สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้ พี่เมก้า ไม่ได้มาคนเดียว แต่หอบหิ้วพี่สาวที่ทั้งเก่งทั้งใจดีพ่วงมาด้วยอีกหนึ่งคน นั้นคือ พี่จุ๊บ ศุภิสรา ภัทรสินมโน นั่นเอง พี่คนนี้เป็นเด็กแอดมิชชั่น 58 ได้คะแนน GAT 300 คะแนนเต็มเชียวละ
.jpg)
พี่จุ๊บ มีดีกรีเป็นถึง 1 ใน 8 นักเรียนท็อปแอดมิชชั่นปี 58 แถมตอนสอบ GAT ยังฟาดคะแนนไปกินจนอิ่มพุงกาง 300 คะแนนเต็ม! คุณพระช่วย! ไม่รู้ว่าทำได้ยังไง เอาเป็นว่าเชิญพี่จุ๊บ มาแบ่งปันเคล็ดลับเตรียมสอบ GAT ให้ได้คะแนนเต็มกันเลยดีกว่า น้องๆ รีบไปเตรียมหากระดาษมาจดกันเลยนะคะ อิอิ
พี่เมก้า Dek-D : สวัสดีค่ะ แนะนำตัวให้น้องๆ Dek-D ได้รู้จักกันหน่อยนะคะ
พี่จุ๊บ : สวัสดีค่ะ พี่จุ๊บ ศุภิสรา ภัทรสินมโน นะคะ ตอนนี้เรียนอยู่คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ :)
พี่เมก้า Dek-D : เคล็ดลับในการอ่าน GAT เชื่อมโยง น้องจุ๊บเน้นยังไงคะ?
พี่จุ๊บ : วิชานี้จุ๊บไม่ได้เน้นอ่านแบบซีเรียสเลย ตอนแรกก็ไปลงเรียนพิเศษพาร์ทเชื่อมโยงรอบหนึ่งก่อนเพื่อให้เข้าใจหลักการ เข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆภายในข้อสอบ คล้ายเป็นการจับทางก่อนอ่ะค่ะว่าข้อสอบลักษณะนี้เป็นอย่างไร ควรเน้นที่ตรงไหน พอเราได้หลักการแล้วก็ค่อยไปหาหนังสือแบบฝึกหัดมาฝึกทำ ซื้อมาหลายๆเล่มเลยนะคะ ฝึกทำจนกว่าจะได้เต็มอ่ะค่ะ เพราะการเน้นที่ข้อสอบเก่าจะทำให้เราชินกับข้อสอบ
พี่เมก้า Dek-D : จะทำความเข้าใจพาร์ทเชื่อมโยงแบบง่ายๆได้ด้วยวิธีอะไร?
พี่จุ๊บ : ความจริงพาร์ทเชื่อมโยงไม่ยากเลยค่ะถ้าเข้าใจหลักการ จุ๊บแนะนำว่าถ้าน้องยังไม่เข้าใจลองไปเรียนพิเศษสักครั้งหนึ่งก่อนอ่ะค่ะเพื่อให้ได้คีย์เวิร์ดในการทำข้อสอบ ที่เหลือคราวนี้ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราล้วนๆเลยค่ะ
เคล็ดลับสำคัญของจุ๊บยังไงก็ต้อง ฝึกฝนทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ค่ะ ข้อสอบเก่าช่วยได้ ถ้าน้องยังไม่เข้าใจต้องใช้เวลากับข้อสอบมากๆค่ะ ฝึกทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เต็ม ถ้ายังไม่ได้เต็มห้ามหยุดเด็ดขาดค่ะ เวลาทำแบบฝึกหัดก็พยายามเน้นจุดที่เราผิด จุดที่ยังไม่เข้าใจ ฝึกทำไปเรื่อยๆแล้วก็ค่อยๆทำความเข้าใจไปค่ะ อย่าลืมนะคะ ฝึกทำจนกว่าจะได้คะแนนเต็ม :)
พี่เมก้า Dek-D : แนะนำหนังสือ GATเชื่อมโยงที่ทำแล้วน่าจะได้คะแนนเต็มหน่อย
พี่จุ๊บ : หนังสือ GAT เชื่อมโยงที่จุ๊บใช้ได้ผลเลยนะคะ เป็นหนังสือเล่มสีขาวที่มีตัวอักษรเขียนว่า GAT ตัวใหญ่ๆเลยอ่ะค่ะ จุ๊บจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเขียนแต่ดีมากจริงๆ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งดูซีดี GAT ด้วยค่ะ ซื้อมาดูมาฝึกทำเองที่บ้าน อันนี้เป็นของบ้านบัณฑิตค่ะ ดูซีดีสะดวกแล้วก็มีสมาธิด้วย เราสามารถนั่งทำแบบฝึกหัดไปได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปเรียนพิเศษนอกบ้าน ทำได้ทั้งวันเลยค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : สวัสดีค่ะ แนะนำตัวให้น้องๆ Dek-D ได้รู้จักกันหน่อยนะคะ
พี่จุ๊บ : สวัสดีค่ะ พี่จุ๊บ ศุภิสรา ภัทรสินมโน นะคะ ตอนนี้เรียนอยู่คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ :)
พี่เมก้า Dek-D : เคล็ดลับในการอ่าน GAT เชื่อมโยง น้องจุ๊บเน้นยังไงคะ?
พี่จุ๊บ : วิชานี้จุ๊บไม่ได้เน้นอ่านแบบซีเรียสเลย ตอนแรกก็ไปลงเรียนพิเศษพาร์ทเชื่อมโยงรอบหนึ่งก่อนเพื่อให้เข้าใจหลักการ เข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆภายในข้อสอบ คล้ายเป็นการจับทางก่อนอ่ะค่ะว่าข้อสอบลักษณะนี้เป็นอย่างไร ควรเน้นที่ตรงไหน พอเราได้หลักการแล้วก็ค่อยไปหาหนังสือแบบฝึกหัดมาฝึกทำ ซื้อมาหลายๆเล่มเลยนะคะ ฝึกทำจนกว่าจะได้เต็มอ่ะค่ะ เพราะการเน้นที่ข้อสอบเก่าจะทำให้เราชินกับข้อสอบ
พี่เมก้า Dek-D : จะทำความเข้าใจพาร์ทเชื่อมโยงแบบง่ายๆได้ด้วยวิธีอะไร?
พี่จุ๊บ : ความจริงพาร์ทเชื่อมโยงไม่ยากเลยค่ะถ้าเข้าใจหลักการ จุ๊บแนะนำว่าถ้าน้องยังไม่เข้าใจลองไปเรียนพิเศษสักครั้งหนึ่งก่อนอ่ะค่ะเพื่อให้ได้คีย์เวิร์ดในการทำข้อสอบ ที่เหลือคราวนี้ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราล้วนๆเลยค่ะ
เคล็ดลับสำคัญของจุ๊บยังไงก็ต้อง ฝึกฝนทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ค่ะ ข้อสอบเก่าช่วยได้ ถ้าน้องยังไม่เข้าใจต้องใช้เวลากับข้อสอบมากๆค่ะ ฝึกทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เต็ม ถ้ายังไม่ได้เต็มห้ามหยุดเด็ดขาดค่ะ เวลาทำแบบฝึกหัดก็พยายามเน้นจุดที่เราผิด จุดที่ยังไม่เข้าใจ ฝึกทำไปเรื่อยๆแล้วก็ค่อยๆทำความเข้าใจไปค่ะ อย่าลืมนะคะ ฝึกทำจนกว่าจะได้คะแนนเต็ม :)
พี่เมก้า Dek-D : แนะนำหนังสือ GATเชื่อมโยงที่ทำแล้วน่าจะได้คะแนนเต็มหน่อย
พี่จุ๊บ : หนังสือ GAT เชื่อมโยงที่จุ๊บใช้ได้ผลเลยนะคะ เป็นหนังสือเล่มสีขาวที่มีตัวอักษรเขียนว่า GAT ตัวใหญ่ๆเลยอ่ะค่ะ จุ๊บจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเขียนแต่ดีมากจริงๆ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งดูซีดี GAT ด้วยค่ะ ซื้อมาดูมาฝึกทำเองที่บ้าน อันนี้เป็นของบ้านบัณฑิตค่ะ ดูซีดีสะดวกแล้วก็มีสมาธิด้วย เราสามารถนั่งทำแบบฝึกหัดไปได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปเรียนพิเศษนอกบ้าน ทำได้ทั้งวันเลยค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : สำหรับ GAT ภาษาอังกฤษล่ะคะ มีเคล็ดลับอะไรมั้ยเอ่ย?
พี่จุ๊บ : สำหรับวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ตัวจุ๊บเองถนัดอยู่แล้ว คล้ายกับว่ามีพื้นฐานความชอบแล้วก็สนใจมาตั้งแต่เด็กค่ะ เคล็ดลับของจุ๊บเลยจะเป็นเน้นทำข้อสอบเก่าเยอะๆเหมือนกัน เพราะว่าแนวข้อสอบ GAT แต่ละปีจะยังไม่ห่างกันมาก ทำเยอะๆเอาหลายหน้าไว้ก่อน ทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะได้เต็มอ่ะค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : เก็งข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษให้หน่อย
พี่จุ๊บ : ข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษค่อนข้างมีแนวที่ชัดเจนค่ะ จะเป็นการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยรวมแบบไม่ยากมาก ที่เห็นบ่อยๆ ออกข้อสอบเยอะ และจุ๊บให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็จะมี 4 เรื่องนี้เลย
1. Word Form พวก Nouns, Verbs, Adjectives อ่ะค่ะ
2. Paragraph ปีที่จุ๊บสอบจะมีข้อสอบที่เป็นลักษณะของ Paragraph ด้วย ประมาณเรียงข้อความว่าอันไหนมาก่อนมาหลัง ตรงนี้จุ๊บจะเน้นเป็นพิเศษค่ะ คืออ่านGrammar ให้พอเข้าใจได้ ที่เหลือก็จะฝึกเรียงทีละ Paragraph ไปตามลำดับ ฝึกไม่ยากค่ะ แค่ลองอ่านโดยภาพรวมแล้วมาจับใจความสำคัญดูค่ะ ประมาณว่าหา Feeling รวมๆของบทความนั้น ตรงไหนที่อ่านแล้วคิดว่าเนี่ย Make Sense ที่สุด เข้าใจที่สุด ก็ควรจะเลือกตอบให้ตรงตามเหตุผลนั้นๆค่ะ
3. Vocabulary พวกศัพท์เฉพาะ ศัพท์เทคนิค หรือศัพท์ทั่วไปในบทความต่างๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญค่ะ จุ๊บก็เน้นศัพท์เยอะเหมือนกันแต่เน้นใช้ให้คุ้นชินมากกว่า คือไม่ต้องท่องแบบซีเรียส หลายคนมองว่าศัพท์ยาก แต่ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องกังวลเลยค่ะ
ถ้าเห็นศัพท์แปลกๆในข้อสอบ ศัพท์เฉพาะทางแพทย์หรือเป็นวิทยาศาสตร์ก็แค่ทำใจนิ่งๆไม่ต้องไปสนใจค่ะ ถ้าพอมีศัพท์ตัวอื่นที่เราแปลได้ก็ลองจับใจความสำคัญดูคร่าวๆว่าเรื่องนั้นกำลังพูดถึงอะไร หรือไม่ก็ลองใช้ศัพท์อื่นที่มีความหมายใกล้เคียงกันมาแทนดูก็ได้ค่ะ เพราะบางทีถ้าไม่รู้จริงๆการดูที่ตัวศัพท์ว่ามีรากศัพท์คำเดียวกันรึเปล่าก็น่าจะช่วยได้ แต่อันนี้ใช้ได้กับบางกรณีเท่านั้นนะคะ
เอาเป็นว่าแค่จับใจความให้เข้าใจภาพรวมของสิ่งที่กำลังพูดถึงก็พอ เหมือนกับว่าอ่านอันไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ มองตามหลักเหตุผลแล้วถูกที่สุดก็ตอบข้อนั้นเลยค่ะ
4. Reading แนะนำว่าข้อสอบพาร์ทนี้ต้องอ่านและฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อยๆจนชำนาญ เวลาทำข้อสอบใช้วิธีอ่านคำถาม สแกนดูในบทความ แล้วหาคำตอบเลยค่ะ
เคล็ดลับสำคัญคืออ่านผ่านๆก่อนรอบหนึ่งแล้วมาตอบ ที่ทำแบบนี้เพราะสมองเรายังพอจำคำถามได้อยู่ว่าใจความที่ต้องการจะหานั้นอยู่ตรงส่วนไหนของบทความ ไม่ต้องถึงกับจำละเอียด แค่พออ่านให้จบก่อนจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาให้เสียเวลาอีกน่ะค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : ถ้าฝึกทำข้อสอบภาษาอังกฤษแล้วพลาดบ่อย มีวิธีแก้ไขยังไง?
พี่จุ๊บ : วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือให้รีบสำรวจตัวเองค่ะ ปกติทำข้อสอบส่วนไหนได้ดีแล้วตรงไหนที่ทำไม่ได้เลย ส่วนที่ทำได้ดีอยู่แล้วให้พัฒนาทำให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่รู้ตัวว่าพลาดจนไม่ไหวแล้วจริงๆก็ควรจะรีบทบทวนให้มากเลยค่ะ
เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจุ๊บคิดว่าคำศัพท์น่าจะช่วยน้องได้เยอะค่ะ น้องควรจะเน้นศัพท์ ท่องศัพท์เยอะๆ เน้นการใช้ภาษาอังกฤษให้เป็นเรื่องสนุก พาตัวเองไปเจอข้อสอบบ่อยๆ การฝึกทำข้อสอบเยอะๆนั้นมาถูกทางแล้วเพราะยิ่งเจอก็จะยิ่งทำได้ เราจะพลาดน้อยลง และจะอยากเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยค่ะ :)
พี่เมก้า Dek-D : ได้เรียนพิเศษภาษาอังกฤษเสริมมั้ยคะ?
พี่จุ๊บ : จุ๊บเรียนภาษาอังกฤษแค่ตอนเด็กอ่ะค่ะ ช่วงประถมถึงม.ต้น ส่วนม.ปลายก็ไม่ได้เรียนแล้วเน้นทำแบบฝึกหัดอย่างเดียวกับอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษค่ะ
จุ๊บคิดว่าการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษจะช่วยเสริมทักษะให้เราได้ในบางเรื่องที่ยังขาดพื้นฐานหรือไม่เข้าใจอยู่ น้องๆต้องลองประเมินตัวเองค่ะว่ามีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับไหน มองว่าตัวเองเก่งแล้วหรือยัง ถ้ามีส่วนที่ไม่เข้าใจลงเรียนเพิ่มน่าจะช่วยได้บ้างค่ะ แต่สิ่งสำคัญเลยคือต้องฝึกฝนฝึกใช้ให้มากๆถึงจะได้ผลดีค่ะ
ภาษาอังกฤษถ้าใช้บ่อยๆไม่ต้องท่องจำหลักไวยากรณ์อะไรเยอะแยะเลยค่ะ ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกถ้าเรามองให้สนุก ก็ไม่มีอะไรต้องซีเรียสค่ะ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนังภาษาอังกฤษที่เป็นซับภาษาอังกฤษอันนี้ดีมากเลยค่ะ ดีมากจริงๆ จุ๊บอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษเยอะมากด้วยค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : กิจกรรมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่คิดว่าสนุกที่สุดในแบบน้องจุ๊บ
พี่จุ๊บ : ตั้งแต่เด็กคุณแม่จุ๊บท่านจะชอบให้อ่านหนังสือค่ะ ตอนแรกจุ๊บก็อ่านนวนิยายแปลพอโตขึ้นคุณแม่ก็เริ่มปลูกฝังให้สนใจภาษาอังกฤษ ด้วยการซื้อนวนิยายภาษาอังกฤษมาให้อ่านแบบที่ไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยแล้วอ่ะค่ะ ด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องราวในหนังสือจะเป็นยังไงจุ๊บก็ลองอ่านเลยค่ะ อ่านแล้วก็ชอบภาษาอังกฤษ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้อ่านนวนิยายแปลอีก เพราะอ่านอังกฤษล้วนจากเจ้าของภาษาได้อารมณ์มากกว่า สนุกเข้มข้นมากกว่า บางทีเวลาอ่านแปลแล้วไปอ่านของต้นฉบับกลายเป็นไม่เหมือนกันเลยรู้สึกว่าต้องลองอ่านเองฝึกแปลเองดูแล้วล่ะ
พี่เมก้า Dek-D : แนะแนวหนังสือที่สามารถฝึกทักษะได้หน่อยค่ะ
พี่จุ๊บ : ที่จริงเรื่องหนังสือนี่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยค่ะว่าชอบอ่านหนังสือแบบไหนแนวไหน อย่างตอนเด็กๆจุ๊บจะชอบ Harry Potter ถ้าให้แนะนำก็คงเป็นซีรีส์ยาวๆแนวแฮรี่ไปเลย ไม่ต้องกลัวว่าศัพท์จะเป็นแฟนตาซีไม่ไปในทางเดียวกับข้อสอบนะคะ เพราะบทความที่ใช้สอบก็ไม่ได้เป็นเรื่องแนววิชาการมากนัก ไม่ใช่ศัพท์ยาก ศัพท์เฉพาะเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ เป็นศัพท์ทั่วไปพอพบเห็นได้ค่ะ
ส่วนเรื่องเพลง จุ๊บเป็นแฟนคลับวง One-Direction อยู่แล้วก็เลยชอบที่จะอ่าน Sub หรือ Interview ต่างๆ ทำให้เป็นแรงบันดาลใจที่อยากแปลนู่นนี่นั่นมาอ่าน ชอบภาษาอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆด้วยค่ะ
พี่เมก้า Dek-D : ฝากข้อความให้กำลังใจถึงน้องๆ ที่กำลังฟิตอ่าน GAT หน่อย
พี่จุ๊บ : ค่ะ ก็อยากให้น้องๆสู้ๆเนาะ พยายามทำให้ดีที่สุด เวลาทำข้อสอบหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติก่อนทำ ทำเสร็จแล้วกลับมาทบทวนตรวจทานดูอีกสักครั้ง ถ้าน้องๆตั้งใจทำดีที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี ประสบความสำเร็จทุกคนนะคะ :)
เคล็ดลับของพี่จุ๊บไม่ยากเลยใช่มั้ยคะน้องๆ เป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งนั้นเลย มีใครสังเกตเห็นบ้างว่าพี่จุ๊บเน้นเคล็ดลับสำคัญอะไร ย้ำซ้ำๆอยู่ 2 คำตลอดเลย ฝึกฝน นั่นเองค่ะ น้องทุกคนมีสิทธิ์คว้าคะแนนเต็มวิชา GAT ได้ ขึ้นอยู่กับความขยันในการอ่านหนังสือ ทบทวนแบบฝึกหัดหรือทำข้อสอบเก่าให้มากๆนั่นเอง
ข้อสอบ GAT เชื่อมโยงแค่หยิบข้อสอบเก่ามาฝึกทำบ่อยๆก็สบายแล้ว ส่วน GAT ภาษาอังกฤษ ฝึกอ่านฝึกใช้ภาษาให้คุ้นชินโดยสังเกตจากเจ้าของภาษา ฟังเพลง ดูหนัง อ่านนวนิยายภาษาอังกฤษ รับรองว่าได้ผลดีจริงๆค่ะ สุดท้ายนี้ อย่าลืมพักผ่อนเยอะๆ อย่ากดดันตัวเอง ทำทุกอย่างให้เต็มที่เท่านี้ก็น่าดีใจและภาคภูมิใจที่สุดแล้วเนอะ น้องๆทุกคนสู้ๆค่ะ :)
10 ความคิดเห็น
เป็นบทความที่ดี ขอบคุณมากครับ
เป็นเทคนิกที่นำไปใช้ได้เลยค่ะ เรื่องภาษาอังกฤษเนี้ย วีธีของพี่จุ๊บน่าลองไปใช้มากค่ะ ขอบคุณมากๆเลย [yy-02]
พี่สุดยอดเลยค่ะ