รู้หรือไม่! 19 เรื่องเบื้องหลัง #บุพเพสันนิวาส ที่ออเจ้าแฟนคลับห้ามพลาด!

• "ติ๊ก เจษฎา - ชมพู่ อารยา" คือคู่พระนางแรกๆ ที่ผู้จัดเล็งเอาไว้
• เบื้องหลังฉากผายปอดสุดฟิน แต่จริงๆ แล้ว "เบลล่ากินปลาร้าก่อนเข้าฉาก!"
• เพลงประกอบละครเพราะๆ คือผู้แต่งคนเดียวกับ "คืนความสุขให้ประเทศไทย"
• เตรียมพบภาค 2 ได้ในชื่อ "พรหมลิขิต" อีก 5 ปีเจอกัน!
  ____________________________

          "ออเจ้า" คำนี้ถ้าพูดเหมือนปีที่แล้ว เชื่อเลยว่าทุกคนต้องทำหน้างงมากก เพราะไม่เก็ทว่าคืออะไร ผิดกับตอนนี้ที่หันไปทางไหนๆ ก็ "ออเจ้า" กันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยกระแสแรงๆ จากละคร "บุพเพสันนิวาส" ที่บอกได้เพียงว่า พลาดแม้แต่ EP เดียว ตอนเช้านี่แทบคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง! ปังหนัก ปังแรงเบอร์นี้ จะรอช้าทำไม เราไปแอบส่องเบื้องลึกเบื้องหลังละครแห่งยุคกัน ว่ามีรายละเอียดอะไรน่ารัก น่าบอกต่อบ้าง กับ 19 เรื่องเบื้องหลัง "บุพเพสันนิวาส" ที่ออเจ้าแฟนคลับห้ามพลาด! กันเลย
 

          1. บุพเพสันนิวาส เริ่มจากการเป็นนิยายออนไลน์บนเว็บไซต์ Dek-D! โดยคุณ “รอมแพง” (นามปากกา) ได้เริ่มโพสต์ให้ชาวเน็ตอ่านกันตั้งแต่ปีพ.ศ. 2552 ก่อนจะถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Happy Banana (ในเครือสำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซ็นเตอร์) และได้รางวัล Seven Book Awards ในปี 2553 กระซิบว่ายอดตีพิมพ์ตอนนี้ ปาเข้าไปเกิน 100,000 เล่มแล้วนะออเจ้า!!!

          2. คู่พระ-นางที่ผู้จัดเล็งไว้แต่แรกไม่ใช่ โป๊ป-เบลล่า แต่เป็น พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ และ พี่ชมพู่ อารยา! แต่ด้วยวัยของพี่ชมพู่ที่ไม่สอดคล้องกับตัวละคร รวมถึงตารางงานที่ไม่ลงตัวของพี่ติ๊ก ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนนักแสดงหลายต่อหลายครั้ง จนมาลงตัวที่ พี่โป๊ป ธนวรรธน์ และพี่เบลล่า ราณี นี่แหละที่เรียกว่า #บุพเพสันนิวาส ของจริง
 

          3. บุพเพสันนิวาส เริ่มเปิดกล้องตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว! (เดือนมกราคม ปี 2559) และใช้เวลาถ่ายทำกว่า 1 ปี 6 เดือน ในส่วนของบทละครนั้นก็ใช้เวลาเขียนนานถึง 2 ปี โดยนักเขียนบทชั้นครูที่เคยฝากฝีมือไว้กับ คู่กรรม, สายโลหิต, นางทาส, รัตนโกสินทร์ และดอกส้มสีทอง มาแล้ว #รู้ยังว่าทำไมปัง

          4. บุพเพสันนิวาส เป็นหนึ่งในละครล็อตสุดท้าย ก่อนที่คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย จะวางมือจากการแสดง ด้วยวัยที่มากถึง 92 ปี ทำให้คุณยายมีอุปสรรคในการท่องจำบท แต่ทุกคนในกองถ่ายก็ดูแลคุณยายดีมากๆ โดยเฉพาะปั้นจั่นและเบลล่า ที่มักชวนคุณยายพูดคุยไม่ให้เหงาเสมอ รวมถึงผู้กำกับที่ช่วยบอกบทให้คุณยายตลอด #กองนี้น่ารักสุดๆ
 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Salaya Sukanivatt
 

          5. “สาลี่” หัวหน้าแม่ครัวตัวเบิ้ม แท้จริงแล้วเธอคือ จีจี้ - กิจจา ผู้ดูแลเสื้อผ้าประจำกองละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งชื่อว่าเป็นเจ้าแม่คอสตูมละครพีเรียด ที่เคยได้รับรางวัลนาฏราช สาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม จากเรื่องขุนศึกและลูกทาสมาแล้ว #แม่ครัวไม่ธรรมดา
 

          6. ชื่อของ “คุณหญิงนิ่ม” ได้มาจากการที่รอมแพง ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู จึงนำมาใช้ และสร้างเรื่องตามจินตนาการขึ้น! #ขนลุกแล้ว

          7. บ้านพี่หมื่นและเรือนนอนของแม่การะเกด ถึงจะเห็นในละครว่าเป็นบ้านเดียวกัน แต่ถ่ายทำคนละที่ โดยบ้านของพี่หมื่นนั้นถ่ายทำที่บ้านเรือนไทย แถวหนองแขม ส่วนเรือนนอนของแม่การะเกด ถ่ายทำที่โรงถ่ายแถวปทุมธานี แต่พอตัดต่อออกมาแล้ว เหมือนกับอยู่บนบ้านหลังเดียวกันเปี๊ยบเลย!
 

          8. ระหว่างการถ่ายทำบุพเพสันนิวาส “พี่โป๊ป” มีอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดเอ็นหัวเข่า ทำให้จะลุกก็โอ๊ยย จะนั่งก็โอ๊ยยย แถมนั่งนานๆ ไป ยังมีอาการเข่าล็อกอีกต่างหาก แต่ถามว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ร่วมกองถ่ายช่วยดูแลกันยังไง ก็ต้องบอกเลยว่า ทั้งดูแล และล้อเลียนไปด้วยในตัว กลายเป็นเรื่องฮาประจำกองซะงั้นเลย

          9. ในส่วนของเบลล่า ก็เคยถูกหามไปส่งโรงพยาบาลกลางกองถ่ายบุพเพสันนิวาสมาแล้ว จากอาการมือสั่น ปากสั่น ไร้เรี่ยวแรงจนเกือบหมดสติ ทำให้ทั้งกองถ่ายต้องวิ่งวุ่นรีบพานางเอกสาวส่งโรงพยาบาล จนสรุปได้ว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษและลำไส้อักเสบเฉียบพลัน จนต้องเลื่อนคิวถ่ายทำออกไป เพื่อรอให้พี่เบลล่าอาการดีขึ้น

          10. แอบกระซิบว่า ฉากพี่หมื่นแร๊พด่าการะเกดซะยาวเหยียดนั้น ถ่ายทำเป็นคิวแรก และถ่ายอยู่นานเป็น 10 เทค! แถมพอเสร็จปุ๊บพี่โป๊ปต้องนั่งพักหายใจเลยทีเดียว แต่ถามว่าคุ้มมั้ยก็คุ้มมากกก เพราะเป็นฉากที่คนพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง!
 

          11. มีหลายฉากมากๆ ที่ทีมงานตั้งใจเนรมิตให้สมจริงแบบทุ่มสุดตัว ทั้งฉากตลาดจีนที่ทีมงานลงทุนสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาทั้งตลาดเพื่อถ่ายทำแค่ฉากเดียว ฉากนรกที่ต้องถ่ายทำในสตูดิโอนาน 2 วันเพื่อออกอากาศแค่ 2 นาที ในส่วนของขนมไทยทั้งหลายที่เห็นน่ากินๆ นี้ ทีมงานก็เชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญขนมไทยโบราณมาทำให้โดยเฉพาะ แถมคลองที่เห็นพี่หมื่นพายเรือไปมานั้น ก็เป็นคลองที่ทีมงานลงทุนขุดขึ้นมาใหม่ ที่โรงถ่ายหนองแขมเลย!

          12. ฉากผายปอดคือฉากที่มีเบื้องหลังฮามากกก เพราะก่อนถ่ายทำเบลล่ากินปลาร้าเข้าไป และพยายามบอกให้พี่โป๊ปกินด้วย จะได้มีกลิ่นเป็นเพื่อนกัน แต่พี่โป๊ปไม่ยอมกิน ทำให้ตอนถ่ายทำฉากผายปอด เบลล่าต้องอุดจมูกพี่โป๊ปเอาไว้ แต่กลิ่นก็ยังเข้าอยู่ดี ทำเอาพี่โป๊ปถึงกับบ่นอุบเลยว่า “ขมคอ”
 

          13. เพลงประกอบละครบุพเพสันนิวาสทั้ง 3 เพลง (บุพเพสันนิวาส ออเจ้าเอย และเธอหนอเธอ) แต่งโดย คุณวิเชียร ตันติพิมลพันธ์ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เรียบเรียงคำร้องและทำนองให้เพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” #สุขจริงๆค่า

          14. เพลง “จันทร์” ของโจ้ ธณรัฐ ปิ่นเวหา คือเพลงที่เกศสุรางค์ร้องให้พี่หมื่นฟังในนิยาย แต่ถูกตัดออกในเวอร์ชันละคร เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ใช้นั่นเอง #เสียดายแรง
 

          15. CG วัดไชยวัฒนารามที่เห็นสวยๆ นั้น เป็นผลงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ซึ่งทำเป็นโปรเจ็กต์จบของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย ใช้เวลาทำและแก้ไขนานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว

อ่านเบื้องหลังของการทำ CG ให้ละครบุพเพสันนิวาส โดยฝีมือนักศึกษาได้ที่นี่เลย!
https://www.dek-d.com/tcas/48890/ 

 

          16. น้องไก่เพื่อนซี้ไอ้จ้อย มีชื่อจริงๆ ว่า “จ๊อก” ซึ่งไม่ใช่ไก่ธรรมดา แต่เป็นไก่เน็ตไอดอล! เพราะมีแฟนเพจเป็นของตัวเองด้วย ใครอยากติดตามชีวิตชิกๆ ของน้องจ๊อก กดไลค์ได้ที่เพจ E Jog เลย
 

          17. ในส่วนของเรตติ้งของบุพเพสันนิวาสนั้นบอกได้คำเดียวว่าปังมากกกก ระดับที่สามารถทำลายสถิตินาคีตอนอวสานได้! โดยล่าสุด EP 14 สามารถทำเรตติ้งรวมทั่วประเทศได้สูงถึง 17.9 และเรตติ้งเฉพาะในกรุงเทพฯ ปาเข้าไป 23.9 น่าลุ้นว่าตอนจบในคืนวันที่ 11 เมษายนนี้ จะสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้อีกหรือเปล่า (พี่กวางว่าได้แน่นอน)

          18. ไม่เพียงเท่านั้น! ความปังของบุพเพสันนิวาส ทำให้มีเอเจนซี่จากประเทศจีนแห่กันมาติดต่อเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ไปขอรีเมค แต่เจ้าไหนจะได้ไป และบุพเพสันนิวาสในเวอร์ชั่นจีนจะเป็นแบบไหน ต้องลุ้นกัน

          19. รอมแพงบอกว่า บุพเพสันนิวาสมีภาค 2 แน่นอน ในชื่อว่า “พรหมลิขิต” ซึ่งเป็นเรื่องราวของรุ่นลูก และยังคงวนเวียนอยู่กับมนต์กฤษณะกาลี โดยจะกล่าวถึงประวัติศาสตร์ช่วงพระเจ้าเสือถึงพระเจ้าท้ายสระ และอาจยาวไปจนถึงพระเจ้าบรมโกศด้วย #แค่คิดก็สนุกแล้ว สำหรับใครที่อยากดู อดใจรอสักนิด รอมแพงบอกว่าขอเวลาภายใน 5 ปี แล้วเจอกันจ้า