในสไตล์ของตัวเอง แถมยังได้อัดดนตรีสดกับมือของตัวเองอีกด้วย ซึ่งทั้ง 5 คนรู้สึกดีใจและขอบคุณพี่ๆ ทีมโปรดิวเซอร์มากๆ ที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ลงมือทำเพลงแรกด้วยตัวเอง

17. ‘พอร์ส’ บอกว่า การที่ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัว มันคือความฝันที่ไม่คาดฝัน เพราะมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนพวกเราตั้งตัวไม่ทัน แต่พอตั้งตัวได้แล้วก็รู้สึกว่า นี่แหละมันถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวข้ามบางอย่างเพื่อไปพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ‘แพนเค้ก’ เสริมว่า เหมือนเราอยู่ถูกที่ถูกเวลาด้วย ตอนที่ไปเปิดหมวกเป็นช่วงที่โควิดเริ่มซาพอดี คนส่วนใหญ่ก็คิดถึงคอนเสิร์ตกัน พอไปเล่นในสถานที่ที่เปิดกว้างเลยทำให้ทุกคนสามารถเอ็นจอยไปกับเราง่ายขึ้น รวมถึงเพลงที่เล่นมันหลากหลายแนว เลยทำให้เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย

18. ‘ทะเล’ เล่าว่า ตัวเองเป็นนักเรียนดนตรีคนนึงที่เข้ามาเรียนดนตรี เพราะมีฝันว่าสักวันนึงจะได้เข้าไปในตึกแกรมมี่ที่ตั้งอยู่ข้างๆ โรงเรียน และในที่สุดตอนนี้ความฝันนั้นก็เป็นจริงแล้ว เจ้าตัวรู้สึกดีใจและไม่คิดว่าจะได้เข้ามาไวขนาดนี้ มันเกินคาดมากๆ  

19.‘มังกร’ มองว่า นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เรายังคงต้องไปกันอีกไกล และเผยความลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนว่า ตอนเด็กคุณแม่ชอบร้องเพลงมากๆ เลยบอกอาม่าให้พาไปออดิชันที่แกรมมี่ แต่ตอนนั้นอาม่าพาไปไม่ถูก ก็เลยเหมือนกับว่าวันนี้มังกรได้ทำความฝันของตัวเองและคุณแม่สำเร็จแล้ว

20.ด้าน ‘ตฤณ’ บอกว่า รู้สึกดีใจมากๆ และทุกครั้งที่เข้าตึกก็จะคิดย้อนไปถึงวันแรกที่เดินมาเจอวงนี้ ได้เข้ามาร่วมแจมด้วย จนในที่สุดก็ได้มาเป็นศิลปินแล้ว รู้สึกว่ามันเป็นความบังเอิญที่มาไกลกว่าที่คิดมากๆ ‘พอร์ส’ เสริมว่า ไม่ว่าเราจะได้เจอกันช้าหรือเร็วแค่ไหน อย่างน้อยเราก็ได้เจอกัน และขอขอบคุณทาง GMM Academy ที่ให้โอกาส Yes Indeed ได้ไปออดิชัน และได้กลายเป็นศิลปินในค่ายอย่างทุกวันนี้

21.ทั้ง 5 คน ฝากขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คน ที่คอยซัพพอร์ตกันตลอดมา ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่เป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว และสัญญาว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน รอติดตามกันได้เลย  

22.ทั้ง 5 คน ฝากถึงชาว Dek-D.com ที่มีความฝันว่า ไม่อยากให้มองว่ามันคือความฝัน อยากให้มองว่ามันคือ แผนการในอนาคต ที่เราจะค่อยๆ ทำไปทีละขั้น จนมันประสบความสำเร็จ ส่วนใครที่ยังไม่มีความฝันก็ไม่เป็นไร อย่ากดดันตัวเองว่าเราต้องมีความฝันเหมือนคนอื่น คนที่ไม่มีความฝันไม่ใช่คนที่ผิด ไม่ต้องเร่งรีบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แล้วสักวันหนึ่งเราจะเจอสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเราเอง

23.สุดท้ายนี้ Yes Indeed ยังฝากเชิญชวนชาว Dek-D.com  ทุกคนให้ไปฟังเพลง “เลื่อนชั้น” หรือจะส่งให้เพื่อนที่อยากจะเลื่อนสถานะฟังด้วยก็ได้ และอย่าลืมไปเล่นชาเลนจ์ใน TikTok ใครจะร้อง จะเต้น จะเล่นดนตรี ก็สามารถทำได้หมด ไปจอยกันได้ที่ #เลื่อนชั้นChallenge