เขียนยังไง
ให้ได้เป็นนักเขียนหน้าใส (ภาคแรก)
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ มาพบกับแอดมินอีกแล้วนะคะ หวังว่าคงจะไม่เบื่อหน้าแอดมินกันเนอะ เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา แอดมินมีโอกาสได้ไปนั่งฟังเวิร์คช็อปของโครงการนักเขียนหน้าใสปี 9 ที่จัดที่แจมคลับมาค่ะ ซึ่งพี่หญิงก็ได้พาน้องๆ ไปดูภาพบรรยากาศวันงานกันแล้วในบทความ “รวมภาพบรรยากาศสุดฟินในงาน Workshop นักเขียนหน้าใสปี 9” ใครที่ยังไม่ได้ดูก็สามารถเข้าไปดูได้เลยนะคะ
ส่วนวันนี้แอดมินก็จะมาแชร์เคล็ดลับที่ได้จากวันเวิร์คช็อปหน้าใส เชื่อว่าต้องมีประโยชน์กับน้องๆ ทุกคนแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้องที่มาสายรักหวานแหววหรือน้องที่มาสายแฟนตาซีก็มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย ยิ่งน้องคนไหนที่อยากสมัครโครงการนักเขียนหน้าใสยิ่งห้ามพลาดเลยนะคะ
ตัวกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อคือ “เขียนนิยายอย่างไรให้มีเสน่ห์” และ “เขียนนิยายอย่างไรให้ขายดี” โดยมีรุ่นพี่นักเขียนมาร่วมแชร์เทคนิคการเขียนนิยายถึง 6 คนด้วยกัน! และที่สำคัญคือแต่ละคนนั้นล้วนแจ้งเกิดจากเว็บไซต์เด็กดีของเรา!! (ในโครงการนักเขียนหน้าใสของสนพ. แจ่มใสนี่แหละ)
เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูเคล็ดลับรุ่นพี่นักเขียนกันเถอะค่ะ
เขียนนิยายอย่างไรให้มีเสน่ห์
สำหรับพาร์ทนี้นะคะ ได้นักเขียนรุ่นพี่ที่ชนะโครงการนักเขียนหน้าใสมาร่วมกันแชร์เคล็ดลับนักเขียนค่ะ ได้แก่ “นางร้าย” เจ้าของรางวัลนักเขียนหน้าใสปี 2, “Oh_nana” เจ้าของรางวัลนักเขียนหน้าใสปี 4 และ “Porshenocchio” เจ้าของรางวัลนักเขียนหน้าใสปี 8 จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ
เทคนิคการสร้างแรงบันดาลใจ
นางร้ายบอกว่า...
จินตนาการเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเขียน สำหรับนางร้ายจะใช้วิธีการตั้งคำถาม What if ไอเดียของพี่เขาจะมาจากการเดินทางในชีวิตประจำวัน เมื่อเห็นอะไรก็จะตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า “ถ้า... แล้วจะเป็นยังไงนะ?”
ยกตัวอย่างเช่นนิยายเรื่อง “Crosswalk Phobia ทางม้าลายทักทายรัก” ที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แจ่มใสก็เกิดจากการตั้งคำถามที่ว่า ถ้านางเอกเป็นโรคกลัวการข้ามถนน จะเป็นยังไงนะ? ซึ่งแรงบันดาลใจที่ได้ก็เกิดจากการตั้งคำถาม “What if” นี่แหละค่ะ
หรือจะเป็นการจินตนาการถึงผู้ชายคนนึงที่ตรงสเป็คมากๆๆ เราก็จะถามตัวเองก่อนว่า “What wil I do?” เราจะทำยังไงดีนะถึงจะได้เข้ามาเป็นแฟน อะไรประมาณนี้ จากนั้นก็เริ่มต้นวางพล็อต สร้างตัวละครค่ะ
พูดง่ายๆ ก็คือ ให้ขึ้นต้นด้วย “ถ้า” และจากนั้นก็หา “solution” นั่นเองค่ะ
ฟังดูเหมือนกับการตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์เลยนะคะ เยี่ยมไปเลย
Oh_nana บอกว่า…
ถ้าฝั่งของนางร้ายมีความเป็นวิทยาศาสตร์ ฝั่งของ oh_nana ก็คงจะเป็นการ “เสริมความเป็นไสยศาสตร์” ลงไปด้วย เทคนิคหลักๆ ก็คือการคิดนอกกรอบโดยใช้จินตนาการบ้าๆ ออกมา เช่น ถ้าพระนางเกิดตายขึ้นมาจะใช้ชีวิตหลังความตายยังไง ทั้งนี้ทั้งนั้นในทุกจินตนาการต้องมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นด้วย
และสิ่งสำคัญคืออย่าลืมพกสมุดโน้ตติดตัวตลอดด้วย เอาไว้จดตอนไอเดียดีๆ ผุดมา
Porshenocchio บอกว่า...
แรงบันดาลใจของ Porshenocchio มาจากการทำสิ่งต่างๆ ที่จุดไอเดียเช่นการดูซีรี่ส์ แล้วนำมาแตกไอเดียก่อนเอาไปใช้จริงค่ะ รวมทั้งพี่พอร์ชเองก็ใช้เทคนิคตั้งคำถามเช่นกันค่ะ
เทคนิคการสร้างพล็อต
นางร้ายบอกว่า…
พล็อตสำหรับนางร้ายนั้นมี 2 ประเภทคือ พล็อตที่วางคร่าวๆ และพล็อตที่วางละเอียด ซึ่งความจริงแล้วพี่ยิปซีชอบการด้นสดเพราะชอบตื่นเต้นไปกับตัวละคร ดังนั้นจึงเลือกวิธีการวางพล็อตคร่าวๆ ค่ะ สำหรับข้อดี – ข้อเสียของแต่ละแบบมีดังนี้ค่ะ
พล็อตที่วางแบบคร่าวๆ
ข้อดี: คนอ่านตื่นเต้น คนเขียนก็ตื่นเต้นด้วย
ข้อเสีย: ถ้าไม่มีวินัยก็พัง
พล็อตที่วางแบบละเอียด
ข้อดี: เรารู้ว่าต้องทำอะไรก่อน
ข้อเสีย: ถ้าละเอียดมากไปก็อาจจะทำให้คิดไม่ออก
นอกจากนี้พล็อตที่ดียังต้องมี ต้น-กลาง-จบ โดยเราควรมีตอนต้นกับตอนจบไว้คร่าวๆ ส่วนตอนกลางก็สามารถเขียนไปปรับไปได้ค่ะ โดยจุดสำคัญของเรื่องก็คือ “ทำให้ตัวละครรักกัน” จะทำยังไง เรื่องจะมาแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับตอนกลางของเรื่องนี่แหละค่ะ
Porshenocchio บอกว่า...
ควรมีพล็อตแต่ไม่จำเป็นต้องละเอียดมาก จดไว้คร่าวๆ พอให้รู้ว่าเรื่องของเราจะเป็นยังไง มีทิศทางไหน แล้วพอเริ่มเขียนจริงค่อยวางแบบละเอียดๆ อีกทีด้วยการทำทรีตเมนต์ และอย่าลืมต้น-กลาง-จบ ด้วย
Oh_nana บอกว่า...
จริงๆ ไม่ค่อยทำทรีตเมนต์ แต่ก็ควรมีในหัวไว้ว่าพล็อตเป็นยังไง สิ่งสำคัญก็คือควรแบ่งเรื่องออกเป็น 3 ส่วนเหมือนการทำบทละคร ได้แก่ เริ่ม – กลาง – จบ โดยตรงกลางก็ควรจะมีเหตุการณ์พีคๆ เกิดขึ้น ทั้งนี้เราแบ่งเนื้อเรื่องเพื่อให้เราใส่เหตุการณ์ต่างๆ ได้ถูกค่ะ
Porshenocchio - Oh_nana - นางร้าย
(ขอบคุณรูปภาพจากเพจนักเขียนหน้าใส)
เทคนิคการสร้างตัวละคร
นางร้ายบอกว่า...
สำหรับการสร้างตัวละครให้มีเสน่ห์และโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นทักษะส่วนตัวที่ที่ยากมากเพราะนักอ่านแต่ละคนมีความชอบต่างกัน ดังนั้นอย่าตั้งคำถามว่าตัวละครของเราดีพอหรือยัง แต่ให้ถามความรู้สึกของตัวเองว่าเป็นยังไง ชอบหรือเปล่า น่ารำคาญไปมั้ย เป็นต้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวละครเรามีเสน่ห์ก็คือบทสนทนานั่นเองค่ะ
นอกจากนี้นะคะ นางร้ายยังได้บอกอีกว่า ตัวละครที่มีเสน่ห์ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวละครที่ดีค่ะ อาจจะเป็นตัวละครที่เลวก็ได้ แค่ทำให้คนอ่านมีความสนใจก็จะทำให้คนจดจำได้เอง
แอดมินขอสรุปจากสิ่งที่นางร้ายพูดมาก็คือ เวลา check ตัวละครว่าเป็นยังไง ให้ check จากตัวเองค่ะ
Oh_nana บอกว่า...
สำหรับการสร้างเอกลักษณ์ของตัวละครให้โดดเด่นนั้น ถ้าเขียนในบทบรรยายอย่างเดียวก็น่าเบื่อ เราต้องสร้างเหตุการณ์ที่ทำให้นักอ่านรู้จักตัวละครของเราให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นพระเอกเย็นชา ก็ให้สร้างเหตุการณ์ที่ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนเย็นชา แต่ห้ามบอกว่าพระเอกเป็นคนเย็นชา นอกจากนี้เวลาสร้างตัวละครก็ให้นำสมองของเขาใส่เข้าไปด้วยจะทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น
แอดมินขอสรุปจากสิ่งที่ oh_nana พูดมาก็คือ สร้างสถานการณ์ให้คนอ่านรู้ด้วยตัวเองว่าตัวละครเป็นแบบไหน
Porshenocchio บอกว่า...
การสร้างตัวละครที่โดดเด่นและมีเสน่ห์คือการเขียนให้ตัวละครมีปูมหลัง มีมิติ เช่นเป็นคนเลว ทำไมถึงต้องเลว เราต้องหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลมาสนับสนุน รวมทั้งอย่าลืมสร้างเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการกระทำของตัวละครด้วยค่ะ อีกทั้งการสร้างเอกลักษณ์ให้คนอ่านจำได้ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ
เทคนิคการตั้งชื่อตัวละคร
นางร้ายบอกว่า...
วิธีการตั้งชื่อสำหรับนางร้ายก็คือการ “เลือกชื่อให้เข้ากับตัวละคร” นั่นเองค่ะ อาจจะเริ่มจากการเอาชื่อคนรู้จักมาดัดแปลง หรือถ้าคิดชื่อได้ก่อนก็ต้องหาคนที่มีนิสัยแบบนี้มาสร้างคาแร็กเตอร์ค่ะ ซึ่งเวลาเราอ่านชื่อพระนางก็จะมีควารู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น อารมณ์แบบว่ารู้สึกเข้ากันได้มาก มันก็คือมีเคมีบางอย่างของชื่อตัวละครนั่นเองค่ะ น้องๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อแปลกนะคะ เพียงแต่ชื่อแปลกๆ เนี่ยเป็นจุดขายของนิยายแจ่มใสเลิฟซีรี่ส์ค่ะ
Oh_nana บอกว่า...
ปกติ oh_nana จะเขียนนิยายแนวฝรั่งอยู่แล้ว เวลาเลือกชื่อตัวละครก็จะเลือกมาจากชื่อที่มีอยู่จริงๆ เลย แต่จะไม่เอาโหลไปเพราะเดี๋ยวคนอ่านจำไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น นางเอกชื่อเม ก็อาจจะใช้เป็น เมเม่
oh_nana เคยลงพื้นที่จริงด้วยการสอบถามความเห็นนักอ่านจากหลายๆ ทางก่อนจะพบว่า การใช้ชื่อโหลมากนั้นไม่ดี เวลานักอ่านจินตนการก็มักจะคิดถึงเพื่อนสนิทหรือคนชื่อนี้ ทำให้เกิดความรู้สึกขัดเขินหรือตลกค่ะ
Porshenocchio บอกว่า...
ขั้นแรกให้กำหนดคาแร็กเตอร์มาก่อน จากนั้นจึงสรรหาชื่อที่เหมาะสมและนำมาใช้ จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อแปลกสุดโต่ง แค่ทำให้มีกิมมิคก็พอแล้วคนก็จะจำได้เอง ถ้าคิดไม่ออกว่าจะใช้ชื่อแบบไหนก็ลองหยิบชื่อคนใกล้ตัวมา หรือจะลองเสิร์จกูเกิ้ลดูก็ได้ ชอบชื่อไหนก็นำมาแปลงๆ แล้วใช้ค่ะ
เทคนิคการจัดลำดับให้ตัวละคร
นางร้ายบอกว่า...
- แบ่งตามความเหมาะสมและพล็อตเรื่อง
- หยิบตัวละครมาเฉพาะตัวที่มีบทบาทต่อพล็อต
- อิงตัวละครที่มีบทบาทต่อพล็อตเรื่องเป็นหลัก ถ้าตัวไหนไม่มีความสำคัญมากก็อย่าให้ความสำคัญกับเขาจนเกินไป เพราะจะทำให้กลบคู่พระนางและพล็อตเรื่องได้
Oh_nana บอกว่า...
เทคนิคคล้ายกับนางร้าย แต่ขอเสริมนิดนึงก็คือตัวละครควรมีมิติ ไม่ควรสมบูรณ์แบบมากเกินไป
Porshenocchio บอกว่า...
- แบ่งตัวละครตามพล็อตเรื่อง ถ้าเข้ามาก็ต้องมีผลต่อเรื่องด้วย
- ตัวรองหรือตัวประกอบอื่นๆ มีบทบาทได้ แต่ต้องจัดลำดับการให้ความสำคัญให้ได้
จบไปแล้วนะคะกับเคล็ดลับการสร้างแรงบันดาลใจ การวางพล็อตและการสร้างตัวละครให้มีเสน่ห์ตามสไตล์นักเขียนแจ่มใส ใครที่อยากเป็นนักเขียนของสำนักพิมพ์นี้ หรืออยากเป็นนักเขียนของสำนักพิมพ์อื่นจะเอาไปใช้ก็ไม่ว่ากันเลยนะคะ เพราะมันดีมากจริงๆ ^^
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันยังไม่หมดแค่นี้แน่นอนค่ะ เพราะครั้งหน้ายังมีเก็บตกในส่วนของการสร้างบทสนทนา การเขียนบรรยาย รวมทั้งเทคนิคอื่นๆ ที่พลาดไม่ได้จากนักเขียนรุ่นพี่ท็อปๆ แห่งแจ่มใสที่มาร่วมแชร์เคล็ดลับอีก 3 คนค่ะ ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นใครบ้าง ถ้าอยากรู้ต้องรอครั้งหน้านะคะ ขอขอบคุณแจ่มใสมา ณ ที่นี้เลยค่ะสำหรับเคล็ดลับดีๆ จากนักเขียน
สำหรับใครที่อยากอ่านผลงานของเหล่านักเขียนหน้าใสปี 9 ทั้ง 19 คน ก็สามารถเข้าไปชื่นชม ตามอ่านตามคอมเม้นตามโหวตได้แล้วที่ จิ้ม เปิดให้อ่านตอนที่ 2 และโหวตได้วันจันทร์ที่ 16 มกราคมนี้แล้วนะคะ รักเรื่องไหนชอบเรื่องไหนอย่าลืมไปให้กำลังใจพวกเขาทั้ง 19 คนด้วยนะคะ ส่วนวันนี้แอดมินขอลาไปอ่าน #นักเขียนหน้าใสปี9 ก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ
5 ความคิดเห็น
เป็นคำแนะนำที่ดีมากๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
ขอบคุณค่ะ
ชอบมากเลยค่ะ แต่พอหนูคิดนิสัยตามชื่อแล้วมันปวดหัวเอามากๆTT
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ--แค่กๆ
ทำไมไรท์เตอร์หลายๆท่านยังใช้นะคะ-คะ-ค่ะ ไม่ถูกเลย นะค่ะไม่มีใช้
ก็ไม่เคยตรวจทาน
มีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำดี ๆ