เราเหมาะกับคณะสถาปัตย์รึป่าวนะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้พี่มาฝึกงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีเวลาหน่อยละ เลยอยากจะเขียนให้น้องๆที่ใฝ่ฝันจะเข้าคณะสถาปัตย์ได้เตรียมตัวกันก่อน น้องๆม.6 หลายคนที่สอบติดก็สบายแฮ สามารถชิลได้ไปอีกสองสามเดือนก่อนจะเปิดเทอม แต่พี่จะบอกก่อนเลยน๊ะว่าคณะสถาปัตย์จุฬา(และน่าจะมหาลัยอื่นๆด้วย) เป็นคณะที่รับน้องเยอะมากๆ ก็ขอให้เตรียมพร้อมกันให้ดี.. ส่วนเด็กม.4 ม.5 ที่ยังเห็นคณะนี้เป็นคณะในฝันอยู่ ก็อย่าได้ลดละความพยายาม ดูรุ่นพี่โรงเรียนที่ติดแล้วเป็นตัวอย่างสิครับ ชิลมากๆเลยว่ามั้ย?
สำหรับใครที่ยังไม่อ่านกระทู้เก่าๆของพี่ ลองไปอ่านกันดูนะครับ
- เจาะลึก ‘เด็กถาปัต เค้าเรียนอะไรกัน’ กับ 3 ผลงานที่พี่ภูมิใจ
http://www.dek-d.com/board/view/3603349/
http://www.dek-d.com/board/view/3603349/
- 5 สิ่งที่เด็กม.ปลายเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถาปัตย์ + วิธีการฝึก PAT4 เบื้องต้น
http://www.dek-d.com/board/view/3608915/
- เจาะลึก 6 กลุ่มวิชาสุดโหดในสถาปัตย์
http://www.dek-d.com/board/view/3618418/
http://www.dek-d.com/board/view/3608915/
- เจาะลึก 6 กลุ่มวิชาสุดโหดในสถาปัตย์
http://www.dek-d.com/board/view/3618418/
- 10 เครื่องเขียน ที่เด็ก(อยากเรียน)ถาปัตต้องรู้จักพร้อมราคาเบื้องต้น
http://www.dek-d.com/board/view/3628452/
http://www.dek-d.com/board/view/3628452/
- ไขข้อข้องใจ สถาปัตอินเตอร์(INDA) VS. ภาคไทย เรียนอันไหนดีกว่ากัน
http://www.dek-d.com/board/view/3630874/
http://www.dek-d.com/board/view/3630874/
คราวนี้พี่จะพูดคุยเกี่ยวกับลักษณะนิสัยที่เหมาะกับการเรียนคณะถาปัตย์ โดยจะเน้นไปในเชิงการวิเคราะห์ตัวน้องเองและคนรอบข้าง เพื่อลองเช็คดูเบื้องต้นว่าน้องๆมีลักษณะนิสัยเหมาะสมกับการที่จะเรียนคณะสถาปัตย์ขนาดไหนนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากเข้าหรือเข้าได้แล้วประมาณนึง เพื่อจะเข้าใจว่าเห้ยยย ตัวเรา
เหมาะกับสถาปัตย์ขนาดไหนกันแน่!!!
1. Creative/ Problem Sloving เป็นคนสร้างสรรค์ พยายามแก้ปัญหา
เหมาะกับสถาปัตย์ขนาดไหนกันแน่!!!
1. Creative/ Problem Sloving เป็นคนสร้างสรรค์ พยายามแก้ปัญหา
http://justcreative.com/wp-content/uploads/2008/09/idea.jpg
เราสามารถเช็คตัวเองได้เลยนะครับว่าเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์รึป่าว! เช็คยังไงหล่ะ? เอาง่ายๆนะครับ เวลาน้องมองของรอบๆตัว น้องสงสัยและต้องการจะเข้าใจ หรือยิ่งไปกว่านั้นพยายามจะหาทางที่จะพัฒนาให้ดีไปกว่าเดิมได้รึป่าว.. เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นคนช่างสังเกต แบบว่าไปที่ไหนก็ตั้งคำถาม พยายามหาคำตอบ และพยายามหาสิ่งที่ดีกว่าในการทดแทน เช่น ‘เห้ยถ้ามันไม่เป็นแบบนี้แล้วมันจะเป็นยังไง’ หรือแบบว่า ‘สีอันนี้ไม่เห็นสวยเลย ถ้าเป็นแบบนี้จะสวยกว่าไหม’ อีกตัวอย่างเช่น “เห้ยแบบนี้ไม่เห็นเวิคเลย ทำแบบนี้น่าจะดีกว่านะ”
ถ้าน้องๆมีความคิดแบบนี้ สบายใจได้ส่วนนึงละครับ จิตวิญญาณแห่งนักออกแบบเริ่มเข้าสิงละครับ
2. Process of Thinking เป็นคนคิดมีระบบ ไม่ฟุ้งซ่าน
2. Process of Thinking เป็นคนคิดมีระบบ ไม่ฟุ้งซ่าน
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว คนบางประเภทจะตั้งคำถาม พยายามหาทางแก้ แต่มันจะทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ครับถ้าหากน้องไม่เป็นคนคิดอย่างมีระบบ ความต่างคือ สถาปนิกจะสามารถหาวิธีการทำทางแก้ปัญหาให้เป็นจริงได้ ถูกตรรกะ ต่างจากพวกศิลปินคือ เวลาพวกเขาคิดจะพยายามวาดออกมา ไม่แคร์ว่ามันจริงหรือไม่จริง สวยหรือไม่สวย ง่ายๆคือการระบายอารมณ์ แต่ด้วยกระบวนการคิดแบบมีระบบ รู้ว่าอันนี้ทำได้ อันนี้ทำไมได้ รู้เหตุรู้ผล ถ้าเป็นแบบนี้ ก็สามารถผ่านไปข้อสามได้เล้ย
เนื่องจากงานที่เราทำเป็นงานออกแบบ นอกจากการสังเกต หาทางแก้ ทำให้ได้จริง ยังจะต้องเป็นคนที่เตรียมทางเลือกไว้หลายรูปแบบด้วย เนื่องจากมันยากในการที่จะออกแบบไปแบบเดียวแล้วจะตรงใจลูกค้าถูกไหมครับ ยิ่งเป็นของใหญ่ๆแบบบ้านแล้วเนี่ย ลูกค้าจะมีความเรื่องมากสุดๆ เพราะฉะนั้นการออกแบบทางแก้ไขปัญหาที่สวย เวิคแล้วนั้น ยังต้องคิดว่ามีทางอื่นที่ดีกว่าไหม แล้วลองทำ มันถึงจะรู้ว่าอันไหนเวิคจริง เวิคไม่จริง คือกว่าจะสร้างอาคารได้ มันมีหลายปัจจัยมากๆ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงเหตุผลหลายชุดมาก เช่น ความสวยงาม(Aesthetics) โครงสร้าง(Structure) งานระบบ(Systems) การก่อสร้าง(Construction) การบริหาร(Management) จึงยาก แต่หากเป็นคนที่ชอบคิด และไม่ย่อท้อต่อเหตุผลหลายประการ เชิญต่อเลยครับ
อันนี้ง่ายๆเลยครับ สายถึกอย่างเดียว เพราะงานจำนวนมาก กับเวลาอันจำกัด ผสานกับความเรื่องมากของลูกค้าและคนว่าจ้าง ความวุ่นวายของการสื่อสารกับคนหลายกลุ่มหลายจำพวก ทำให้บางทีมันหงุดหงิดเอาง่ายๆ ต้องเป็นคนใจเย็นและใช้เหตุผลคุยกัน ถึงจะได้ทางออกที่ดีที่สุดและไม่กระทบกับงาน ถ้ารู้ตัวว่าใจร้อนนี่ต้องปรับปรุงเลยนะ ไม่โอๆ
5. Life Balance เป็นคนจัดการชีวิตได้ดี
http://schillinger-law.com/wp-content/uploads/2014/02/scales-of-justice.png
พวกที่จัดการชีวิตได้ดีคือ ไม่ใช่ทำงานอย่างเดียว 24 ชม. นะครับ เราจำเป็นต้องรู้ว่าชีวิตก็มีอย่างอื่นด้วย มีเพื่อนฝูง มีครอบครัว พี่ไม่ชอบแนวคิดของการทุ่มเทสุดกู่จนบางทีลืมสุขภาพและคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องบริหารชีวิตตัวเองให้ดี ใครจอะบอกว่าเรียนถาปัตไม่ต้องอดนอนอย่าไปเชื่อ อดได้บ้าง แต่ขอให้พอดี ก็เข้าใจบางทีมันไม่ทัน อย่างตัวพี่ก็มีอดนอนบ้างตามความหนักเบา แต่หากจะอดทุกวันทุกเวลา น่าจะตายก่อนประสบความสำเร็จนะครับบบ
5 ข้อนี้ พี่ให้เป็นแนวทางในการเช็คตัวเองนะครับ ว่าตัวน้องนั้นเหมาะกับการเรียนคณะนี้ขนาดไหน
เพราะมีหลายครั้งที่เรียนคณะนี้ล้วเกิดอาการท้อ จึงต้องมาทบทวนและสู้ไปพร้อมๆกัน หากน้องๆรู้ตัวว่ากำลังขาดข้อไหน ขอให้ลองเอาไปพิจารณาและปรับปรุงตัวนะครับ จะทำให้น้องๆเป็นคนที่เก่งมากๆคนนึงเลย สำหรับใครที่มีคำถาม หรืออยากได้คำแนะนำ สามารถโพสใต้คอมเมนท์หรือถามพี่มาทางเฟสบุ๊ก หรือทางเพจก็ได้นะครับ แล้วพี่จะตอบนะจ๊ะ ไปก่อนละน้องๆ ขอให้สนุกกับชีวิตม.ปลายนะครัชชชชช
Facebook : Kavin Cherdchanyapong
Facebook Page : https://www.facebook.com/TohDraftStudio/
Line : Kavin.cherd
IG : Winnerc
3 ความคิดเห็น
ไม่ได้อยากเรียนสถาปัตย์ แต่ชีวิตการคิดแม่งตรงทุกข้อ คนรอบข้างก็บอกบุคลิกตรงสถาปัตย์ เซ็งงงง..
อิจ! อยากเรียนสถาปัตย์มากกกกกกกกแต่ไม่ค่อยตรงเซ็งT^T
มาสลีบความคิดกันไหม?เชื่อดิสลับกับเราโดนทักว่าเหมือนวิศวะชัวร์ค่ะ!555
ขอบคุณมากๆ ค่ะ หนูจะพยายามหวังว่าจะได้เจอพี่ในจุฬานะค่ะ
ชอบคณะสถาปัตย์มาก ชอบการวาดรูปรักทุกสิ่งที่เป็นศิลปะและชอบการถ่ายรูปมาก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?