เปิดคลังศัพท์นิยายเด็กดีปี 2021 นักอ่านตัวจริงต้องรู้!

เปิดคลังศัพท์นิยายเด็กดีปี 2021 
นักอ่านตัวจริงต้องรู้!

 

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน  “เปิดคลังศัพท์นิยาย” เป็นบทความที่พี่หญิงขอชวนทุกคนมาพูดคุยถึงคำศัพท์แปลกๆ ที่เรามักพบเจอเวลาอ่านนิยาย ไม่ว่าจะเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้นิยามนิยายบางประเภท ศัพท์แสลงวัยรุ่นที่เห็นได้บ่อยๆ ตามเนื้อเรื่องหรือคอมเมนต์ต่างๆ ซึ่งบางครั้งเห็นแล้วต้องแอบร้อง เอ๊ะ ด้วยความสงสัยเบาๆ ว่าคำนี้หมายความว่ายังไงกันแน่ เรียกว่าแต่ละปีก็มีศัพท์ใหม่ๆ อัปเดทเพียบ ยิ่งปี 2021 นี่ศัพท์ใหม่ๆ เยอะมากๆๆๆๆๆๆ

วันนี้พี่หญิงเลยเห็นว่าเป็นโอกาสดี ทำการเก็บรวบรวมเอาคำศัพท์เหล่านี้มาฝากทุกคนกัน จะมีคำไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลย 

1.   Isekai หรือ อิเซไค

ขอเริ่มต้นกันด้วยคำนี้เลยค่ะ Isekai หรือ อิเซไค คำอาจจะไม่ใช่คำที่ใหม่เท่าไหร่ แต่เชื่อว่ายังมีน้องๆ หลายคนที่ยังไม่รู้จัก   “อิเซไค” เป็นคำศัพท์ที่มีที่มาจากไลท์โนเวลของญี่ปุ่น แปลตรงๆ ว่า ต่างโลก (another world) เราจึงอธิบายนิยายแนว Isekai ได้ง่ายๆ ว่าเป็นนิยายแนวต่างโลก เล่าถึงตัวละครที่ใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง แต่มีเหตุให้ทะลุมิติไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างโลก ซึ่งต่างโลกที่ว่านี้ก็จะมีเซ็ตติ้งต่างกันไปตามความชอบของนักเขียน 

แต่ส่วนใหญ่ที่เจอบ่อยจะอิงจากยุโรปยุคกลางแล้วเสริมความแฟนตาซีอย่าง เวทมนตร์ มังกร ของวิเศษ จอมมาร ผู้กล้าเข้าไป ตัวเอกนิยายถ้าไม่มีเป้าหมายที่หาทางกลับโลกเดิม ก็มักจะเล่าถึงเส้นทางการดิ้นรนเอาชีวิตรอดในต่างมิติของหล่าตัวละครเอก 

2.           นิยายปลูกผัก

ถ้าใครอ่านนิยายบ่อยๆ เชื่อว่าเห็นคำนี้ปุ๊บต้องรู้ความหมายปั๊บ เพราะนิยายแนวนี้ เป็นนิยายที่ฮิตมากๆ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะนิยายหมวดอดีต ปัจจุบัน อดีต อนาคต วาย และแฟนตาซี โดยความหมายของนิยายแนว "ปลูกผัก" ก็ตรงตัวเลย หมายถึงนิยายที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการปลูกผัก ทำสวน ทำไร่ ตัวเอกมีชีวิตเป็นเกษตรกรเลี้ยงชีพ หาเงินด้วยการปลูกผักขาย ให้อารมณ์คล้ายๆ กับเกมทำฟาร์ม แล้วมักจะเสริมทัพความน่าสนใจด้วยพล็อตนิยายแฟนตาซี เขียนให้ตัวละครมีความพิเศษอย่าง มิติพิเศษที่ช่วยในการทำฟาร์ม ความสามารถที่ทำให้ปลูกผักง่ายขึ้น เป็นต้น

3.           จูนิเบียว 

จูนิเบียว หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า "เบียว" ถ้าใครเป็นแฟนอนิเมะ หรือ มังงะญี่ปุ่น เชื่อว่าจะรู้จักคำนี้ดี เพราะคำว่า จูนิเบียว มีที่มาจากภาษาญี่ปุ่น ให้คำนิยามถึง "โรคเด็กม. 2" กินความหมายถึงการแสดงออกเหมือนเด็กๆ ที่คิด ว่าตัวเองรู้ไปหมดทุกสิ่ง เหมือนตัวเองโตแล้ว แต่กลับดูถูกคนที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ หรือการที่เชื่อว่าตนเองนั้นวิเศษเหนือผู้อื่น มีสิทธิ์และมีพลังอำนาจเหนือคนอื่น

จูบิเบียว มักจะพยายามทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าเท่ แต่ในสายตาของคนทั่วไปมองว่ามันขัดกับหลักตรรกะสุด ๆ ดูไม่เข้าท่า น่ารำคาญ แปลกประหลาด ใช้คำพูดแปลกๆ ที่แตกต่างจากคนอื่นสุดๆ รวมไปถึงตรรกะการใช้ชีวิตที่ขัดหลักความเป็นจริง แปลกแยกกว่าคนอื่นไปคนละทาง

4.           กาว/เมากาว

อีกหนึ่งคำศัพท์ที่ถึงจะไม่ได้ใหม่ แต่ก็มีคนทักเข้ามาถามอยู่เสมอว่า… กาว คืออะไร!? วันนี้เราเลยจะมาไขข้องใจกันค่ะ

กาว ในที่นี้ไม่ได้ความถึงกาวที่ใช้ทาติดยึดสิ่งของต่างๆ แต่มันคืออาการไร้สติ รั่วฮาแบบหลุดโลก มักเอามาใช้นิยามตัวละครที่มีนิสัยคิดเองเออเอง ชอบมโนแบบสุดกู่ ไม่สนใจความคิดชาวบ้าน รวมถึงพล็อตนิยายประหลาดๆ มีตรรกะชวนงง ก็จะเข้าข่ายคำนี้นิยามนี้เช่นกัน เปรียบเทียบกับอาการของคนเมากาว แล้วไร้สติ ล่องลอย มึนๆ เบลอๆ เป็นต้นค่ะ 

5.           น้วย

น้วย เป็นคำที่มาจากคำว่า นัวเนีย เป็นคำศัพท์ที่มักเจอใช้บ่อยๆ ในทวิตเตอร์ หรือ เฟซบุ๊ค ให้ความหมายถึงการซุกไซ้ เอาศีรษะหรือใบหน้าไปถูไถกับร่างกายของผู้ที่เราหมั่นเขี้ยวหรืออะไรก็ตาม ส่วนที่มักถูกน้วย ได้แก่  แขน พุง  ซอกคอ หัวไหล่ เป็นต้น

ผู้เป็นเป้าหมายของการน้วย ก็จะมีคาแรกเตอร์ ตัวเล็ก น่ารัก แบ๊วๆ น่าเอ็นดู จนปลุกความเป็นแม่ในตัวนักอ่านขึ้นมา! ทำให้นักอ่านมักเอาคำๆ นี้มาใช้บรรยายความรู้สึกเอ็นดูตัวละครมากๆๆ หลงใหลในความน่ารักจนอยากเข้าไปน้วย ฟัดแก้ม ด้วยความรัก!

6.           นิยายแนวระบบเกม/นิยายแนวระบบ

นิยายแนวระบบเกม เป็นอีกคำที่มีคนสงสัยกันเยอะมากๆ ทักเข้ามาตามเพจนิยายและเพจนักเขียนเด็กดี เป็นประจำว่าหมายถึงนิยายแนวไหนกันแน่ แล้วนิยายแนวระบบเกม กับ นิยายแนวเกมออนไลน์ และระบบหลายโลกที่เหมือนกันไหม คำตอบมีความคล้ายคลึง แต่ไม่เหมือนกันค่ะ เพราะนิยายแนวระบบเกม ก็คือ นิยายที่หยิบเอาระบบที่เรามักเจอได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์อย่าง ระบบเลเวล ระบบเก็บค่าประสบการณ์ หรือ ระบบร้านค้า ฯลฯ มาใช้ในโลกของความเป็นจริงในนิยาย ไม่ได้จำกัดเพียงแต่ในเกมออนไลน์เท่านั้น โดยระบบเหล่านี้มักปรากฏเป็นตัวช่วยพิเศษให้กับเหล่าตัวละครเอก ส่งเสริมให้ตัวเอกของเรื่องมีความโดดเด่น หรือ สามารถไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่จำกัดว่าต้องเป็นพล็อตลักษณะนี้เสมอไป บางเรื่องอาจมีความแตกต่าง ลักษณ์ลักษณะเฉพาะตามแต่นักเขียนแต่ละคนจะสร้าง คิดสร้างสรรค์ออกมา

7.           นิยายระบบหลายโลก

นิยายแนวระบบหลายโลก นิยายแนวนี้ก็จะมีความคล้ายคลึงกับนิยายแนวระบบเกม ตามข้อ 6 เลย แต่จะเพิ่มความพิเศษขึ้นมาอีกนิดตรง ตัวเอก ของเรื่องจะไม่ได้ใช้ชีวิตในโลกไหนโลกเดียว แต่จะมีการข้ามมิติไปทำภารกิจตามโลกต่างๆ โดย “ระบบ” ในนิยายแนวนี้จะทำหน้าที่เป็นทั้งผู้มอบภารกิจ และผู้ช่วย นิยายนี้จะมีจุดร่วมที่เหมือนกันอยู่ 4 ส่วนใหญ่ๆ คือ… 

  • ตัวเอกต้องทำบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดจนทำให้ต้องผูกติดกับระบบ /ได้รับระบบมาโดยบังเอิญ
  • มีระบบที่เป็นทั้งผู้ช่วยและผู้มอบภารกิจ
  • ภารกิจที่ตัวเอกได้รับจะไม่ได้จำกัดในโลกใดโลกหนึ่ง เมื่อตัวเอกทำภารกิจเสร็จแล้วก็จะมีการย้ายไปทำภารกิจในโลกอื่นต่อ
  • ตัวเอกจะได้รับ “รางวัล/ค่าตอบแทน” เมื่อทำภารกิจที่ระบบกำหนดไว้ได้สำเร็จ

8.           เมะ  (Seme) 

ใครอ่านนิยายวายต้องรู้จักนะคำนี้ เพราะคำว่า เมะ มีความหมายถึง ฝ่ายรุก หรือ คิง ในนิยายวาย มีรากศัพท์มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า 攻める (semeru) ที่แปลว่า โจมตี แล้วมีการเรียกทับศัพท์ในกลุ่มสาววายมาเรื่อยๆ เรียกไปเรียกมาก็ย่อจากคำว่า "เซเมะรุ" เป็น "เซเมะ" จนปัจจุบันก็เหลือแค่ เมะ ที่นิยมใช้กันมากๆ ในหมู่สาววาย หรือ กลุ่มคนที่อ่านนิยายวายเป็นที่เรียบร้อย

9.           เคะ

เคะ ก็เป็นคำที่ใช้ในกลุ่มนิยายวายเช่นกันค่ะ มีต้นกำเนิดคล้ายๆ กับคำว่า เมะ แต่จะมีความหมายแตกต่างกัน เคะ จะหมายถึงตัวละครฝ่ายรับ หรือ ควีน ในนิยายวายค่ะ มีรากคำมาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า 受ける (ukeru) ที่แปลว่า โดนโจมตี สาววายเอามาเรียกทับศัพท์ตาม แต่เรียกไปเรียกมาจากคำว่า อุเคะรุ ก็ย่อเป็น อุเคะ จนปัจจุบันก็เหลือแค่คำว่า เคะ คำเดียวเป็นที่เรียบร้อย! 

10.       FEMBOY

FEMBOY หรือ เฟมบอย เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในวงการนิยายวายเช่นกัน โดยนิยายที่ติดแท็กคำๆ นี้ หรือแจ้งว่าเป็นนิยายวายแนวแฟมบอย จะหมายถึงนิยายที่นายเอกมีลักษณะเป็นคาแรกเตอร์แบบผู้หญิง หรือ ออกสาวร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยส่วนมากจะยังไม่มีการแปลงเพศ แต่มีการแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลย  

11.       Mpreg

Mpreg หากใครไม่ใช่สาววายอาจไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ เพราะ “Mpreg” เป็นคำบ่งบอกถึงนิยายสายหนึ่งของนิยายวาย เกิดจากการรวมคำที่มีความหมายสองคำเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นนิยามของคำศัพท์ใหม่ สามารถแยกรากศัพท์ออกมาได้เป็นสองส่วนก็คือ

  • M ที่มาจาก Man หรือ Male ให้ความหมายถึง เพศชาย
  • Preg ที่มาจาก Pregnant หรือ Pregnancy ให้ความหมายถึง การตั้งครรภ์

สรุปแล้วนิยายแนว Mpreg จึงหมายถึง นิยายแนววายที่ผู้ชายตั้งครรภ์ได้ค่ะ 

12.       OMEGAVERSE

Omegaverse หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อของ จักรวาล ABO เป็นจักรวาลสมมติที่ถูกสร้างต่อยอดมาจากแฟนฟิคซีรี่ส์ยอดนิยมจากฝั่งตะวันตกเรื่อง Supernatural กล่าวถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างบุคคลที่อ้างอิงรายละเอียดต่างๆ มาจากการแบ่งชั้นชนทางสังคมของ "ฝูงหมาป่า" ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมจากฝั่งตะวันตก และค่อยๆ ลามมาถึงโซนเอเชีย (ญี่ปุ่น) จนถึงไทยในที่สุด

นิยายแนวโอเมก้าเวิร์สจะให้อารมณ์คล้ายๆ กับนิยายแนว Mpreg อยู่เล็กน้อย คือ เป็นนิยายที่ผู้ชายสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมานิดนึง คือ นิยายแนวนี้ไม่ใช่มีเพียงแต่ผู้ชายกับผู้ชาย เท่านั้นที่สามารถให้กำเนิดทารกได้ ผู้หญิงกับผู้หญิง เองก็สามารถทำได้เช่นกัน 

นอกจากการตั้งครรภ์ที่เป็นจุดเด่นของนิยายแนวนี้แล้ว นิยายแนวนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดสำคัญของธีมเลยก็คือ การจำลองการแบ่งชนชั้นกันของฝูงหมาป่ามาใช้กับมนุษย์ โดยไม่มีเพศทางกายภาพหญิงหรือชายมากำหนดบทบาทในสังคมอีก แต่จะแบ่งเป็น อัลฟ่า เบต้า และโอเมก้าแทน

  •  อัลฟ่า ผู้อยู่จุดสูงสุดในสังคม เปรียบเหมือนฝ่ายรุก  หรือ เมะ
  • เบต้า เป็นมนุษย์ปกติ คนธรรมดาทั่วไป
  • โอเมก้า ชนชั้นล่างสุดของสังคม เป็นชนชั้นที่เพศชายสามารถตั้งครรภ์ได้  เปรียบเหมือนฝ่ายรับ หรือ เคะ

แล้วเสริมความน่าสนใจของเรื่องด้วย การหยิบประเด็นเกี่ยวกับ “คู่แท้” และ “การผูกพันธะ” มาเล่นในลักษณะของอัลฟ่า และโอเมก้า ที่จะมี การผูกพันธะ กันเกิดขึ้น หลังจากอัลฟ่ากัดลงที่คอของโอเมก้า เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ 

13.       Rainverse

เป็นนิยายแนวในธีมเดียวกันของนิยายโอเมก้าเวิร์ส แต่ความพิเศษของเรนเวิร์สคือเป็นนิยายที่มี “สายฝน” เป็นปมสำคัญในเรื่อง ตัวละครในนิยายธีมนี้จะมีอาการหูดับในวันฝนตก ไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรได้เลย นอกจากคู่แท้ของตนเอง 

14.       Nameverse

 อีกหนึ่งนิยายแนวโลก Verse ต่างๆ ที่กำลังฮิตมากในหมวดนิยายวาย โดยจุดเด่นของ Nameverse คือเป็นนิยายที่เล่าถึงเรื่องราวของโลกที่ทุกคนเกิดมาพร้อมชื่อของคู่แท้ที่จะปรากฏตามร่างกายของแต่ละคน และเมื่อไหร่ที่เจอคู่ชีวิตของตัวเอง ชื่อที่อยู่บนร่างกายจะมีสีเข้มขึ้น และถ้ามีความสัมพันธ์ทางกายทั้งคู่ก็จะสามารถแบ่งปันความรู้สึกและทุกๆ อย่างต่อกันได้

15.       Cakeverse

เค้กเวิร์ส นิยายแนวนี้จะคล้ายๆ กับ Omegaverse เลย คือจะมีการแบ่งมนุษย์ออกเป็น 3 ประเภทเหมือนกันเป๊ะ เพียงแต่เค้กเวิร์ส จะแบ่งเป็น เค้ก ส้อม และคนธรรมดา 

  • เค้ก กลุ่มคนที่มีกลิ่นและรสชาติหวานๆ อร่อยๆ เหมือนเค้ก ซึ่งแต่ละคนก็มีรสชาติเป็นของตัวเอง เค้กอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นเค้กก็ได้ จนกระทั่งถูกฟอร์ค (ส้อม) พบตัว สำหรับส้อม คนที่เป็นเค้กจะมีรสชาติอร่อยเหมือนของหวานต่างๆ
  • ส้อม กลุ่มคนที่ไม่สามารถรับรู้รสชาติของอาหารได้เลย แต่จะรับรู้รสชาติของคนจำพวกเค้กได้ ทั้งยังได้กลิ่นของหวานจากตัวชัดเจน
  • คนธรรมดา ก็คือ คนธรรมดาทั่วไป ไม่มีความพิเศษเหมือนส้อมและเค้กในเวิร์สนี้

 ถ้าลองเอามาเปรียบเทียบกับแนวโอเมก้าเวิร์ส เค้ก จะมีลักษณะตรงกับ โอเมก้า คือเป็นเหยื่อ หรือมีสถานะต่ำกว่า และอ่อนแอกว่าส้อม ส่วน “ส้อม” จะเปรียบเหมือน “อัลฟ่า” กลุ่มผู้นำในสังคม เป็นผู้ล่าโดยกำเนิด 

16.       colour verse

ตัวละครในเวิร์สนี้จะมี Soulmate กำหนดมาตั้งแต่เกิด ตัวละครจะมองเห็นโลกเป็นสีขาวดำ แต่เมื่อเจอ Soulmate แล้วจะค่อยๆ เห็นสีเพิ่มมากขึ้นทีละนิดจนเห็นเป็นปกติ ในกรณีที่บรรลุนิติภาวะแล้วยังไม่เจอ Soulmate ตัวละครนั้นๆ ก็จะตาบอด

 

และทั้งหมดนี้คือศัพท์จากนิยายเด็กดีที่เราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ค่ะ เชื่อว่าหลายคนต้องเคยคุ้นตากับคำเหล่านี้มาไม่มากก็น้อย บางคำเราก็รู้ความหมายเป็นอย่างดี แต่บางคำเราก็เคยเห็นแต่ไม่รู้ความหมาย วันนี้ก็เลยเป็นโอกาสดีที่เราได้มาร่วมไขปริศนาต่างๆ ไปด้วยกัน แต่บอกไว้ก่อนนิดนึงว่า คำศัพท์ที่เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากนิยายเด็กดีเท่านั้น ยังไม่ใช่ทั้งหมด หากมีคำแปลกๆ ที่อยู่ในวงการนิยาย หรือเป็นคำไม่รู้ความหมาย แต่เจอบ่อยๆ ในนิยายก็สามารถหยิบยกเอามาแชร์ พูดคุยกันเพิ่มเติมได้เลยจ้า

ส่วนวันนี้พี่หญิงต้องขอตัวลาไปก่อนเจอกันใหม่ครั้งหน้า วันนี้สวัสดีค่ะ 

 

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่

 พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

4 ความคิดเห็น

หิวข้าวเกรียบ Member 21 ม.ค. 64 15:27 น. 1

มีหลายคำที่ผมยังไม่รู้และเคยเห็นมาก่อน พึ่งจะมาเจอในกระทู้นี้นี่แหละครับ ขอบคุณมาก


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Paradiseverse Member 25 ม.ค. 64 15:02 น. 3

จะว่าไปสำหรับแนวระบบเกมควรติดตั้งกับชุดเกราะแบบไฮเทคมากกว่าเพราะคนปกติที่ไหนที่สามารถใช้สเตตัสได้ คือแบบนั้นยังพอเป็นไปได้มากกว่าแนวระบบเกมทั่วไปอีกนะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด